ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 2593
ตอบกลับ: 2
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

เล่าขานอภินิหารบารมีหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา กรุงเทพฯ

[คัดลอกลิงก์]
หลวงปู่ทอง เป็นพระเถราจารย์ยุคเก่า ผู้มากด้วยอิทธิคุณและบุญฤทธิ์ วัดราชโยธา สร้างอยู่ในแหล่งอิสลาม ถ้าพระสมัยก่อนท่านไม่แน่จริง ก็คงจะย้ายวัดกันตามระเบียบ เพราะอยู่ไม่ได้ แต่หลวงปู่ทอง พระสงฆ์ไทย ที่อยู่ในแหล่งอิสลาม ท่านมีอภินิหาร มากมาย ที่เกิดขึ้นจนเป็นที่ประจักษ์ กับพวกอิสลาม จนเกิดความเลื่อมใส เหล่าชุมชนอิสลาม ยังนับถือ ตักบาตร ไหว้พระ กับหลวงปู่ ก็เป็นเรื่องน่าประหลาดใจ หลวงปู่ทอง เป็นพระเกจิที่มีประวัติ หลายมุม แต่สำหรับผม จะเล่าประวัติในส่วนที่ผม ได้รับฟังมา เดิมทีผมรู้จักพระเครื่องของหลวงปู่ก่อน ในสมัยยังพึ่งเริ่มเล่นพระใหม่ ๆ ก็ปิดตาเมฆพัด หลังยันต์ นั้นแหละ ที่มีความนิยมกันมากมายในปัจจุบันนี้ พระปิดตาชุดนี้พบที่ฐานพระ ในวัด และวัดนำออกมาให้บูชาพบอยู่หลายองค์ จำนวนผมไม่แนใจ แต่คิดว่าหลังพันองค์ขึ้น จากการยืนยัน ของพระสงฆ์ที่อยู่ที่วัดก่อน ประกอบกับอายุพระเครื่อง บวก ลบ แล้วน่าจะสร้างในสมัย


https://www.facebook.com/konkrungkao/posts/1149779685082484:0





2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2016-10-11 11:56 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
หลวงปู่ยังมีชีวิต
นั้นเป็นพระเครื่ององค์แรกของหลวงปู่ที่ผมรู้จัก ต่อมาก็มาเล่นเหรียญ ของอาจารย์แก้ว คำวิบูลย์สร้าง เป็นเหรียญไม่ทันหลวงปู่แต่ราคานิยม มากมาย นัก ด้วยประสบการณ์ที่มีพบเจอกันบ่อย แต่อาจารย์แก้ว ก็เป็นศิยษ์หลวงปู่ เหมือนกับอาราจรย์แถว , อาจารย์เจ๊ก , หลวงพ่อเขียน , หลวงปู่รอด วัดหลวงแพ่ง ซึ่งสืบวิชาของหลวงปู่มาด้วยกันทั้งสิ้น
