ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
ตำนานพระเกจิอาจารย์แห่งแดนสยาม
»
พ่อท่านแปลก วัดปากปรน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 2137
ตอบกลับ: 0
พ่อท่านแปลก วัดปากปรน
[คัดลอกลิงก์]
oustayutt
oustayutt
ออฟไลน์
เครดิต
22903
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2014-12-12 20:04
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
ประวัติ
ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์สายเขาอ้อ ซึ่งเป็นที่นับถืออย่างยิ่งของชาวตรัง และชาวภาคใต้ แม้บางครั้งวัดที่จำวัดอยู่จะมีพ่อท่านอยู่เพียงแค่องค์เดียว เนื่องจากสถานที่ตั้งอยู่ห่างไกลทุรกันดาร และผู้คนที่อาศัยอยู่รายรอบส่วนใหญ่จะเป็นชาวไทยมุสลิม แต่พ่อท่านก็ยังยืนหยัดครองผ้าเหลืองมาจนถึงเวลานี้ถึง 45 พรรษา ในวัย 77 ปี ด้วยความสมถะ วิเวก เรียบง่าย น่านับถือ พร้อมทั้งยังมีอภินิหาร และแก่กล้าพุทธาคมอย่างยิ่งยวด
"พ่อท่านแปลก" หรือ "พระครูสุเวชโกศล" เจ้าอาวาสวัดปากปรน อำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง เกิดที่บ้านร่มเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2478 โยมบิดาชื่อ "ปาน ชูเท้า" โยมมารดาชื่อ "คุ้ม ชูเท้า" เมื่อวัยเยาว์ได้ช่วยทางบ้านประกอบอาชีพทำนา จนมีอายุครบบวช จึงได้อุปสมบทที่วัดกลาง อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เพื่อศึกษาธรรมและได้เรียนรู้วิชาไสยศาสตร์ด้วย จึงเกิดความสนใจวิชาเวทมนต์ และคาถาอาคมต่างๆ กระทั่งเมื่อไปพบ "หลวงพ่อปาน ปาลธัมโม" วัดเขาอ้อ จึงได้เรียนวิชาการต่างๆ อย่างมากมาย
เมื่อออกพรรษา ทางบ้านได้ให้ให้ลาสิกขามาช่วยทำนาต่อไป จึงต้องสละเพศบรรพชิตทั้งที่จิตใจฝักใฝ่จะอยู่ต่อ แต่ก็ยังไปแสวงหาอาจารย์เรียนรู้วิชาทางไสยศาสตร์อยู่เสมอ จนพบกับ "พระอาจารย์นำ ชินวโร" แห่งวัดดอนศาลา จึงได้รับการชี้แนะแนวทางเวทมนต์และวิทยาคมมากมาย แม้ต่อมาพ่อท่านจะมีครอบครัว แต่เมื่ออายุ 33 ปี ได้เกิดความเบื่อหน่ายชีวิตทางโลก เพราะมีจิตใจใคร่ทางธรรมอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก จึงตัดสินใจอุปสมบทอีกครั้ง เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2510 ณ วัดควนขี้แรด จังหวัดพัทลุง โดยมี "พระครูมุทิตานุรักษ์" วัดท่าแค เป็นพระอุปัชฌาย์ "พระครูนิเทศน์ธรรมวินัย" วัดท่าแค เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ "พระมหาผัน" วัดโคกโพธิ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ โดยได้รับฉายาว่า "ปุสฺสเทโว"
ทั้งนี้ หลังจากจำวัดได้ 1 พรรษา พ่อท่านได้ขอย้ายไปอยู่ที่วัดดอนปรัง วัดควนโตนด และวัดบางขัน จังหวัดพัทลุง เพื่อค้นคว้าเรียนวิชาสายเขาอ้อกับ "หลวงพ่อปาน" อีกครั้งหนึ่ง จนเกิดความชำนาญและสามารถปฏิบัติได้เห็นจริง จึงออกธุดงค์เพื่อหาความสงบวิเวกภายในป่า บนเทือกเขาบรรทัด รอยต่อระหว่างจังหวัดตรัง กับพัทลุง เพื่อฝึกจิตให้กล้าแข็ง จนถึง พ.ศ.2512
หลังจากนั้น พ่อท่านจึงออกธุดงค์อีกครั้ง มาจนถึงวัดปากปรน จังหวัดตรัง โดยพบว่าเป็นวัดร้างไม่มีพระอยู่ มีเพียงกุฏิเก่าๆ และศาลาผุพัง กับป่ารกทึบ ในยุคสมัยที่ยังมีวัดเพียงแค่แห่งเดียวในอำเภอ ขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็นับถือศาสนาอิสลาม พ่อท่านจึงได้จำพรรษาปฏิบัติธรรมอยู่ ณ วัดแห่งนี้เพียงองค์เดียว โดยระหว่างนั้น เริ่มมีชาวบ้านผ่านมาเข้าไปกราบนมัสการ และเริ่มรู้จักมากขึ้น เพราะพ่อท่านได้นำตำรารักษาโรคและตำรับเวทมนต์ จากถ้ำวัดในเขา จังหวัดพัทลุง มาช่วยรักษาชาวบ้านที่เจ็บป่วยด้วยสมุนไพรพื้นบ้าน"พ่อท่านแปลก" ได้รับการกล่าวขานในเวลาต่อมาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะวิชาคาถาอาคมและไสยศาสตร์ที่ได้ร่ำเรียนมาจากสำนักเขาอ้อ ที่ก่อให้เกิดความอัศจรรย์ขึ้นหลายต่อหลายครั้ง เช่น หลายคราวที่มีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่กลับไปถูกจีวรของพ่อท่านเลยแม้แต่เม็ดเดียว อันเนื่องมาจากตะกรุดและคาถา "ฝนแสนห่า" ที่ส่งผลให้มีพุทธคุณปกป้องคุ้มครองกาย หรือแคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งหลายทั้งปวง แต่หากไม่ฝึกปฏิบัติทางจิตอย่างจริงๆ จังๆ จนเข้มแข็งแล้ว ก็จะไม่สามารถทำได้ตามตำรา
