ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 2601
ตอบกลับ: 5
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

สระศักดิ์สิทธิ์

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย oustayutt เมื่อ 2015-10-23 17:30

จำได้ว่าสมัยเด็กๆ (หลายปีมากมาย)เคยได้ยินได้ฟังเขาเล่าเรื่อง สระน้ำศักดิ์สิทธิทั้งสี่ เป็นเด็กก็นึงถึงบ่อน้ำในเทพนิยายที่เวลาลงไปแล้วจะรักษาบาดแผล รือทำให้คนแก่กลับเป็นหนุ่ม..อะไรทำนองนั้นรู้ว่าที่สุพรรณมีสระน้ำศักดิ์สิทธิ์แต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน         และการเดินทางสมัยนั้นก็ไม่สะดวกเหมือนวันนี้ จากอำเภอสามชุกเข้าตัวเมืองสำหรับเด็กๆไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย.จนโตขึ้นเข้าไปเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯความคิดเมื่อสมัยเด็กเริ่มจางไป ยอมรับว่าเพิ่งไม่นานมานี้เอง ที่มีโอกาสได้เข้าไปดู  สระศักดิ์สิทธิ์ ในความทรงจำเมื่ออดีต \ป็นเช่นนี้นี่เอง......
สระศักดิ์สิทธิ์ (The Four red Ponds)
อยู่ในเขตตำบลสระแก้ว อำเภอเมือง ริมถนนสายดอนเจดีย์-สุพรรณบุรีห่างจากตัวเมือง 14 กิโลเมตร น้ำในสระทั้ง 4 นับถือว่าศักดิ์สิทธิ์มาแต่โบราณ เป็นน้ำที่ใช้ใน    พิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา และพระราชพิธีสรงน้ำมูรธาภิเษกพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จมาทอดพระเนตรสระศักดิ์สิทธิ์ที่ตำบลนี้ จึงเป็นเหตุให้เปลี่ยนชื่อหมู่บ้านเป็น  บ้านท่าเสด็จ ทรงพระราชหัตถเลขาไว้ว่า “…แต่เหตุไฉนที่สระนี้ขลังนักไม่ปรากฏ   คงจะมีตัวครูบาที่สำคัญเป็นอันมาก น้ำในสระก็ไม่ใช้ ปลาในสระก็ไม่กิน  สระมีหญ้าขึ้นรกเต็มไปหมด มีจระเข้อาศัยอยู่ทั้งสี่สระ…น้ำสระคา    สระยมนา ไม่สู้สะอาด มีสีแดง แต่น้ำสระเกษ สระแก้วใสสะอาด…”

พระราชพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา                                                                                                                                                 
หรือพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัจจาหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า พระราชพิธีศรีสัจจปานกาล หมายถึง พระราชพิธีอันเป็น  มงคลแห่งความซื่อสัตย์ที่ใช้น้ำเป็นเครื่องกำหนด  เรียกอย่างย่อว่า พระราชพิธีถือน้ำ   เป็นการดื่มน้ำที่แทงด้วยพระแสงราชศัสตรา   สาบานตนเพื่อแสดงความซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์    และเพื่อความเจริญก้าวหน้าของตนเอง   หากตั้งอยู่ในความสัตย์นั้น  นับเป็นพระราชพิธีใหญ่สำคัญสำหรับแผ่นดินสืบมาแต่โบราณที่ไทยรับอิทธิพลมาจากอินเดีย มีการประกอบพระราชพิธีนี้มาตั้งแต่สมัยอยุธยา    รัชกาลสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ พระเจ้าอู่ทอง                 ปฐมกษัตริย์ แห่งกรุงศรีอยุธยา     ปรากฏหลักฐานในกฎมณเฑียรบาล กฎหมายตราสามดวง   เรียกชื่อพระราชพิธีว่า ถวายบังคมถือน้ำพระพัท  กำหนดการในเดือน ๑๐ ถือ  เป็นพระราชพิธีที่สำคัญในด้านการปกครอง   มีการกำหนดโทษข้าราชการที่ไม่มารวมพิธีถือน้ำถึงตาย      ยกเว้นผู้ที่เจ็บป่วย            และมีข้อห้ามไม่ให้ใส่แหวนนาก แหวนทองร่วมในพิธี ห้ามกินอาหารก่อนเข้าพิธี     หากผู้ใดดื่มน้ำพระพิพัฒน์สัตยาแล้วยื่นต่อให้แก่กันหรือดื่มแล้วเททิ้งโดยไม่ได้เทใส่ผม         มีโทษเป็นกบฏ ในการเสกทำน้ำพระพิพัฒน์สัตยาให้พระแสงราชศัสตราสำหรับแผ่นดินแทงน้ำประกอบการอ่านประกาศแช่งน้ำโคลงห้า หรือโคลงแช่งน้ำหรือลิลิตโองการแช่งน้ำ   อันเป็นวรรณกรรมศักดิ์สิทธิ์  เพื่อให้เกิดความน่าเกรงกลัวหากจะกระทำผิดจากสัตย์สาบานและเกิดศรัทธาที่จะกระทำความดี    นับเป็นจิตวิทยาทางการ ปกครอง   ที่ควบคุมจิตใจและความประพฤติของข้าราชการให้ตั้งอยู่ในความซื่อสัตย์สุจริตและจงรักภักดีต่อพระประมุขของชาติ      
พระราชพิธีสรงน้ำมูรธาภิเษก                                                                        
น้ำมูรธาภิเษก (น้ำที่จะใช้รดพระเศียรพระเจ้าแผ่นดิน) ที่จะสรงจากสถานที่ต่างๆ อันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในราชอาณาจักรมาทำพิธี     ซึ่งเมื่อทรงสรงด้วยน้ำนี้แล้ว    ก็ถือว่าได้แปรสภาพองค์เข้าสู่ความเป็น      กษัตริย์เป็นขั้นแรก ก่อนจะมีพิธีอื่นๆ ต่อไป


