ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 3229
ตอบกลับ: 2
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

หลวงปู่ครูบาปัน วัดแม่ยะ ตาก

[คัดลอกลิงก์]

ประวัติ  ล.ป.ปัน   วัดแม่ยะ     จ.ตาก.........
ท่านเป็นคู่ธุดงค์ เข้าป่ากับครูบาศรีวิชัย เจอเรื่องราวอภินิหารมากมาย ในคราวที่ครูบาศรีวิชัยสร้างทางเดิน ขึ้นดอยสุเทพ หลวงปู่ปันก็ได้มีส่วนช่วยและยังได้รวม.....   ปลุกเสกเหรียญครูบาศรีวิชัย ราคาเรือนแสนมาแล้ว...ครั้นเมือวันที่ 20 กุมภาพันธ์  ครูบาศรีวิชัยก็ได้จากโลกนี้ไป ล.ป.ปัน ท่านก็ได้เดินธุดงค์เข้าป่าไปรูปเดียว  เเละได้กลับมาสร้างปฏิสังขรณ์ วัดแม่ยะ จนเจริญ มาถึงทุกวันนี้  ท่านมรณภาพไปแล้วแต่ไม่เน่าไม่เปื่อย วัตถุมงคล ของท่านออกวัดแม่ ยะรุ่นแรก ปี 27 ครับ น่าเก็บมากๆ เป็นเกจิที่ไม่ธรรมดาครับ ท่านเกิด เมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2434  ปีเถาะ ท่านเป็นเด็กอ่อนโยน  ว่านอนสอนง่าย
มีเมตตาต่อสัตว์เข้าวัดบ่อยๆ ครั้นอายุ 13ปี ก็ได้บวชเป็นสามเณร ที่วัดสังฆรามวรวิหาร
จ. ลำพูน อยู่ได้ 1พรรษา ก็ย้ายมาอยู่ วัดไชยชนะมงคล จ.ลำพุน ระหว่างเป็นสามเณร
อยู่นั้นก็ได้ศึกษาภาษาบาลี สันสกฤต พื้นเมืองและภาษาไทย จนแตกฉาน เมือ อายุได้
20 ปีก็บวชเป็นพระภิษุ  ได้ฉายาว่า  โพธิรังสี พระอุปัชฌาของท่านคือ หลวงพ่อ กันธา
วัดไชชนะมงคล เมือบวชเป็นพระภิษุก็หมั่นเพียร   ร่ำเรียนวิชาอาคม ทางวิปัสสนาสมธะ
จาก พระอาจารกันธา ถึง 10 พรรษา พระอาจารย์กันธาก็ได้ พาไปฝากตัวเป็น ลูกศิษย์ ของ
หลวงปู่ ฟ้าเลื่อน  จ.เชียงใหม่ ได้เรียนรู้วิชาอีกมากมาย  โดยเฉพาะ วิชา บังฟัน ที่หลวงปู่
ฟ้าเลือนหวงแหนมาก จนจบ....พระของท่านมี ฉนวนเเละผงพรายกุมาร ล.ป. ทิม วัดระหารไร่ ผสมอยู่ด้วย ขอบอกว่าสุดยอด
*** ครั้งหนึ่ง หลวงพ่อครูบาปันเล่าให้ฟังเกี่ยวกับการไปเล่าเรียนวิชาอาคมจากพระเกจิอาจารย์ต่างว่า หลวงพ่อครูบาปันจะสืบดูก่อนว่ามีพระเกจิย์อาจารย์องค์ใดบ้างที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้านคาถาอาคม พอสืบทราบมาว่าเกจิย์องค์นั้นดัง องค์โน้นดัง หลวงพ่อครูปันก็จะเดินทางไปดูไปหา แต่หลวงพ่อครูปันยังจะไม่เรียนวิชาอาคม ท่านจะสืบเสาะหาไปเรื่อยๆจาก1เป็น2เป็น3เรื่อยไป หลวงพ่อครูบาปันจะใช้วิธีธุดงค์ไปดู พระเกจิอาจารย์ที่ผลวงพ่อครูบาปันไปดูไปศึกษาวิชาอาคมนั้น ท่านบอกว่าไปทางสายจังหวัดแพร่ น่าน ท่านบอกว่าท่านไปดูมาหมดที่ว่าดังๆ ตอนธุดงขากลับท่านถึงจะขอเรียนวิชาอาคมมาทีละรูปๆจนครบตามที่ท่านมีความพอใจ ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่ว่าหลวงพ่อครูบาปันเป็นพระเกจิที่คงแก่เรียน มีความรอบรู้ในวิชาอาคมหลายแขนง แม้กระทั่งหลวงพ่อครูบาวังยังมาขอศึกษาเรียนวิชาการทำตะกรุดจากหลวงพ่อครูบาปันเลยครับ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ ท่านยังไปศึกษาเรียคาถาอาคมจากหลายเกจิอาจารย์ถึงได้เป็นสุดยอดเกจิย์อาจารย์ชั้นแนวหน้าเมืองไทยรูปหนึ่ง หลวงพ่อครูบาปันเช่นเดียวกับหลวงพ่อเดิม เรียมากรู้มาก จากที่ศึกษาประวัติพระเกจิอาจารย์ทางภาคเหนือที่โด่งดังมีชื่อเสียงระดับแนวหน้าของประเทศไทย เหรียญราคาเป็นหมื่นมีน้อยรูปที่ธุดงค์ไปเรียนวิชาอาคมจากพระเกจิย์รูปอื่นๆที่อยู่ต่างจังหวัด ส่วนใหญ่จะร่ำเรียนจากพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในจังหวัดนั้นๆหรือไม่ก็เรียจากพระอุปัชณาย์บ้าง เรียนจากฆราวาสบ้าง *** ในสมัยก่อนพระเกจิอาจารย์สายน่าน แพร่ใช่ธรรมดาเมื่อไหร่ละ ล้วนแต่สุดยอดทั้งนั้น ไม่หยั่งนั้นหลวงพ่อวัดดอนตันคงไม่ดังถึงขนาดนี้ *** พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระครูสุนันทนวกิจ หรือครูบาบุ แห่งวัดแม่พริกลุ่ม อ.แม่พริก จ.ลำปาง ท่านได้เล่าให้ฟังว่า พระพิมพ์ยอดขุนพลถ้ำขุนตาลที่ติดฝาผนังวัดแม่พริกลุ่มนั้น ทางวัดทำมาเนิ่นนานแล้ว สมัยนั้นมีพระเกจิอาจารย์สายแพร่น่านมาร่วมปลุกเสกให้ เป็นพระเกจิกระดูกดำทั้งนั้น ก็คือมีวิชาอาคมแก่กล้านั่นเอง *** วิชาบังฟังเป็นวิชาไสยศาสตร์แขนงหนึ่ง ที่เกจิทางภาคเหนือจะร่ำเรียนมาไว้ป้องกันตัวเท่านั้น หลวงพ่อครูบาปันท่านได้กรุณาเล่าให้ฟังว่า สมัยที่ท่านมาอยู่วัดแม่ยะใหม่ๆ ก็มียางสองผัวเมียได้เดินทางมาพักที่วัดแม่ยะ หลวงพ่อก็เมตตาได้อนุญาตให้อาศัยศาลาวัดอยู่พักพิง หลวงพ่อก็เมตตาแบ่งปันให้อาหารบ้างให้เงินทองใช้บ้าง อยู่มาวันหนึ่งยางผู้ชายก็ชวนครูบาปันไปที่ต้นไม้ใหญ่ข้างวัด เสร็จแล้วมันก็ยืนบริกรรมคาถาได้พักใหญ่ มันก็ใช้มีดทำท่าฟังต้นไม้กลางอากาศ เสร็จแล้วก็กลับวัด พอรุ่งเช้ามันก็ชวนครูบาปันมาดูปรากฏว่าต้นไม่ต้นที่ยางมันทำท่าฟันเหี่ยวเฉาตาย สร้างความงึนงงให้กับครูบามาก ในที่สุดยางคนนั้นก็ได้ถ่ายทอดวิชาบังฟันให้ครูบาปันจนหมดสิ้น ยางสองสามีภรรยาอาศัยอยู่ที่วัดแม่ยะไม่นานมันก็เดินทางต่อไป ตั้งแต่นั้นมามันไม่เคยกลับมาหาหลวงพ่อเลย หลวงพ่อเล่าติดตลกว่า ถ้าสมัยหนุ่มๆจะออกไปฟันพวกคอมมิวนัสซักกำน่อ แล้วก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี *** นี่คือส่วนหนึ่งของหลวงพ่อครูบาปัน อมตะสุดยอดเกจิรูปหนึ่งของชาวลำพูนและชาวตาก เป็นเพชรเม็ดงามยิ่ง ชนิดหาได้ยากยิ่งนัก ท่านมีอายุถึง 100 กว่าปี ***