นอกจากนั้น ยังมีการพูดถึงคาถา "อาบน้ำในกา" ซึ่งเป็นวิชาช่วยย่นหนทางและย่อกาย จนทำให้พ่อท่านสามารถสรงน้ำได้ โดยไม่ต้องลุกขึ้นไปห้องน้ำ หรือไม่ต้องสรงน้ำเป็นเวลานานๆ ได้ โดยที่ไม่มีกลิ่นกาย แต่ผิวพรรณ ราศรี ยังผ่องใส เปล่งปลั่ง ดูสะอาด รวมทั้งคาถา "ปืนยิงไม่ออก" ที่เลื่องลือมานานแล้ว แต่ไม่ว่าเรื่องราวของพ่อท่านจะโด่งดังมากมายขนาดไหน พระเกจิอาจารย์ผู้เข้มขลังและปฏิบัติดีปฏิบัติชอบรูปนี้ ยังคงถือสันโดษและปฏิบัติธรรมด้วยการพิจารณา "อสุภะกรรมฐาน" อยู่เป็นเนืองนิตย์ พร้อมทั้งยังมีกระแสจิตแก่กล้า แต่มีความเมตตาเป็นเลิศ
อย่างไรก็ตาม หนึ่งในเรื่องราวสำคัญของจังหวัดตรัง ที่เกิดขึ้นเมื่อเทศกาลสงกรานต์ ปี 2550 หรือเมื่อ 7 ปีที่แล้วก็คือ เหตุการณ์น้ำป่าถล่มน้ำตกสายรุ้ง และน้ำตกไพรสวรรค์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 38 ศพ เพียงแต่รายสุดท้ายที่เป็นหญิงสาววัย 31 ปี ชาวตำบลบางดี อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง นั้น ไม่สามารถพบร่างได้ แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะระดมกำลังค้นหาต่อเนื่องกันมาหลายวัน และเป็นระยะทางยาวไกลนับสิบๆ กิโลเมตร แต่หลังจากที่มีการนิมนต์ "พ่อท่านแปลก" ไปทำพิธีบูชาเจ้าป่าเจ้าเขา เพียงแค่ฮึดใจ ก็สามารถค้นพบศพของหญิงสาวเคราะห์ร้าย ในพื้นที่ตำบลโพรงจรเข้ อำเภอย่านตาขาว โดยอยู่ห่างจากจุดที่เกิดเหตุเพียงแค่ไม่กี่กิโลเมตรเท่านั้น
ขณะที่วัตถุมงคลที่พ่อท่านได้ปลุกเสกเอาไว้หลายต่อหลายรุ่น เพื่อนำเงินมาก่อสร้างศาสนสถานต่างๆ ภายในวัดปากปรนนั้น ผู้ที่ได้ไปต่างก็มีประสบการณ์อันน่าอัศจรรย์อย่างมากมาย โดยเหรียญรุ่นแรก ที่สร้างเมื่อ พ.ศ.2538 เป็นเหรียญทองแดงรมน้ำตาลรูปไข่ ต่อจากนั้น ก็ยังมีการสร้างล็อกเกตรูปพ่อท่าน รวมทั้งรูปหล่อเนื้อเซลลิก้าผสมผง หน้าตัก 5 นิ้ว รูปหล่อเนื้อทองเหลือง หน้าตัก 2 นิ้ว แหวนพิรอด สายคาดเอว และผ้ายันต์ โดยวัตถุมงคลรุ่นล่าสุดนั้น เป็นรูปเหมือนพิมพ์เตารีด เนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อนวโลหะ และเนื้อทองแดง ที่สร้างขึ้นเพื่อก่อตั้ง "มูลนิธิดุษฎีบุญ เพื่อการศึกษา" ซึ่งมีพ่อท่านเป็นประธานอุปถัมภ์
นอกจากนั้น พ่อท่านยังได้รับการนิมนต์ไปร่วมปลุกเสก "จตุคามรามเทพ" รุ่นแรก ของ "ขุนพันธ์" หรือ "พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช" มือปราบผู้โด่งดัง ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช รวมทั้งยังได้เดินทางไปร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลอีกมากมาย ทั้งในภาคใต้ และทั่วทั้งประเทศ เป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า 100 รุ่น แต่ถึงแม้เวลานี้กระแสพระเครื่อง โดยเฉพาะ "จตุคามรามเทพ" จะเบาบางลงไปมาก แต่ที่วัดของพ่อท่านซึ่งตั้งอยู่ห่างไกลจากตัวเมืองตรังไปกว่า 60 กิโลเมตร กลับยังคงมีผู้คนที่เลื่อมใสศรัทธาจากทั่วทุกสารทิศเดินไปกราบนมัสการไม่เคยขาด และพ่อท่านก็ให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเองด้วยรอยยิ้มอันมีไมตรีจิต ไม่ว่าผู้นั้นจะมีหน้าที่การงานหรือมีฐานะอย่างไร
ถือเป็นอีกสุดยอดพระเกจิอาจารย์ที่น่านับถือยิ่ง
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...