ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
คณะศิษย์หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ (คศช.)
›
ห้องนั่งเล่น คศช. (ดูหนัง/ฟังเพลง สบายอารมณ์)
»
10สิ่ง..ที่เรายังไม่เข้าใจเกี่ยวกับลูก
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 1994
ตอบกลับ: 3
10สิ่ง..ที่เรายังไม่เข้าใจเกี่ยวกับลูก
[คัดลอกลิงก์]
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2013-5-8 20:45
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
10 สิ่งที่เรายังไม่เข้าใจเกี่ยวกับลูกของเรา
10 สิ่งที่เรายังไม่เข้าใจเกี่ยวกับลูก ๆ ของเรา
เขียนโดย แจน ฮันท์
แปลโดย แม่แอน
(จาก
http://www.naturalchild.org/jan_hunt/misunderstand.html
)
1. เราคาดหวังว่าลูก ๆ จะสามารถทำในสิ่งที่เขายังไม่พร้อมจะทำ
เราคาดหวังให้ทารกไม่ร้องไห้ เราต้องการให้ลูกวัยสองขวบนั่งนิ่งอยู่กับที่ เราร้องขอให้เด็กวัยสี่ขวบทำความสะอาดห้องนอนของตัวเอง และในสถานการณ์เหล่านี้ เรากำลังเพิกเฉยต่อความเป็นจริง เรากำลังสร้างเงื่อนไขที่มีแต่จะนำไปสู่ความผิดหวัง และทำให้ลูกต้องเผชิญกับความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าเพียงเพื่อที่จะทำให้พ่อแม่พอใจ ถึงกระนั้นก็ยังมีพ่อแม่จำนวนมากมายที่คาดหวังให้ลูก ๆ ของพวกเขาทำในสิ่งที่แม้แต่เด็กที่โตกว่าก็ยังทำได้ยาก หรือจะพูดง่าย ๆ ก็คือ เรากำลังร้องขอให้เด็ก ๆ เลิกทำในสิ่งที่เป็นธรรมชาติตามวัยของพวกเขา
2. เราโกรธเมื่อเด็กไม่สามารถทำในสิ่งที่เราต้องการ
เด็กก็ทำได้แค่ในวิสัยเท่าที่เขาพึงจะทำได้ ถ้าเด็กไม่สามารถทำตามในสิ่งที่เราร้องขอ การคาดหวังให้เด็กต้องทำให้ได้ ถือเป็นความไม่ยุติธรรมและไม่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงและการมีอารมณ์โกรธเพียงเพราะสาเหตุนี้มีแต่จะทำให้ทุกอย่างแย่ลง เด็กวัยสองขวบก็คงจะทำได้แค่เท่าที่เด็กสองขวบจะทำได้ เด็กห้าขวบก็ไม่สามารถจะทำตัวให้เหมือนเด็กสิบขวบได้ และเด็กสิบขวบก็ไม่มีวันจะทำตัวให้เหมือนผู้ใหญ่ได้ การคาดหวังที่นอกเหนือจากนี้นอกจากจะเป็นเรื่องเพ้อฝันแล้วยังไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นอีกด้วย เด็กมีขีดจำกัดในความสามารถของเขา และหากเราไม่เคารพขีดจำกัดนั้นก็มีแต่จะก่อให้เกิดความขุ่นข้องใจแก่ทั้งสองฝ่าย
3. เราไม่เชื่อใจในสาเหตุเบื้องหลังการกระทำของลูก
หากลูกไม่ทำในสิ่งที่เราต้องการ เราก็มักจะสรุปเอาเองว่าลูกดื้อ โดยที่ไม่ได้มองให้ชัดจากมุมมองของลูกก่อนที่จะตัดสินความจริงเบื้องหลังการกระทำนั้น ๆ ในความเป็นจริง “เด็กดื้อ” คนนั้น อาจจะกำลังไม่สบาย ง่วงนอน หิว เจ็บ หรือกำลังแสดงออกเพื่อตอบสนองต่อความเจ็บปวดทางกายหรือทางจิตใจที่เขาเผชิญ หรือแม่แต่กำลังพยายามต่อสู้กับสาเหตุอื่นที่เราไม่ทราบ เช่น ภาวะแพ้อาหาร เป็นต้น กระนั้นเราก็ยังพยายามที่จะเพิกเฉยต่อความเป็นไปได้เหล่านี้เพียงเพราะเราอยากจะเชื่อในสาเหตุที่เลวร้ายที่สุดที่ทำให้เด็กมีพฤติกรรมเช่นนั้น