อันนั้นก็เป็นพระเครื่องที่เรารู้จักกันวงการ แต่มีทีเด็ดกว่านั้น คือพระเครื่องเนื้อผง ที่หลวงปู่สร้าง ผมได้ทราบเมื่อประมาณ 12 ปี ผ่านมา เพราะแถวบ้านผมคุณลุงอยู่ท่านหนึ่ง บ้านเดิมอยู่แถววัดราชโยธา ปู่ของท่านบ้านเดิมอยู่วัดราชโยธานี้แหละ โชคดีที่คุณลุงท่านนี้เป็นนักนิยมพระ ผมคุยกับท่านบ่อยมาก ถามถึงหลวงปู่ท่านจะเล่าให้ฟัง เหมือนสมัยปู่แกเล่าให้แกฟัง ผมฟังจากแกมาอีกทีหนึ่ง ยังเหมือนแกเล่าให้ฟังเมื่อ วันสองวันก่อนนี้เอง เพราะตั้งใจฟังมาก อยากรู้ประวัติการสร้างพระของท่าน พระเนื้อผงของหลวงปู่ สร้างสวยงามมีหลายพิมพ์แต่ละพิมพ์แปลก ๆ มีนก มีเหมือนสัตว์ต่าง ๆ อยู่ในพิมพ์ เล่นเอาตีความหมายกันงง ไปหมด พระทุกองค์สวยงาม ลักษณะมีเศษอิฐ เศษหิน กรวด เล็ก ๆ ปนอยู่กับเนื้อด้วย ที่สุดยอด เป็นโลโก้ คือพระเกือบทุกองค์ มัจจะมีการจารหลัง ด้วยยันต์ตรี ด้วยลายมือที่สวยงาม ลายเส้น ตวัดได้น้ำหนัก หนักแน่น ตัวเลขคมชัด และแฝงไว้ด้วยความมายของเลขยันต์ บ่งบอกถึงผู้สร้างพระต้องเป็นพระที่มีความรู้ในด้านเลขยันต์ อักขระขอม อย่างหาตัวจับยากเลยทีเดียว
พระหลวงปู่มีไม่มาก ถูกมั่วก็เยอะ ยัดวัดก็แยะ ฉะนั้นก็เล่นเอาองค์ที่เนื้อเก่า ๆ ไว้ก่อน ผมได้พระหลวงปู่มาหนึ่งองค์เป็นองค์ครู หายาก เดิมทีเจ้าของพระคนเก่าไม่รู้พระอะไร เอามาให้ดู ผมขอแลกกับพระกริ่ง หลวงพ่อเงิน วัดดอยยายหอม รุ่นแรก เมื่อ 10 กว่าปีก่อนนู้น เป็นพระพิมพ์ทรงคล้าย พระวัดเกศไชโย แต่ทรงพระฉลูดคล้ายพระสมเด็จ เนื้อหามวลสารมากมาย จัดจ้าน พระองค์นี้สึกบ้าง พระหนามาก ๆ แต่พิเศษก็คือ มีการจารอักขระ ผมมองป้าดเดียวก็รู้พระแบบนี้ รูปทรงแบบนี้มีสำนักเดียว จริง ๆ เพราะผมเก็บพระหลวงปู่ทอง ไว้เกือบ 40 องค์เก็บจนลืม ไว้ 1 กล่องคุกกี้เต็ม เสียดายมีปล่อยออกไปบ้างแต่ตอนนี้ไม่มีทางปล่อยแล้ว เสียดาย หายาก มาเล่าต่อถึงพระองค์นี้มีความพิเศษ คือมีจารหลังเหมือนพระหลวงปู่ทั่วไป แต่มีปี พ.ศ. เลขไทยบอกอายุ 2436 ด้วย ตอนหลังผมได้พระแบบนี้อีก บางองค์มีปีตรงกับองค์นี้ สรุป คือ ปี 2436 คิดกันเองกี่ปีแล้ว (น้อง ๆ สมเด็จ ) เนื้อหาจัดมาก พระหลวงปู่จะมีคราบเขียว ๆ แดง ๆ ที่เนื้อ ทำให้ผม งง ว่าใส่อะไรลงไปตอนกดพระ ได้ไขความงง โดดคุณลุงที่เล่าให้ผมฟัง หลวงปู่ท่านจะฉันท์ หมาก สังเกตจะมีเครื่องรางยอดนิยม ของวงการ คือ ชานหมาก หลวงปู่ทอง นั้นแหละ นั้นแหละ เมื่อหลวงปู่ ฉันท์ เสร็จ ก็บ้วนน้ำหมากลงที่ จอมปลวก ใกล้ ๆ กับกุฏิ หลวงปู่ ทุกวัน ๆ หมากเสกนะไม่ใช้หมากฝรั่ง ฮ่า ฮ่า หมากหลวงปู่ท่านเคี้ยว ด้วยเสกด้วยทุกวัน ลองคิดดูความเข้มขลังในอาคม ก็อย่างที่บอกไว้ตอนต้นหลวงปู่ท่านสร้างพระแปลก วิธีการสร้างไม่เหมือนใคร เมื่อได้กำหนดวาระที่จะสร้างพระ ท่านจะขูดเอา จอมปลวกมาเป็นส่วนผสม ในการสร้างพระ พระถึงมีเศษกรวด และมีสีอย่างนั้นแหละ เนื้อพระแบบนี้อยู่อีกเป็นร้อย ๆ ปี ไม่ต้องใช้น้ำมันตังอิ๋ว ช่วยในการพสานเนื้อเหมือนพระใหม่ ๆ สมัยนี้
สมัยก่อนพวกอิสลามชอบต้อนวัว เข้ามาบริเวณวัด หลวงปู่ และพระเณร องค์อื่น ๆ ต้องลำบาก เช็ดปัดกวาด อึ วัว ที่มาอึที่วัด หลวงปู่ก็ไปบอกเขา ว่า ขอ “ อย่าให้นำสัตว์เข้ามาอึ เพราะพระเณรต้องมากวาดทุกวัน ลำบากท่านนะ “ อิสลามที่พาวัวมาไม่เชื่อ วันรุ่นขึ้น ก็พามาอีก ต้อนวัวเหมือนเคย ส่วนตัวเองหลับ ซักพักหนึ่ง พอตื่นขึ้น ตกใจ ทำไมวัวหายไปหมด ทั้งฝูง หาจนทั่ว พื้นที่ก็ไม่พบ งานนี้กลับบ้านพ่อตีตายแน่นอน นั่งร้องไห้ เดินไปถามหลวงปู่ว่า เห็นวัวของผมไหมครับ หลวงปู่ หลวงปู่ทองถาม ว่า อยากเจอไหม วัวของโยนนะ ชายเลี้ยววัวก็บองว่าอยาก หลวงปู่ก็บอกต่อ ว่าถ้าเจอแล้วจะทำตามที่หลวงปู่ขอได้ไหม ไอ้เรื่องที่ไม่ให้เอาวัวมาอึในวัดนะ ด้วยความอยากได้วัวคืน ชายนั้นรีบตอบ หลวงปู่หันไปที่พื้น มีกะลา วางครอบอะไรก็ไม่รู้อยู่ หลวงปู่ก็เดินไป ท่องมนต์อะไรไม่ทราบ เปิดฝาครอบขึ้น “เอาละ ลองไปดูใหม่ “ ชายหนุ่มวิ่งอ้าว ไปดู ที่ทุ่ง ผงะ เห็นฝูงวัวอยู่ที่เดิม ไม่ได้ไปไหน ที่เดิมนั้นแหละ ตะลึงงัง นึกว่าหลวงปู่เล่นกล แบบเดวิด คอปเปอร์ฟิว แต่ไม่ใช้ ๆ มายากล เป็นมนต์คาถา ต่อมาก็มีอีก ก็คนชอบตกปลาตรงบริเวณวัด หลวงปู่ หลวงปู่ท่านเมตตา ก็ ไปขอนิมนต์ ว่าอย่าตกปลาตรงบริเวณวัดได้ไหม( จริง ๆ แล้วเพื่อตัวไอ้เจ้าคนตกเองตะหาก จะได้ปลอดภัยจากการตกนรก ตกเขตวัดแบบนี้นรกรออยู่แล้ว) เจ้าบื้อนั่นก็ไม่เชื่อ กูจะตก จะทำไม ไม่ฟังหลวงปู่ ซักพักปลาใหญ่กินเหยื่อ ดุกดิกในน้ำ เห็นอย่างนี้เสร็จแน่นอน แป๊ะซะรอบดึง รีบดึงเบ็ดขึ้น โอ้โห ตัวเบ้อเริ่มเลย ทิ้งเบ็ดวิ่งอ้าวกลับบ้าน 4 คูณร้อย พลัดเดี่ยว ไม่ได้ปลาหรอก ได้กะโหลกผี ตายโหงแทน ฮิ ฮิ สมไหมละ “พระสงฆ์องค์เจ้า ท่านเตือนด้วยความเมตตา ยังจะดื้ออีก “ หมอนั่นเลิกตกปลาบริเวณวัดไปอีกนาน