2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-10-23 17:17 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย oustayutt เมื่อ 2015-10-23 17:34

ตำนานสระศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 4
มีตำนานเกี่ยวกับสระศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 4     ว่า มีเจ้าผู้ครองนครองค์หนึ่งมีพระราชธิดา 4          พระองค์ทรงพระนามว่า แก้ว คา ยมนา เกศ     ทุกพระองค์มีพระสวามีแล้ว   แต่องค์สุดท้องคือเกศมีพระสวามีเป็นลิงเผือก    ต่อมาเจ้าผู้ครองนครได้สั่งพระราชธิดา         และพระราชบุตรเขยว่าถ้าใครสามารถขุดสระได้ลึกและกว้างที่สุด  จะมอบพระขรรค์ศักดิ์สิทธิ์และให้ครองนครต่อไป   ดังนั้นทุกคนจึงเริ่มต้นขุดสระ   ส่วนน้องเกศน้องคนสุดท้องต้องขุดอยู่คนเดียว    อีกทั้งตอนถึงเวลากลางคืน พี่สาวทั้ง 3        และพี่เขยยังเอาดินมาถมสระอีก   ครั้นถึงวันสุดท้ายลิงเผือกกับบริวารมาช่วยกันขุดสระพักเดียวก็ได้สระที่กว้างและลึกที่สุดกว่าทุกๆสระ            และยังปลูกต้นเกศไว้ตรงกลางสระเป็นเครื่องหมายอีกด้วย   ครั้งถึงรุ่งเช้าตามกำหนด เจ้าผู้ครองนครก็สวรรคตพอดี                      บรรดาเสนาอำมาตย์จึงตั้งกรรมการมาตรวจดูสระทั้งสี่     ปรากฏว่าสระของเกศกว้างใหญ่และลึกที่สุด   จึงมองพระขรรค์ให้เกศ ทำให้พี่สาวและพี่เขยไม่พอใจ     จึงลักเอาพระขรรค์ศักดิ์สิทธิ์หนีไป  ลิงเผือกจึงขี่ม้าติดตามออกไปจนทันที่สระของเกศ          เมื่อพี่สาวและพี่เขยเห็นจวนตัวจึงขว้างพระขรรค์ลงไปในสระของเกศ   บังเอิญถูกตัดต้นเกศขาดสะบั้นลง    และพระขรรค์ก็อันตรธานหายไป  น้ำในสระจึงกลายเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ตำบลสระแก้ว และ เทศบาลตำบลท่าเสด็จ
  เทศบาลตำบลท่าเสด็จตั้งอยู่ตำบลสระแก้ว อำเภอเมืองสุพรรณบุรี   แต่ก่อนมาได้รับการจัดตั้งเป็นสุขาภิบาลท่าเสด็จ  เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2511 ต่อมาได้รับการยกฐานะจากสุขาภิบาล เป็นเทศบาลตำบล   เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2542             แต่เดิมมาชื่อตำบลมิใช่ “สระแก้ว” แต่เป็น “ท่าว้า” (ชื่อของชุมชนย่านนี้ก็เรียกว่า          “บ้านท่าว้า”) ขึ้นกับอำเภอท่าพี่เลี้ยง    ต่อมาทางราชการได้เปลี่ยนชื่อตำบลจาก “ท่าว้า” เป็น “สระแก้ว”  และเปลี่ยนชื่ออำเภอจาก “ท่าพี่เลี้ยง” เป็น “เมืองสุพรรณบุรี”   ซึ่งชื่อหมู่บ้านก็ได้เปลี่ยนจาก“ท่าว้า” เป็น “ท่าเสด็จ”    การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว       สันนิษฐานได้ว่าสืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว      (รัชกาลที่ 5) ได้เคยเสด็จประพาสเมืองสุพรรณบุรี                  เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พุทธศักราช 2451    และได้เสด็จประพาสมาที่สระน้ำศักดิ์สิทธิ์ ทั้ง 4    ที่ตั้งอยู่ท้องที่บ้านท่าเสด็จ                                                                                                                   http://www.thasadet.com/





วันนี้ได้เดินทางมาที่สระศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x


จุดธูปขอพรสิ่งศักดิ์สิทธ์

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x


ปฎิบัติการนำน้ำศักดิ์สิทธิ์ กลับสำนักครับ เรียบร้อยครับทั้งสี่สระเลย

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2016-2-8 22:45 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
Marine ตอบกลับเมื่อ 2016-2-8 20:41
ปฎิบัติการนำน้ำศักดิ์สิทธิ์ กลับสำนักครับ เรียบร้อยครับทั้งสี่สระเลย

เเจ่มจรัสครับ^^
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้