4. เราไม่ยอมให้เด็กได้เป็นเด็ก
เราหลงลืมไปว่าเราเป็นอย่างไรตอนเราเป็นเด็ก และคาดหวังให้เด็ก ๆ ของเราทำตัวให้เหมือนผู้ใหญ่แทนที่จะยอมรับเขาในการกระทำตามวัยของเขา เด็กตามธรรมชาติจะต้องส่งเสียงดังอึกทึก เก็บอารมณ์ไม่อยู่ และมีช่วงความสนใจสั้น สิ่งต่าง ๆ ที่เราคิดว่าเป็น “ปัญหา” เหล่านี้ แท้จริงแล้วไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิด หากแต่เป็นคุณสมบัติตามธรรมชาติของเด็กปกติ ในทางตรงกันข้าม สังคมของเราที่คาดหวังพฤติกรรมสมบูรณ์แบบนั่นต่างหากเล่าที่เป็นสิ่งที่ไม่ปกติ
5. เราเข้าใจกลับกันไปหมด
เราคาดหวังให้เด็กให้ในสิ่งที่เราต้องการ เราต้องการความเงียบสงบ ต้องการนอนหลับในตอนกลางคืนที่ไม่ถูกลูกตื่นขึ้นมารบกวน ต้องการการเชื่อฟังและอยู่ในโอวาท และอื่น ๆ อีกมากมาย แทนที่จะยอมรับในบทบาทหน้าที่ของตนเองในฐานะพ่อแม่และพยายามตอบสนองในความต้องการของลูก เรากลับเรียกร้องให้ลูกต้องมาแบกรับภาระตอบสนองต่อสิ่งที่เราต้องการ บางครั้งเราก็จดจ่ออยู่กับแค่ความต้องการของตนเองและไม่พอใจเมื่อลูกไม่ตอบสนองต่อความต้องการนั้นจนกระทั่งหลงลืมไปว่าลูกก็เป็นเพียงเด็กน้อยคนหนึ่งที่มีความต้องการของตัวเขาเองเช่นกัน
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
2
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-5-8 20:47
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
6. เราตำหนิและวิจารณ์ในยามที่ลูกทำผิด
ลูกมีประสบการณ์ชีวิตที่น้อยเหลือเกิน และแน่นอนว่าเขาจะต้องทำผิดพลาดบ้าง ความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ไม่ว่าเราจะอยู่ในวัยใดก็ตาม แต่แทนที่เราจะเข้าใจและช่วยเหลือเขา เรากลับตำหนิราวกับว่าเด็ก ๆ ควรจะต้องเรียนรู้ที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ให้สำเร็จสมบูรณ์แบบได้ในครั้งแรก การทำความผิดพลาดถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาของมนุษย์ การทำความผิดพลาดในวัยเด็กยิ่งถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาและหลีกเลี่ยงไม่ได้เสียด้วยซ้ำ กระนั้น เราก็ยังปฏิบัติต่อการทำความผิดพลาดและการฝ่าฝืนกฏราวกับว่ามันเป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจและชวนผิดหวังยิ่งนัก มันช่างไร้เหตุผลหากเราจะบอกว่าเราเข้าใจดีว่าเด็ก ๆ จะต้องทำเรื่องผิดพลาดบ้าง ในขณะที่เราก็ยังคิดว่าเด็ก ๆ ก็ควรจะมีความประพฤติที่สมบูรณ์แบบอยู่ตลอดเวลา
7. เราหลงลืมไปว่าคำตำหนิและวิจารณ์นั้นทำร้ายจิตใจเด็กได้มากเพียงใด