เรื่องถ่ายรูปก็เหมือนกัน ขโมยถ่ายกัน แบบปาปาราซซี่ ทั้งช่างฝรั่งจ๋า ช่างไทยอินเตอร์ เป็นอันเสียฟิลม์เปล่าหมด เพราะถ่ายไม่ติด ได้รูป ขมุกขมัว กลับมา ลองใหม่หลายครั้ง ก็ไม่ติด ชัดสุดก็รูปที่หลวงปู่ลงกระได , รูปหลวงปู่ฉันท์ข้าว ดีที่สุดของช่างมือหนึ่ง
แต่มีอยู่หนึ่งรูปเป็นปัญหา แต่ปัจจุบันเริ่มให้การยอมรับ เพราะด้วยว่ามีหลายคนพยายามไขความจริง รูปนี้พ่อผมได้มาเอง แปลกมากเล่า แล้ว เพื่อน ๆ อาจว่า เอ็งเมาหรือเปล่า แต่เป็นเรื่องจริง ตอนพ่อผมบวช กับเพื่อน ก็นับถือหลวงปู่ทอง ในขณะตอนดึกกับลังจิบชาคุยกันอยู่ อยู่ ๆ เพื่อนที่บวชด้วยกันก็ตัวสั่น เปลี่ยนเสียงพูดเป็นคนละคน บอกว่าเป็นหลวงปู่ทอง ลักษณะการเดิน ก็หลังค่อม ๆ คล้ายคนแก่ แต่เจ้าของร่างแข๊งแรง ชกมวยครบ 12 ยกได้สบาย แต่ตอนนี้เดินช้า หลังค่อม พ่อผมก็คุยกัน ได้ความว่ามีรูปอยู่ที่ร้านตัดผมแห่งหนึ่งแถววัด มีรูปติดอยู่รูปของท่าน พ่อผมรุ่งเช้ารีบไปดูที่ร้านหาอยู่นาน เป็นร้านตัดผมโบราณจริง ๆ เข้าไปทำท่าจะตัดผม เจ้าของร้านถามว่า ทรงไหนดี พ่อผมก็เก้อ ๆ กัง ๆ มองรอบบ้าน ผงะเหมือนกันเมื่อเจอรูปนี้ติดอยู่ ถามเจ้าของร้าน ตกลงไม่ได้มาตัดผม มาดูรูป รูปที่ทราบจากร่างทรง ที่ว่าเป็นหลวงปู่ ด้วยความศรัทธาประกอบกับเจ้าของบ้านเห็นว่านับถือ เลยขอรูปไปอัดเพิ่ม ให้เวลา 3 ชม. พ่อผมขณะนั้นบวชอยู่รีบขอรูปไปอัดเพิ่ม กลับมาคืนตรงเวลาเปะ
ถามว่าพี่ ๆ ได้รูปนี้มาอย่างไรครับ ที่รูปไม่มีเขียนหนังสืออะไรทั้งสิ้น ได้ความจากพี่เจ้าของร้านตัดผมท่านชาย ปู่แกอยู่เขตนี้มานานเก่า เป็นเหมือนกับนายอำเภทสมัยก่อน มีตำแหน่งสูง ก็อยากได้รูปหลวงปู่ทองมาก เลยนิมนต์มาฉันท์เพล ที่บ้าน พอฉันท์เสร็จ ก็บอกว่าหลวงปู่ครับจำเรื่องที่ผมขอ หลวงปู่ได้ไหม ที่ว่าจะขอถ่ายรูปนะครับ หลวงปู่ก็จะไม่ยอมให้ถ่าย แต่เนื่องด้วยสัญญาไว้แต่กาลก่อนว่า ถ้ามีโอกาสจะให้ถ่าย พอหลวงปู่ตกลง ช่างภาพพร้อมผู้ช่วยไม่รู้โพล่มาจากไหน คงจะซ่อนตัวอยู่เป็นแน่แท้ ออกมาจัดฉากถ่ายให้หลวงปู่ สวยงามและ
