7.เหมือนเส้นผมบังภูผา ว่าแต่คุณเคยมองขึ้นไปบนฟ้าบ้างไหม โดยเฉพาะในบรรดาฮอลล์ใหญ่ๆ ถ้าคุณหาสำนักพิมพ์ไม่ถูก ขี้เกียจไปค้นในคอมพิวเตอร์ที่เขาจัดให้ หรือพวกมือใหม่ในการมางานดูการประมวลผลเท่าไหร่ก็ยังไม่รู้เรื่อง หรือจำชื่อสำนักพิมพ์ไม่ได้ เราแนะนำให้มองขึ้นไปข้างบน ก็จะพบกับป้ายสำนักพิมพ์ เสมือนเป็นการบอกทางว่า สำนักพิมพ์ที่คุณต้องการอยู่ตรงไหน บอกแล้วเรื่องเล็กๆ ที่ช่วยคุณได้เหมือนกัน [url=]
[/url]ระวังโจรๆ[url=]
[/url]อยู่ที่สูงมองโจร[url=]
[/url][url=]
[/url]8.โหวกเหวกออกมาจากลำโพงข้อความเตือนภัยระวังโจรร้ายภายในงาน ซ้ำไปซ้ำมาแหกปากเสียงดังเกินเดซิเบลหูคนรับได้ ฟังนานๆ มีเวียนหัวแน่นอน เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์เตือนภัยที่เรามักจะพบเห็นกระจัดกระจายตามจุดต่างๆ ของงานมหกรรมหนังสือ มันยังทำให้เราสงสัยว่า ถ้ามีการจัดอันดับประเทศไทยน่าจะมีขโมยมากที่สุดในโลก หรือคุณว่าไม่จริง [url=]
[/url]9.ตบท้ายด้วยเรื่องประทับใจ มันเจ๋งตรงวิธีนำเสนอ แก้ปัญหาข้อ 8 ได้อย่างหมดจด ร้อยตำราจตรี ปรีชา นักงาน หรือหมวดเตื่อย เจ้าหน้าที่ตำรวจจากรถวิทยุสายตรวจกองปราบปราม ซึ่งเป็นนโยบายของท่านผู้การกองปราบฯขับรถตระเวนตามที่ผู้คนพลุกพล่าน พร้อมกับประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนระวังตัวจากมิจฉาชีพกระชาก กรีดกระเป๋า ถือว่าเป็นพระเอกของเราในปีนี้ เรียกว่าหากใครไปงานสัปดาห์หนังสือแล้วเดินทางกลับด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) ไม่ประทับใจลีลาให้เตะก้นคนเขียน 2 ที ด้วยภาษาเตือนภัยที่น่ารัก ปลายเสียงใส่สำเนียงของนักร้องเพื่อชีวิต (ใช่, ไอดอลของเขาคือ แอ๊ด คาราบาว) ประกาศผ่านโทรโข่ง ท่าทางยิ้มแย้มใจดี นอกจากจะทำให้เราอมยิ้ม เสียงโทรโข่งโด่งดังยังทำให้เราระวังตัวพวกกรีดกระเป๋าเป็น 2 เท่าตัว ของคุณหมวดปรีชา เจอท่านก็แวะเอาน้ำเอาท่าไปให้ดื่มหน่อยก็ไม่ผิดกฎกติกาอะไร "ผมมาทำหน้าที่นี้ก็ดีใจ ที่มาบริการให้กับคนที่ใฝ่จะเรียนรู้ ผมชอบงานบริการประชาชน ชอบพบปะพูดคุยกับผู้คน 2-3 ปีที่มาทำงานเตือนภัยให้ ณ จุดนี้ มีเรื่องประทับใจมากมาย มีคนเอาน้ำ เอาขนมมาให้ มาขอถ่ายรูป เท่านี้ก็ชื่นใจหายเหนื่อย" [url=]
[/url]หมวดปรีชา เงาเสียงคาราบาว[url=]
[/url]หมวดปรีชาบอกว่า เขามาทำงานทุกๆ วัน ตั้งแต่เวลา 12.00 น. จนถึง 19.00 น. แม้จะบ่นว่าปวดเมื่อย แต่เห็นคนมางานหนังสือมากขึ้นทุกปี และมิจฉาชีพน้อยลงทุกปี ถือว่าเป็นอีกหนึ่งส่วนที่ช่วยก็ดีใจ "คนสมัยนี้ฉลาด ระวังตัว พวกมิจฉาชีพไม่ใช่น้อยขึ้น แต่ก่อเหตุได้น้อยขึ้น เพราะเรามีความรู้และระมัดระวังตัวกันมาก อย่างงานที่ขอหน่วยงานให้ผมไปช่วย เช่น สวนจตุจักร หรืออนุสาวรีย์ เวลาคนขึ้นรถเมล์คนขึ้นเยอะๆ หรือเดินๆ กันแน่นๆ คนพวกนี้ก็จะก่อเหตุง่าย พอเราประกาศให้ระวังพวกมิจฉาชีพ แล้วก็ใส่ลีลาไป คนก็สนใจ เยาวราชก็เคยขอกำลัง หัวหน้าก็ส่งผมไปพอเสร็จงาน ปีนี้เขาขอจองตัวผมไป เพราะพูดเก่งได้สาระและมีความฮาจากการใส่มุกเข้าไป" ลีลาแบบนี้เขาฝึกฝนเอง ฝึกพูดต่อที่สาธารณะมากๆ ฟังมากๆ ที่สุดมันก็ตกผลึกเป็นแนวเรา สุดท้าย หมวดปรีชาย้ำทิ้งท้ายว่า ตนเองประจำอยู่ประตูใกล้ๆ กับรถไฟฟ้าใต้ดิน เจอกันได้ยินเสียงกันก็เข้ามาทักทายถ่ายรูปกันได้ อีกอย่างก็อยากให้คนมางานหนังสือให้มากๆ อ่านให้มากๆ ประเทศชาติเราจะได้เจริญ. [url=]
[/url]ลากกระเป๋า (ภาพนี้ไม่เกี่ยวกับเนื้อหา)อ้อ ทิ้งท้ายเรื่อง 'รถเข็นหนังสือ' ที่หลายคนบ่นยิกๆ มามากทุกปี ปีนี้ยิ่งบ่นมากเข้าไปใหญ่ เพราะมันมักจะสร้างปัญหาให้กับ โป้ง ชี้ กลาง นาง ก้อย รวมๆ แล้วเรียกว่านิ้วเท้า หรือหัวเข่า แข้งขา ของผู้ที่ไม่ได้เป็นญาติของคนลากรถที่ว่าแต่ประการใด ก็อย่างว่าส่วนใหญ่อยู่ข้างหลังคนเข็นจะไม่เห็นคนที่เดินแซง หรือเดินสวนกันหลายเห็นเป็นเรื่องสุดวิสัย แต่ถ้าริจะใช้รถก็ระมัดระวังให้ดีๆ เตรียมคำขอโทษไว้ให้มากๆ ไม่เช่นนั้นมางานหนังสือเข็นรถชิลไปมาอาจจะได้แผลกลับไป เตือนด้วยหัวใจเพราะหวังดี. [url=]
[/url][url=]
[/url]ด็อกเตอร์ป๊อบ[url=]
[/url][url=]
[/url][url=]
[/url][url=]http://www.thairath.co.th/content/534934[/url]
|