ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 4531
ตอบกลับ: 3
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

หลวงพ่อธรรมจักร วัดธรรมามูลวรวิหาร จ.ชัยนาท

[คัดลอกลิงก์]

หลวงพ่อธรรมจักร  
พระประธานในพระวิหารเชิงเขา วัดธรรมามูลวรวิหาร
เชิงเขาธรรมามูล ต.ธรรมามูล อ.เมือง จ.ชัยนาท


“หลวงพ่อธรรมจักร” เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองชัยนาท ประดิษฐานเป็นพระประธานในพระวิหารเชิงเขา วัดธรรมามูลวรวิหาร ต.ธรรมมูล อ.เมือง จ.ชัยนาท ศิลปะประยุกต์ช่างสมัยเชียงแสนตอนปลายถึงกรุงสุโขทัยตอนต้น ผสมกับสมัยกรุงศรีอยุธยา มีพุทธลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ประทับยืนบนฐานดอกบัว พระหัตถ์ขวายกขึ้นเสมอพระอุระ หันพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ สูงประมาณ 4.50 เมตร กลางฝ่าพระหัตถ์มีรอย “ธรรมจักร” ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้ว ซึ่งเป็นที่มาของชื่อพระพุทธรูปองค์นี้

ประวัติ “หลวงพ่อธรรมจักร” วัดธรรมามูลวรวิหาร ไม่พบหลักฐานทางประวัติอย่างแน่ชัด มีเพียงตำนานเล่าขานสืบต่อกันมาว่า มีผู้พบพระพุทธรูปลอยตามแม่น้ำเจ้าพระยามาพร้อมกันถึง 3 องค์ ได้แก่ หลวงพ่อโสธร (วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา) หลวงพ่อวัดบ้านแหลม (วัดบ้านแหลมหรือวัดเพชรสมุทรวรวิหาร จ.สมุทรสงคราม) และ หลวงพ่อธรรมจักร (วัดธรรมามูลวรวิหาร จ.ชัยนาท) บ้างกล่าวว่ามีพระพุทธรูปอีกองค์ คือ หลวงพ่อวัดไร่ขิง (วัดไร่ขิง จ.นครปฐม) ลอยตามมาด้วย แต่สำหรับ “หลวงพ่อธรรมจักร” เมื่อลอยมาถึงบริเวณหน้าวัดธรรมามูลวรวิหาร ปรากฏว่าได้ลอยวนเวียนอยู่บริเวณหน้าวัดแห่งนี้

พระภิกษุและชาวบ้านจึงได้พร้อมใจกันอัญเชิญขึ้นประดิษฐานที่วัด โดยนำเชือกพร้อมด้ายสายสิญจน์ผูกกับพระพุทธรูป แต่ไม่สามารถนำขึ้นมาได้ กระทั่งตกเย็นจึงแยกย้ายกันกลับ โดยวางแผนจะมาดึงในวันรุ่งขึ้น

พอถึงรุ่งเช้า ชาวบ้านต่างหาพระพุทธรูปไม่พบ ต่างคิดว่าพระพุทธรูปได้หลุดลอยน้ำไปแล้ว จึงแยกย้ายกันกลับ ปรากฏว่าในขณะนั้นได้มีผู้พบเห็นพระพุทธรูปองค์ที่ลอยน้ำมานั้น ได้มาประดิษฐานปิดทางเข้าประตูพระวิหาร วัดธรรมามูลวรวิหาร เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง จึงได้เรียกชาวบ้านที่อยู่ด้านล่างให้ขึ้นไปดู ชาวบ้านจึงได้ร่วมแรงร่วมใจก่อสร้างต่อเติมพระวิหารออกมาอีกช่วงหนึ่ง รวมเป็น 3 ช่วง จากคำบอกเล่า เมื่อองค์หลวงพ่อธรรมจักรประดิษฐ์อยู่ได้ 3 วัน ก็ได้หายไปจากพระวิหาร และกลับมาประดิษฐานดังเดิมโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งมีโคลนและจอกแหนติดเปื้อนมาด้วย ชาวบ้านจึงได้นำโซ่มาล่ามผูกไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้องค์หลวงพ่อธรรมจักรหายไปอีก

