ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 12819
ตอบกลับ: 0
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

สติปัฏฐาน ๔ คืออะไร

[คัดลอกลิงก์]


สติปัฏฐาน ๔ คืออะไร

สติ แปลว่า การตามระลึกรู้อารมณ์

ปัฏฐาน แปลว่า ที่ตั้ง (ของการเพ่ง)

สติปัฏฐาน ๔ หมายถึง ฐาน หรือที่ตั้งอันเป็นที่รองรับของการกำหนดสติอย่างประเสริฐ เพราะเป็นการตามระลึกรู้อารมณ์ปรมัตถ์ (รูป-นาม) ที่เกิดขึ้นตามฐาน ซึ่งมี ๔ ฐานด้วยกัน คือ กาย เวทนา จิต และธรรม ผู้ใดที่มีการปฏิบัติเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักของสติปัฏฐาน ย่อมเป็นเหตุให้เกิดวิปัสสนาปัญญา อันเป็นปัญญาที่เข้าถึงสภาวธรรมของไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาได้ในที่สุด ทั้งนี้เพราะการปฏิบัติสติปัฏฐาน ๔ สามารถทำลายวิปลาสธรรม ๔ ประการได้ คือ

๑. กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน คือการใช้สติตั้งมั่นในการพิจารณากาย ซึ่งเป็นรูปธรรม เพื่อให้เห็นว่า แท้ที่จริงรูปนั้นเป็นอสุภะ(ความไม่งาม,ความน่าเกลียด) เป็นการทำลาย สุภวิปลาส(สำคัญว่างาม,ว่าน่ารัก)

๒. เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน คือการใช้สติตั้งมั่นในการพิจารณาเวทนา ซึ่งเป็นนามธรรม เพื่อให้เห็นว่า แท้ที่จริงเแล้ว นามเป็นทุกข์ เป็นการทำลาย สุขวิปลาส(สำคัญว่าเป็นสุข)

๓. จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน คือการใช้สติตั้งมั่นในการพิจารณาจิต ซึ่งเป็นนามธรรม เพื่อให้เห็นว่า แท้ที่จริงแล้วนามเป็นอนิจจัง เป็นการทำลาย นิจจวิปลาส(สำคัญว่าเที่ยง)

๔. ธรรมานุปัสสนาสติปัฏฐาน คือการใช้สติตั้งมั่นในการพิจารณาธรรม ซึ่งเป็นทั้งรูปธรรม และนามธรรม เพื่อให้เห็นว่า แท้ที่จริงแล้ว รูป และนามนั้น เป็นอนัตตา เป็นการทำลาย อัตตวิปลาส(สำคัญว่าเป็นตัวตน)

หากเราไม่ฝึกให้มีตัวรู้เกิดขึ้น...เราก็ไม่มีทางจะรู้ตัวได้เลย...และเป็นการยากที่จะ รู้ตัวทั่วพร้อมได้


ผมยกตัวอย่างเช่น...เราเคยไปตีหัวหมา ด่าแม่เจ๊ก ในสมัยเด็ก ๆ ...ไม่เคยที่จะรู้ตัวเลยว่าทำไปแล้วเกิดผลอย่างไร...กว่าจะรู้ตัวก็ผ่านเวลามา 30 ปี ... เช่นนี้เรียกว่าแทบจะไม่รู้ตัวเลย

พอเป็นวัยรุ่นก็ไปทะเลาะต่อยตีกับเขา ซักเดือนหนึ่งผ่านไปก็กลับมาคิดว่า...เราทำไปทำไม...อย่างนี้เรียกว่ารู้ตัวช้า...

เมื่อเป็นผู้ใหญ่...เราก็รู้สึกโกรธ โมโหลูกเมียแต่เช้า...อารมณ์เสียทั้งวัน มารู้ตัวเอาตอนเย็น...แบบนี้เรียกว่าเกือบรู้ตัว

เป็นตอนนี้...เรารู้ทันตัวเอง...ว่า นั่นแน่ะ กำลังจะคิดไปสั่งสอนใครเขา...ทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าคนอื่นเขารู้มากกว่าเราเป็นไหน ๆ...

ผมเลยคิดว่า...ถ้าเราฝึกจนมีตัวรู้ขนาดที่ว่า...กำลังจะคิด กำลังจะทำอะไร ก็รู้ทันตัวเอง ได้...นั่นคือเราฝึกเจริญสติ จนตัวรู้ของเราทำงานตลอดเวลาจนไม่มีช่องว่างให้เรา เหม่อลอย ฟุ้งซ่านรำคาญใจอีกต่อไป...

นั่นคือ เราสามารถฝึกให้ตัวรู้บนฐานที่ตั้งทั้งสี่ เจริญเติบโตจนเข้มแข็งเต็มที่...

ไม่ว่าจะเป็นตัวรู้ ที่  กาย
ตัวรู้ ที่ เวทนา
ตัวรู้ที่ จิต
ตัวรู้ที่ ธรรม
นี่กระมัง...หนทางสายเอกที่จะเข้าถึง การรู้แจ้งในธรรมอย่างแท้จริง...


ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้