คมชัดมาก สรุปรูปนี้มีขึ้นได้เพราะความหัวใส ของปู่พี่ที่ร้านตัดผม รวมถึงสัญญาของหลวงปู่ที่ให้ไว้


3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2016-10-11 12:03 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
พ่อผมมีความสนิทกับ หลวงพ่อสุข วัดกิ่งแก้ว อดีตเจ้าอาวาส วัดกิ่งแก้ว ต่อจากหลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว หลวงพ่อสุข องค์นี้แหละ เป็นผู้แกะพิมพ์ ช่วยหลวงปู่เผือก เมื่อครั้ง สร้างพระผงรุ่นขุดสระ คุณพ่อผมมีความสนิทกับท่านมาก ๆ ย้อมไปเมื่อ 30 ปีก่อน ขณะกำลังกินน้ำชา กับหลวงพ่อสุขอยู่ หลวงพ่อบอกว่าจะให้ชมอะไร เป็นของสูงค่ามาก ๆ ๆ สำหรับท่าน เป็นอัฏฐิของหลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว และอัฐิของหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา ประกอบกับคุณพ่อผมเป็นคนซื่อๆ แต่เป็นคนดี หลวงพ่อสุข บอกว่า ให้ไปซื้อเจดีย์ เล็ก สำหรับใส่พระธาตุมาและจะแบ่งอัฏฐิ ให้พ่อผมแต่มีข้อแม้ว่า จะต้องเก็บรักษาไว้อย่างดี ใส่บูชาให้สูง ๆ พ่อผมนำมาใส่เจดีย์ไม้จันทร์ เก็บไว้ที่บ้าน ผมมีโอกาสเห็นหลายครั้ง เวลาพ่อผมเปิดให้ดู ขนลุกซู่เพราะ เป็นอัฏฐิของยอดพระเกจิ ที่ไม่น่าจะมีให้เห็นกันง่าย ๆ อัฏฐิของหลวงปู่ทอง เป็นก้อนคล้ายพระธาตุ ใสแจ๋ว แวววาวสวยงามมาก ส่วนของหลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว เป็นช่วงไหปลาร้า มีหนึ่งชิ้น เชื้อไหมครับ อัฏฐิชิ้นนี้ขาวมาก ๆ ขาวโพลน เหมือนกับคำว่าเผือก ของที่เป็นชื่อของหลวงปู่จริง ๆ เป็นความปลาบปลื้มใจมากที่ผมได้เห็น ปัจจุบันก็ยังคงเก็บไว้ในห้องพระ ถ้าไปเล่าให้ใครฟังไม่มีใครเชื่อ คงนึกว่าไปเอากระดูกใครมาเก็บมาบูชาไว้ แต่คุณพ่อผมสนิทกับหลวงพ่อสุข วัดกิ่งแก้ว มากครับ ถ้าพูดถึงพระหลวงพ่อสุข ที่มีชื่อรุ่นว่า พระสมเด็จสุคโต โสรฬ สิบหกชั้น สิบเก้ารัศมี นักนิยมพระวัดกิ่นแก้วคงรู้ดี ว่าท่านสร้างพระรุ่นนี้น้อยไม่มาก และเป็นพระรุ่น แรก ๆ ของหลวงพ่อสุข
