ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 3069
ตอบกลับ: 3
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

สระน้ำศักดิ์สิทธิ์วัดโพธิ์เก้าต้น

[คัดลอกลิงก์]



ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของสระน้ำศักดิ์สิทธิ์วัดโพธิ์เก้าต้น เกิดขึ้นเมื่อสมัยอยุธยา ปี พ.ศ. ๒๓๐๘ ไทยสู้รบกับพม่า โดยฝ่ายพม่า มีพระเจ้ามังระ ราชบุตรกษัตริย์พม่าแห่งกรุงอังวะ ได้ตั้งให้เนเมียวสีหบดี เป็นแม่ทัพฝ่ายเหนือยกกองทัพมาทางด้านแม่ละเมาพร้อมแต่งตั้งให้สุรินทจอข่อง เป็นแม่ทัพถือพลพันเศษยกทัพ มาตั้งค่ายอยู่ที่เมืองวิเศษไชยชาญเที่ยวออกปล้นสะดม ส่วนภายในกรุงศรีอยุธยาก็ต่อสู้แย่งอำนาจเป็นใหญ่อยู่แต่ภายในกำแพงวัง ไม่มีใครจะอาสาออกศึกภายนอกกับพม่าทำให้พม่าข่มเหงราษฎรตามความพอใจเป็นเหตุให้คนไทยเจ็บแค้นแสนสุดที่จะทนได้
จึงมีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งรวมตัวกัน ประกอบด้วย นายแท่น นายอิน นายเมือง นายโชติ นายดอก นายทองแก้ว ขุนสรรค์ นายพันเรือง นายจันหนวดเขี้ยว นายทองเหม็น และนายทองแสงใหญ่ เป็นผู้นำชาวบ้าน ได้รวมกำลังต่อสู้กับพม่าเพื่อรักษาแผ่นดินบ้านเกิดของตน และได้ถวายตัวเป็นศิษย์พระอาจารย์ธรรมโชติสร้างค่าย ๒ ค่าย ค่ายเล็กตั้งค่ายบริเวณวัดประโยชน์ (วัดยวด) ค่ายใหญ่ตั้งค่ายบริเวณ วัดไม้แดง(วัดโพธิ์เก้าต้นในปัจจุบัน) ซึ่งในวัดไม้แดงมีสระน้ำที่ชาวบ้านใช้อุปโภคบริโภค
ในสมัยนั้นเมื่อชาวบ้านเจ็บไข้ไม่สบายจะรักษาโรคต่าง ๆ ด้วยสมุนไพรพื้นบ้านหรือใช้วิธีการรดน้ำมนต์จากพระภิกษุที่ชาวบ้านเคารพนับถือ และในขณะนั้นเกิดภาวะสงคราม มีชาวบ้านเป็นจำนวนมากที่เจ็บป่วย จึงมาขอให้พระอาจารย์ธรรมโชติรดน้ำมนต์ให้ ขณะเดียวกันนักรบชาวบ้านบางระจันที่รวมตัวกันอีกเป็นจำนวนมาก ที่จะออกสู้รบกับทหารพม่า มาขอให้พระอาจารย์ธรรมโชติรดน้ำมนต์ให้ เพื่อเป็นสิริมงคลในการทำศึก ทำให้มี ความต้องการน้ำมนต์เป็นจำนวนมาก พระอาจารย์ธรรมโชติจึงทำการบูรณะสระน้ำในวัดไม้แดง พร้อมปลุกเสกน้ำในสระให้เป็นน้ำมนต์ เพื่อให้เพียงพอกับการรักษาโรคภัยให้กับชาวบ้านและใช้รดน้ำมนต์ให้เพื่อเป็นสิริมงคลแก่นักรบทุกคน ที่ออกสู้รบกับพม่า ชาวบ้านจึงเรียกสระน้ำนี้ว่า “สระน้ำศักดิ์สิทธิ์”สืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน
สระน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้ถือเป็นเครื่องรางของขลังของชาวบ้านบางระจันในการออกรบกับพม่าถึง ๘ ครั้ง ชนะพม่า ๗ ครั้ง ครั้งที่ ๘ ค่ายบางระจันเสียแก่ข้าศึกเมื่อวันจันทร์ เดือน ๘ แรม ๒ ค่ำ พ.ศ. ๒๓๐๙ รวมเวลา ตั้งค่ายสู้กับพม่าได้ ๕ เดือน เมื่อค่ายบางระจันแตก วัดไม้แดงก็ถูกทิ้งร้างและทรุดโทรม จนกระทั้งถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ประมาณ พ.ศ. ๒๔๘๔ มีประชาชนอพยพมาตั้งบ้านเรือนบริเวณนี้มากขึ้นวัดไม้แดงได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์เรื่อยมา ในปี พ.ศ. ๒๔๙๒ ได้มีการขออนุญาตสร้างวัดขึ้นใหม่ จนถึงปี พ.ศ. ๒๕๑๑ ได้รับการยกฐานะให้เป็นวัดที่มีพระภิกษุจำพรรษา และมีชื่อเรียกว่า “วัดโพธิ์เก้าต้น” ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ ๘ ตำบลบางระจัน อำเภอ ค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี
สิ่งสำคัญภายในวัด นอกจากสระน้ำศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังประกอบด้วย วิหารพระอาจารย์ ธรรมโชติ ซึ่งตั้งอยู่คู่กับสระน้ำศักดิ์สิทธิ์
สระน้ำศักดิ์สิทธิ์ วัดโพธิ์เก้าต้น เป็นแหล่งน้ำสำคัญของจังหวัดสิงห์บุรี แห่งเดียวที่เคยใช้ทำน้ำ พระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ทูลเกล้าฯ ถวายในพะราชพิธีมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา ๕ รอบ เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๓๐ ถวายในพะราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๔๒ ปี ๒๕๕๐ ถวายในพะราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ และในปีนี้ ๒๕๕๔ ถวายในพะราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ เป็นครั้งที่ ๔


ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้