ต่อมามีคนต่างถิ่นล่องแพมาจากทางเหนือเพื่อตามหาพระพุทธรูป เมื่อมาถึงท่าน้ำหน้าวัดธรรมามูลวรวิหาร ได้พบพระพุทธรูปที่ตามหาอยู่ ขณะนั้นเป็นช่วงพลบค่ำ ชายผู้นั้นจึงได้ขออาศัยนอนอยู่ที่วัด เพื่อรอเวลาอัญเชิญองค์หลวงพ่อธรรมจักรกลับ ณ วัดแห่งเดิม ชายคนนั้นได้ฝันว่า หลวงพ่อไม่ขอกลับไปด้วย จะขออยู่ที่วัดธรรมามูลวรวิหารแห่งนี้ ครั้นรุ่งเช้าจึงได้กราบลาท่านสมภารเดินทางกลับบ้าน และได้ขอถอดเอา “จักร” ที่กลางฝ่าพระหัตถ์องค์หลวงพ่อธรรมจักรกลับไป นับแต่นั้นมาหลวงพ่อธรรมจักรก็ไม่หายไปไหนอีก ชาวบ้านจึงได้นำโซ่ที่ล่ามออกและได้ร่วมกันสร้าง “จักร” ขึ้นใหม่ พร้อมทั้งจัดให้มีงานสมโภชต่อเนื่องทุกปีจนถึงปัจจุบัน นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ได้มีพุทธบริษัทเป็นจำนวนมากเดินทางมานมัสการ “หลวงพ่อธรรมจักร” ไม่ขาดระยะ
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-8-8 18:05 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้



พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ในคราวทรงเสด็จมาสักการะ “หลวงพ่อธรรมจักร”


ในสมัย ร.ศ.120, 125 และ 127 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงเสด็จมาสักการะ “หลวงพ่อธรรมจักร” ถึง 3 ครั้ง ดังมีข้อความปรากฏในหนังสือประวัติศาสตร์ประพาสต้นของพระพุทธเจ้าหลวง ว่าพระองค์ได้มีพระราชหัตถเลขา ฉบับที่ 8 เดือนตุลาคม ร.ศ.120 ถึงพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงเทวะวงศ์วโรปการ ความว่า “เวลาเช้า 3 โมงเศษ ถึงวัดธรรมามูล ขึ้นเขามีราษฎรอยู่มาก พระวิหารใหญ่หลังคาพังทลายลงทั้งแถบ จำเป็นต้องปฏิสังขรณ์ เมื่อนมัสการพระ แจกเสมาราษฎรแล้วลงเรือเดินทางต่อมาอีก”

ส่วนพระราชหัตถเลขา ฉบับลงวันที่ 9 สิงหาคม ร.ศ.125 ทรงบันทึกว่า “บ่าย 2 โมงได้ออกเรือแวะที่โรงทหาร (ที่ตั้งศาลากลางในปัจจุบัน) ขึ้นตรวจแถว กลับจากโรงทหารขึ้นมาถึงเขาธรรมามูล 4 โมงครึ่ง ข้ามไปถ่ายรูปที่หาดตรงข้ามจนเย็น จึงเข้าเรี่ยรายปฏิสังขรณ์ศาลา และพระวิหารขึ้นใหม่”  

อนึ่ง ในการที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จมานั้น สันนิษฐานว่า สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระพันปีหลวง ตามเสด็จมาด้วย โดยพบแผ่นจารึกหินอ่อนที่ด้านบนเสาต้นกลางของซุ้มบันไดที่ติดกับลานพระวิหารหลวงพ่อธรรมจักร จารึกเกี่ยวกับวัน เดือน ปี และบุคคลที่บริจาค โดยปรากฏเป็นพระนามแรก ทรงบริจาคเงินจำนวน 200 บาท บุคคลที่สำคัญอีกท่านหนึ่งที่ได้ตามเสด็จมานมัสการ คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ โดยมีพระนิพนธ์ไว้ในหนังสือสาสน์สมเด็จ ลงวันที่ 12 มกราคม พ.ศ.2481 เป็นลายพระหัตถ์ที่ทรงมีถึงสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ ความตอนหนึ่งว่า

“เมื่อปีแรก หม่อมฉันเป็นเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ใน พ.ศ.2453 ขึ้นไปตรวจราชการหัวเมืองเหนือเมื่อฤดูน้ำ ได้พระราชทานกฐินหลวงไปทอดที่วัดธรรมามูลด้วย หม่อมฉันไปพักแรมอยู่ที่ชัยนาท รุ่งเช้าออกจากเมืองชัยนาทขึ้นไปบนเขาธรรมามูล”

วัดธรรมามูลวรวิหาร มีการจัดงาน ประเพณีนมัสการปิดทองหลวงพ่อธรรมจักร อันเป็นงานประจำปี โดยทางวัดได้กำหนดขึ้นปีละ 2 ครั้ง คือ ในเดือน 6 ระหว่างวันขึ้น 4-8 ค่ำ และในเดือน 11 ระหว่างวันแรม 4-8 ค่ำ รวมครั้งละ 5 วัน 5 คืน ในงานมีมหรสพสมโภชตามประเพณีนิยมทั่วไป ในอดีตเมื่อมีงานประเพณีนมัสการปิดทองฯ คราวใด จะต้องมีงานแข่งเรือในลำน้ำหน้าวัดด้วย แต่ประเพณีนี้ได้ล้มเลิกไปเมื่อประมาณปี พ.ศ.2505 นอกจากนี้ทุกวันแรม 11 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี ทางวัดได้จัดให้มีงาน ประเพณีตักบาตรเทโว อีกด้วย  

สำหรับการเดินทางมานมัสการองค์หลวงพ่อธรรมจักร วัดธรรมามูลวรวิหารนั้น ทุกท่านสามารถใช้เส้นทางตามถนนพหลโยธินสายเก่า ชัยนาท-นครสวรรค์ เลยสี่แยกแขวงการทางชัยนาทไปประมาณ 8 กิโลเมตร จะแลเห็นเชิงเขาธรรมามูลอยู่ทางซ้ายมือ มีป้ายชื่อวัดแสดงอยู่ ให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนแล้วข้ามเขาไปอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตรก็จะถึงวัด ให้จอดรถไว้บริเวณที่ที่วัดจัดไว้สำหรับจอดรถ โดยจะอยู่บริเวณเชิงเขา แล้วจึงเดินขึ้นบันไดไปอีกระยะหนึ่งก็จะถึง พระวิหารที่ประดิษฐานหลวงพ่อธรรมจักร บริเวณวัดสามารถชมวิวทิวทัศน์ด้านล่างได้ จึงนับได้ว่า วัดธรรมามูลวรวิหารแห่งนี้เป็นวัดที่สงบ ร่มเย็น สวยงามมากอีกวัดหนึ่งของ จ.ชัยนาท

3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-8-8 18:07 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้



พระวิหารเชิงเขา วัดธรรมามูลวรวิหาร ที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อธรรมจักร”


ขอขอบพระคุณที่มาของข้อมูลและรูปภาพ
หนังสือพิมพ์ข่าวสดรายวัน ออนไลน์ ฉบับที่ 6716
คอลัมน์ เดินสายไหว้พระพุทธ โดย ชูชีพ ด้วงช้าง
https://www.facebook.com/media/set/?set ... 2764691619
                                                                                       
...................................................................

ที่มา http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=45852

ตอนนี้วัตถุมงคลรุ่นปี 40 กำลังเป็นที่ต้องการครับ
"พุทธัง เมตตา นะชาลีติ
ธัมมัง  เมตตา นะชาลีติ
สังฆัง  เมตตา นะชาลีติ"
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้