นอกจากนี้หลวงปู่ทอง ยังมีอภินิหารด้าน ล่องหนหายตัว การเดินร่นระยะทาง อันเป็นสุดยอดวิชาของเกจิสมัยก่อน เหมือนมีเครื่องถ่ายโอนสะสาร แบบเรื่องไอ้แมลงวัน แต่อันนี้เกิดจากการบำเพ็ญบุญ และวิชาอาคมที่ได้ศึกษามา ด้วยความยากลำบาก ปัจจุบันลูกศิษย์ ที่สืบทองหลวงปู่หลายคนหลายสาขาอาชีพ มีการไหว้ครูกันที่วัด ลูกศิษย์หลวงปู่หลายคน มีการสักอักขระเลขยันต์ ต่าง ๆ โดยอาจารย์ที่สืบทอดวิชาจากหลวงปู่ คุณพ่อผมคนจีนที่บ้าน อากงห้ามสักต่าง ๆ แกก็ยังอุตสาสักบนกระหม่อม เพื่อไม่ให้อากงเห็น แกสัก ตัวนะ ตัวเดียวเป็นสักน้ำมัน หลายครั้งที่แกไปต่างจังหวัด ตอนบวชพระ ไม่ได้พกพระอะไร มีเพียงยันต์ตัวเดียวที่สักอยู่ พบเหตุเจออะไรแปลก ๆ พวกผี พวกเปรต อสุรกาย ร่างทรง พวกเล่นของต่าง ๆ เล่นวิชาอาคม ไม่กล้าเข้ามาทำอะไร เพราะยันต์นะ ตัวเดียวที่สักอยู่บนกะหม่อม ปกป้องคุ้มครองจากสิ่งชั่วร้าย ตัวนะ ที่มาจากหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา ยอดเกจิอาจารย์องค์หนึ่งในประเทศไทย
ลูกศิษย์หลวงปู่จะมีเยอะ แต่จะเก็บตัว แต่ทุกคนจะพกรูปหลวงปู่ แม้ตำรวจที่ผมรู้จัก ผมคุยเรื่องหลวงปู่ให้ฟัง เดี่ยวนี้เป็นลูกศิษย์หลวงปู่เหมือนกัน เก็บพระหลวงปู่ไว้ก็มาก เพราะศรัทธาในความศักสิทธิ์ มีเรื่องเล่าว่าครั้งหนึ่งมีชาย ต่างถิ่นไปกินข้าวในร้านอาหาร มีเรื่องกับนักเลงในร้าน โดนรุมตี ข้าง ๆ โต๊ะ ก็มีอีกกลุ่มหนี่งนั่งอยู่เป็นลูกศิษย์หลวงปู่เหมือนกัน แต่คนที่โดนรุนนั้นทำท่าจะไม่ไหม เพราะ 1 ต่อ 3 ชกออกไปหมัดหนึ่ง มันตอกกลับมา 3 หมัด ก็ไม่ไหวแล้ว ขณะชุลมุน กันสร้อยที่คล้องคอหนุ่มต่างถิ่น เผอิญ แลบออกมานอกเสี้อ เป็นรูปหลวงปู่ทองตอนลงกระได ถ่ายไม่ติด นั้นละ กลุ่มลูกศิษย์หลวงปู่เห็นรูปเท่านั้น ตะโกนถามว่า เป็นลูกศิษย์ปู่ทอง หรือเปล่า ชายแปลกถิ่นโดนยำเละอยู่ก็บอกว่าใช้ครับพี่ ผมลูกศิษย์ เท่านั้น แหละ ชายอีกกลุ่มที่นั่งอยู่นานแต่ไม่กล้าเข้าช่วยเพราะไม่รู้จักกัน แต่พอเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ทอง เกจิอาจารย์ องค์เดียวกัน ลุกพรวดเข้าช่วยชายคนนั้น ยุทธการ 3 ต่อ 1 จึงจบลง กลายเป็น 5 ต่อ 3 แทน รอดตายราวปาฏิหาริย์ ( ดีนะที่รูปโพล่ออกมาเร็ว ไม่รอให้หามเข้าโรงพยาบาลก่อน แล้วค่อยโพล่ออกมา ฮ่า ฮ่า ) แสดงว่าลูกศิษย์หลวงปู่ส่วนใหญ่ มีผู้มีน้ำใจ และนับถือในความดีของหลวงปู่ ทั้งสิ้น