พ่อแม่จำนวนมากมายเข้าใจดีว่าการตีหรือการทำร้ายลูกทางกายนั้นเป็นสิ่งไม่ดีและทำให้ลูกเจ็บปวด แต่เราทั้งหลายก็ยังคงลืมไปว่าคำพูดที่เต็มไปด้วยโทสะ การพูดจาดูถูก แดกดัน และคำตำหนินั้นสามารถทำร้ายจิตใจให้ลูกเจ็บปวดได้มากเพียงใด โดยเฉพาะกับเด็กที่เชื่อว่าทุกอย่างย่อมเป็นความผิดของเขาเองอยู่แล้ว
8. เราหลงลืมไปว่าการแสดงออกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักมีอำนาจเยียวยาได้มากเพียงใด
พ่อแม่จำนวนมากหลงเข้าไปอยู่ในวงจรอุบาทว์ของการตำหนิเมื่อพฤติกรรมแย่ แทนที่จะหยุดสักนิดเพื่อให้ความรัก ให้ความมั่นใจ ให้ความภาคภูมิใจ และความมั่นคงปลอดภัยแก่ลูกน้อยด้วยการกอดและคำพูดอันอ่อนโยน
9. เราลืมไปว่าการกระทำของเราคือคำสอนที่ดีที่สุดสำหรับลูก
ความจริงแล้วสิ่งที่ลูกจะจดจำขึ้นใจหาใช่สิ่งที่เราพร่ำสอนไม่ หากแต่เป็นสิ่งที่เราทำเป็นตัวอย่าง พ่อแม่ที่ทำโทษลูกด้วยการตีเพราะลูกตีผู้อื่นแล้วพร่ำสอนลูกว่าการตีนั้นเป็นสิ่งไม่ดี แท้ที่จริงแล้วกำลังสอนให้ลูกเชื่อว่าการตีเป็นสิ่งที่ถูกต้อง หรืออย่างน้อยก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องและทำได้สำหรับผู้ที่มีอำนาจ พ่อแม่ที่รับมือกับปัญหาต่าง ๆ ด้วยท่าทีที่สงบต่างหากเล่าจึงจะสั่งสอนให้ลูกโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่รักสงบ ปัญหาต่าง ๆ ล้วนเปิดโอกาสให้เราได้สอนคุณค่าให้กับลูกของเรา เพราะเด็ก ๆ สามารถเรียนรู้ได้ดีที่สุดเมื่อพวกเขาได้เผชิญกับมันในชีวิตจริง
10. เรามองเห็นเฉพาะพฤติกรรมภายนอกของลูก แทนที่จะเป็นความรักและความตั้งใจดีที่อยู่ภายใน
เมื่อลูกมีพฤติกรรมที่แย่ ในฐานะพ่อแม่เหนือสิ่งอื่นใดเราควรที่จะ ”มองลูกในแง่ดีที่สุด” ไว้ก่อน เราควรจะเชื่อมั่นว่าลูกมีความตั้งใจที่ดีและพยายามประพฤติตัวดีที่เท่าที่เขาจะสามารถทำได้แล้วในสถานการณ์นั้น ๆ (ที่อาจเห็นได้ชัดหรือไม่ก็ตาม) ด้วยระดับประสบการณ์ชีวิตที่เขามีอยู่ เมื่อเรามองลูกในแง่ดีเสมอแล้ว ลูกก็จะเป็นอิสระที่จะทำในสิ่งที่ดี หากเราให้แต่ความรัก เราก็จะได้รับแต่ความรักตอบกลับมาเช่นกัน
ที่มา.....
http://mother2son.exteen.com/20120202/entry
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
matmee2550
matmee2550
ออฟไลน์
เครดิต
2489
3
#
โพสต์ 2013-5-22 17:11
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เรื่องลูกไม่รู้ แต่ถ้าเรื่องหลานถามมาใด้นะ
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Metha
Metha
ออฟไลน์
เครดิต
54553
4
#
โพสต์ 2013-12-13 12:40
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
อ่านไว้ก่อนเผื่อมีเมียมีลูก
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...