*** หลวงพ่อครูบาปัน เคยเล่าให้ผมฟังว่า ครั้งหนึ่งเคยมีทหารชุดหนึ่งมีด้วยกัน 7 นาย ผมจำไม่ได้ว่ามาจากไหน แต่คิดว่าน่าจะมาจากนครสวรรค์ เพราะในยุคนั้นหลวงพ่อครูบาวังท่านดังมากในเหล่าหมู่ทหารค่ายจังหวัดนครสรววค์ เพราะฉะนั้นเหรียญกลม 06 จึงตกไปอยู่นครสวรรค์เป็นจำนวนมาก *** ครั้งหนึ่งในงานประกวดพระที่จังหวัดพิษณุโลก ผมได้เช่าเหรียญ 06 กะหลั่ยเงินจากเซียนพระนครสวรรค์ในราคา 500 บาท เจ้าของเหรียญบอกว่าที่นครสวรรค์มีมาก ราคาถูกด้วย ถ้าวันหลังจะหามาให้ *** ผมเคยเช่าเหรียญ 06 กะหลั่ยเงินจากคนนครสวรรค์ จากเว็บฯในราคา 1500 บาท เขาบอกว่าที่นครสวรรค์ยังมีอีกเยอะแยะ ก็แสดงว่าครูบาวังไปดังที่นครสวรรค์มาก เพราะในยุคนั้นครูบาวังดังที่สุดในภาคเหนือ *** ผลที่ตามมา คือที่จังหวัดตาก นอกจากครูบาวังแล้วยังจะมีเกจิรูปไหนบ้างที่หลวงพ่อครูบาวังไว้วางใจว่าเยี่ยมสุดยอดไม่แพ้ท่าน ก็คงไม่มีพระเกจิรูปใดเด่นและดีไปกว่าครูบาปัน วัดแม่ยะ *** เพราะฉะนั้นเหล่าทหารที่จะไปออกทัพจับศึกก็ต้องเสาะแสวงหาเครื่องรางของขลังที่พอจะคุ้มครองให้รอดปลอดภัยจากอาวุธนานาชนิดได้ *** เหล่าทหารต่างก็มุ่งมาหาของดีจากครูบาวัง และเหล่าทหารชุดนั้นคงจะถามครูบาวังว่ามีเกจิรูปอีก ครูบาวังคงจะแนะนำให้ทหารชุดนั้นไปหาครูบาปัน *** ครูบาปันเล่าว่าทหารชุดนั้นมาหาท่าน และขอให้ครูบาลงตะกรุดให้คนละดอก ครูบาปันตอบว่า อาตมาบ่ทำแล้ว อาตมาได้ทิ้งตำราคาถรปล่อยลงแม่น้ำปิงไปนานแล้ว *** เหล่าทหารชุดนั้นก็ไม่ย่อท้อ ได้อ้อนวอนต่อไปว่าจะขอครูบาปันลงตะกรุดให้ ครูบาปันก็ยืนยันคำเดิม ทหารก็ไม่ลดละความพยายาม ทหารชุดนั้นคงมีความศรัทธาครูบาปันสูงมากและคงจะได้ยินกิตติศัพท์ครูบปันมาบ้างแล้วจึงไม่ยอมกลับค่าย แม้กระทั่งยอมลงทุนนอนคางคืนที่วัดเพื่ออ้อนวอนครูบาปันทำตะกรุดให้ *** ในที่สุดครูบาปันเห็นว่าเหล่าทหารชุดนี้คงจะมีความมุ่งมั่นจริงๆถึงได้ลงทุนขนาดนี้ ที่สุดก็ยอมลงตะกรุดให้คนละ 1 ดอก เมื่อสมหวังแล้วทหารชุดนั้นก็กราบลาท่านกลับค่าย *** หลางพ่อครูบาปันบอกว่าลองใจมันผ่อว่าจะแต้บ่แต้ *** ครูบาจันตา แห่งวัดป่ายางใต้ซึ่งเป็นศิษย์เอกของครูบาปัน ตะกรุดของท่านมีสมญาว่าตะกรุดปืนตาย นั่นคือใครก็ตามที่ยิงคนที่มีตะกรุดครูบาจันตาศิษย์เอกครูบาปัน ปืนกระบอกนั้นทิ้งไปเลย คือใช้การไม่ได้อีกต่อไป นักเลงบ้านป่ายางตะวันออกเข็ดขยาดนัก แต่มีน้อยคนที่จะได้ตะกรุดจากมือท่านไป นอกจากหลานครูบาจันตาเท่านั้นที่ได้ไว้ครอบครอง *** หลานของครูบาจันตามีตะกรุดโทนติดตัวตลอดเวลา ถูกคู่อริดักซุ่มยิง แต่ไม่ดัง และปืน .38 ตาย *** นี่เพียงลูกศิษย์นะครับ อาจารย?จะขนาดไหนลองคิดดู *** ครูบาจันตาได้มรณะภาพก่อนครูบาปัน ครูบาปันพูดว่า เออ ! ลูกศิษย์ไปก่อนอาจารย์ แล้วก็หัวเราะ ***

ขอขอบคุณข้อมูลจากพี่ luksamngao ครับผม
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้