ถ้าท่านเคยไปวัดราชโยธา สังเกตเห็นกุฏิเก่า สมัยหลวงปู่ กุฏินี้ไม่มีใครกล้าเข้าไปแต่ะต้อง แม้แต่เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันต้องยกให้ อยู่อย่างเดิมไม่กล้ารื้อถอน เคยมีคนคิดพิเรนท์ ไปยืนฉี่อยู่ใกล้ ๆ กุฏินี้ ผลก็คือ ติงต๊อง บ้า ๆ บอ พูดจาเลอะเลือน สติไปอยู่นอกโลก กู่ไม่กลับ ปัจจุบันที่วัดยังคงเก็บเรือหลวงปู่เอาไว้บูชา เป็นเรือที่สมัยก่อนท่านใช้บิณฑบาต ทางน้ำให้กับญาติโยม
อีกหนึ่งเรื่อง ที่ผมได้ยินมา ถึงความขลังของตัวเลขยันต์ของหลวงปู่ ที่จะเขียน หรือจารในองค์พระ และในรูปถ่าย บางรูปจะมีการจารหลังด้วยดินสอ ด้วยอักขระต่าง ๆ งดงาม คงความศักดิ์สิทธิ์ มาก ที่พูดเพราะมีตัวอย่างที่เพื่อนเล่าให้ฟังว่า เพื่อนเขาก็นับถือหลวงปู่ทอง ได้รูปถ่าย หลังมีจารดินสอ ธรรมดานี้แหละ เลยเอาไปให้ลูกชายพกติดตัว ลูกชายไม่รู้เรื่อง คิดพิเรนท์ หรือไม่เข้าใจ อย่างไรไม่ทราบ ลบยันต์จารดินสอหลังรูปออก จนเกลี้ยง หลังจากนั้นก็มีอาการ ต๊อง ๆ เลอะเลือน พูดจาไม่รู้เรื่อง คล้าย ๆ จะตามคนแรกที่ไปยืนฉี่ข้าง ๆ กุฏิหลวงปู่ สติทำท่าจะออกนอกโลกเหมือนกัน พ่อเห็นอาการไม่ดี เลยถาม ว่าทำอะไรมา พอรู้ว่าลูกชายซน ไปลบยันต์หลังรูปออก รีบขอขมา ที่ความรู้เท่าไม่ถึงการ จุดธูปบอกหลวงปู่ ก็หายจากอาการต๊อง สติกลับมาอยู่บนโลก เหมือนเดิม ฮ่า ฮ่า ฮ่า ดีที่สติกลับมาไม่งั้นอาจไปเจอกับไอ้เจ้าคนแรก ที่ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว

ปัจจุบันผมมีพระหลวงปู่ทอง ที่เป็นของผมองค์เดียว (ที่เหลือให้น้องหมด ) แปลกมาก ในขณะที่ผมสนทนากับ คุณลุงท่านที่รู้จักกับคุณพ่อผม ปู่แกเป็นศิษย์หลวงปู่ คุยผมถามถึงเรื่องของหลวงปู่ในอีกแง่มุม ที่เรา ๆ ท่าน ๆ อาจยังไม่เคยได้ยินในหนังสือ เล่มใดก็ตาม คุณลุงคนนั้นตอบว่า เออ ไอ้หนูนี่คุยถูกคอดีแฮะ (ตอนนี้ไม่หนูแล้ว นะ หนุ่มแล้ว) พรุ่งนี้ลุงเอาพระหลวงปู่มาให้องค์หนึ่ง ผมดีใจที่แกจะให้เป็นพระพิมพ์อะไร เนื้ออะไร ต้องรอดู ตอนเช้า ตื่นขึ้นมา (ผมตื่นสาย ) ลงไปก็ถามพ่อว่า ลุงแกเอาพระมาให้หรือเปล่า พ่อผมก็บอกนู้นอยู่ในกล่อง ผมเปิดดูเป็นพิมพ์ข้างอุ สวยมาก หลังจาร เนื้อจัดจ้านมาก ๆ ราคา 1500 บ. ผมคิดในใจทำไมบอกว่าจะให้หรือ ให้ (เช่า) แต่ไม่เป็นไรเช่าก็เช่าพระทุกองค์มีราคา ค่าเช่ามา ผมอยากได้ก็ต้องบูชาต่อ พ่อผมถามเป็นไง สวยไหม ผมบอก “ เนื้อจัดมาก ๆ จัดกว่าทุกองค์ที่เคยได้มา “ เออ แล้วมีอีกองค์ แกว่า แกให้เอ็งนะ อยู่ในตู้ ผมดีใจที่แกเป็นคนรักษาคำพูด และก็ตื่นเต้นด้วย อยากรู้ว่าแกให้พระพิมพ์อะไร เพราะเป็นลูกศิษย์หลวงปู่แกต้องรักษาสัจจะ “ ผมรีบมาดูองค์นี้พอเห็น ก็รู้สึกประหลาดใจ พระองค์นี้พิมพ์ทรงไม่สวย ไม่มีเลยก็ว่าได้ เห็นแล้วถ้าไม่สังเกตไม่รู้ว่าพระด้วยซ้ำ เป็นพระที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน พระพิมพ์ลักษณะแปลกมาก เหมือนพระพุทธนั่งอยู่บนตัวสัตว์ คล้ายวัว หรือ หมู อะไรซักอย่าง หลังอูม ๆ แต่เนื้อไม่เหมือนเนื้อดินจอมปลวก อย่างที่เคยเห็น เป็นเนื้อเหมือนเอาดินร่วน ๆ มากด พิมพ์ มีลงรักเก่า รักเริ่มร่อน พิจารณาจากรัก ที่ติดอยู่นี้เก่าจริงแน่นอน
ถามพ่อผมว่า แล้วแกบอกอะไรอีกบ้าง พ่อผมบอก “ ไม่มีอะไรนี่ แกบอกว่าฝากให้หลานชาย เห็นสนใจพระหลวงปู่ เก็บไว้ให้ดี พระองค์นี้หายากมาก ทำจากดินขี้ควาย แกเก็บมานานแล้ว ยกให้เอ็ง “ ดินขี้ควาย ฟังตอนแรกแล้ว โอ้โห แทบไม่อยากจะห้อยคอ แต่นึกดูในเนื้อมีเศษเหมือนกากอาหาร เหมือนหญ้าแห้ง จริง ๆ นั้นแหละ นี่อาจเป็นสุดยอดของแกก็ได้ หลวงปู่สร้างพระจาก วัสดุ วัตถุดิบจากพื้นที่ ในระแวกวัดนั้น อีกนัยหนึ่งอาจเป็นปริศนาธรรม ไม่ให้ยึดติดในรูปลักษณ์ ของดีก็คือของดี ส่วนตัวสัตว์มีนัยให้เราคิด ว่าวัวเป็นสัตว์มีคุณค่ากับมนุษย์ และสุดท้ายคนเราก็เหลือสังขารที่ไม่เที่ยง กลายเป็นกาก เป็นขี้เถ้าแบบนี้ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าสัตว์ที่อยู่ในพระคือ สัตว์อะไร เขาคือ วัว หรือ ควาย ตามชื่อพระดินขี้ควายนะครับ ผมไม่พบเจอคุณลุงท่านนี้อีกเลย ระยะ เวลา 10 กว่าปี ไม่ทราบบ้านแกเพราะย้ายไปนานแล้ว ไม่มีเบอร์ แต่ผมก็นำความรู้ที่แกถ่ายทอดให้ฟัง เกี่ยวกับเกจิอาจารย์ ยอดอาจารย์ ยุคเก่า องค์นี้เพื่อเป็นความรู้กับเพื่อน ๆ ต่อ

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้