ปรัศนี: โอปปาติกสัตว์ นี้เป็นอย่างไรครับ? เห็นได้ที่ไหนครับ? รูปร่างเป็นอย่างไรครับ?
พุทธทาส: นี้เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันอยู่เวลานี้ พวกหนึ่งเข้าใจว่า โอปปาติกะนั้น เป็นชื่อของสัตว์ชนิดหนึ่ง นี้เราไม่เห็นด้วย ที่แท้- โอปปาติกะ เป็นชื่อของกิริยาอาการที่เกิด ไม่ได้เป็นชื่อของสัตว์ชนิดหนึ่งที่เป็นรูปร่างอะไรของตนโดยเฉพาะ "โอปปาติกะ" หมายถึง การเกิดในลักษณะที่ว่า ผลุงขึ้นมาโตเต็มที่ ไม่ต้องเกิดเป็นเด็ก ไม่ต้องมีบิดามารดา มันเกิดผลุงขึ้นมาโดยไม่ต้องมีบิดามารดา โดยไม่ต้องเป็นเด็กก่อน เป็นหญิง เป็นชาย ไม่ต้องมีเพศ กิริยาเกิดผลุงอย่างนี้เรียกว่า โอปาติกะ อย่าเติมคำว่า สัตว์ เข้าไป มันเป็นกริยาอาการที่เกิด เป็นชื่อของกิริยาอาการ ทีนี้เมื่อเกิดแล้วจะไม่เรียกสัตว์นั้นว่า "โอปปาติกะ" ไม่ใช่ชื่อของสัตว์เป็นชื่อของกิริยาอาการที่เกิดได้ที่ไหน? เมื่อมีสติปัญญาเข้าใจความหมายของคำๆ นี้ ก็จะเห็นได้ว่าเป็นกิริยาอาการเกิดมีรูปร่างอย่างไร? ไม่แน่ ไม่มีในตำราถ้าวาการเกิดอย่างนี้เกิดเป็นพรหม มันก็มีรูปร่างอย่างพรหม เกิดเป็นเทวดา ไม่ผิดแผกแตกต่างกันไปนี่ ผมจึงอธิบายว่า เมื่อจิตคิดอย่างเทวดา ก็เป็นเทวดา ผลุงขึ้นมาในจิตนี้ไม่ต้องมีพ่อมีแม่ ไม่ต้องเป็นเด็กก่อน มีความรู้สึกเป็นอย่างพรหม จิตก็อยู่ในสภาพพรหม ก็เกิดเป็นพรหมขึ้นมาในจิตใจนี้ การเกิดที่ไม่ต้องเป็นเด็กก่อนไม่ต้องมีบิดามารดา ไม่ต้องเข้าไปในครรภ์ไม่มีเพศอย่างนี้ การเกิดอย่างนี้ว่า "โอปปาติกะ" เป็นชื่อของการกำเนิดอย่างหนึ่งเท่านั้นไม่ใช่ชื่อของสัตว์เลย. เอาต่อไป... การออกเสียง โอปปาติกะ ปรัศนี: คำว่า "โอปปาติกะ"ที่ถูกต้องออกเสียงว่า โอป-ปา-ติ-กา, หรือ โอ-ปะ-ปา-ติ-กะ กันแน่ครับ? พุทธทาส: ที่ถูกต้องออกเสียงว่า โอ ปะ ปา ติ กา อย่าออกเสียงว่า โอป ปา ติ กา ไม่ถูกต้องตามหลักภาษาบาลี เอ้า มีอะไรอีก. |