ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 1976
ตอบกลับ: 0
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

พุทโธ-ธัมโม-สังโฆ

[คัดลอกลิงก์]
[url=][/url]




                                        พุทโธ-ธัมโม-สังโฆ : วิปัสสนาบนหน้าข่าว โดยพิสุทธิ์ เกรียงบูรพา เรื่อง กิตตินันท์ รอดสุพรรณ ภาพ                                                                
            พ่อผมเป็นคนจีนแต้จิ๋ว ข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากแผ่นดินใหญ่ แต่แม่ผมเป็นคนพะเยา แม้ผมเองจะเกิดในกรุงเทพฯ แต่สมัยผมยังเป็นเด็กน้อย ก็เคยได้ยินญาติผู้ใหญ่ฝั่งแม่ เวลาตกใจ ประหลาดใจ เศร้าใจอะไรมากๆ พวกเขา จะอุทานเป็นสำเนียงเหนือว่า พุทโธ-ธัมโม-สังโฆ!

                    บอกตามตรง ตอนผมยังเล็กๆ ฟังแล้วก็ขำ ที่ขำเพราะแปลก ที่อุทานเสียเนิ่นยาว มาครบพระรัตนตรัยเลย แต่ก็ไม่ได้อินอะไรมากมาย ครั้นเติบใหญ่ขึ้นมา ตลอดชีวิตเคยได้ยินคนอุทาน ออกมาเป็นศัพท์แสงมากมาย ประหลาดกว่านั้นอีก เช่น อุ๊ยลูกกู แม่มึง พ่อมึงตาย อี ฯลฯ สารพัดที่จะพิสดาร ถึงขั้นหยาบโลน เป็นสารพัดสัตว์ เกินกว่าจะนำมาเขียน ณ ที่นี้ได้ ก็มี

            ด้วยเหตุนี้ จู่ๆ ผมก็นึกย้อนไปถึง คำอุทานโบราณของผู้เฒ่า อุ๊ยแก่ เหล่านั้น (ไม่ทราบว่าปัจจุบันชาวเหนือ คนเมืองยังอุทานแบบนั้น อยู่หรือเปล่า?) พิจารณาดูให้ดีแล้ว มันช่างเป็นคำอุทานที่งดงาม และ ทรงคุณค่าจริงๆ

            พุทโธ-ธัมโม-สังโฆ

            ไม่ว่าในเวลาที่เราตกใจ ขวัญหนีดีฝ่อเมื่อภัยมา หรือ หวาดกลัวภัย กลัวผี ยามอยู่คนเดียว หรือ ผิดหวังเสียใจอย่างรุนแรง กระทั่ง ทดท้อ หมดกำลังใจก็ตาม คำอุทาน เช่นนี้ จะพาจิต พาใจ ให้น้อมไปถึงคุณ พระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ ถือเป็นการเรียก 'สติ' กลับมาได้อย่างวิเศษสุด

            พุทโธ-ธัมโม-สังโฆ

            ยังเป็นเครื่องเตือนตนอยู่เสมอ สำหรับชาวพุทธเราว่า ที่พึ่งอื่นของข้าพเจ้าไม่มี นอกเหนือจาก พระพุทธ-พระธรรม-พระสงฆ์ เท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามคำสวดมนต์เช้า-เย็น ดังนี้

            นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง พุทโธ-ธัมโม-สังโฆ เม สะระณัง วะรังฯ

                    เห็นไหมเล่า? อานิสงส์แห่งการสวดมนต์ ใครว่าไม่มี การสวดมนต์และพุทธประเพณีบางอย่าง ก็เป็นรากเหง้าวัฒนธรรมชาวพุทธ ที่ช่วยในการสืบพระศาสนา ผ่านกาลเวลา ๒,๖๐๑ ปี ตราบจนกระทั่งปัจจุบัน

            ฝรั่งที่นับถือคริสต์ เขาชัดเจนมาก พร้อมใจกันอุทานว่า Oh my God!... ผมก็ว่าดีนะ ขออนุโมทนาด้วย ไม่ว่า เรียก Oh my God! ไปแล้ว พระเจ้าของพวกเขาจะมาช่วยหรือไม่ก็ตาม การระลึกนึกถึงพระเจ้าในแง่ไหนๆ ก็ดีทั้งนั้น เช่นการอุทานของอุ๊ยแก่ชาวเหนือนั้น ซ่อนภูมิปัญญาชาวพุทธไว้ลึกซึ้งไม่น้อย เพราะเรามิได้เรียกร้องให้พระรัตนตรัยมาช่วยเท่านั้น แต่สอนให้น้อมจิตถึงพระคุณของแก้วรัตนตรัยทั้ง ๓ เป็น พุทธานุสติ ธรรมานุสติ สังฆานุสติ ว่าโดยรวมอันมีพระธรรมเป็นเครื่องบูชาสูงสุดให้พวกเรา ได้เจริญรอยตามแนวทางแห่งมรรคาอันประเสริฐ เปิดคอกแห่งสังสารวัฏ ออกสู่ประตูนิพพาน อันไร้ซึ่งประตู (The Gateless Gate) เกิดอานิสงส์ขั้นต่ำ คือทำให้อุ่นใจ จากความกลัวผี กลัวตาย ทั้งหลายแหล่ กระทั่งถึง อานิสงส์ขั้นสูง ไปสู่การเข้าถึงสัจธรรม ตามกระแสแห่งนิพพาน พ้นการเกิด-แก่-เจ็บ-ตาย ใครที่เข้าถึง ขั้นนี้แล้ว คงหมดความสะดุ้ง สะพรึง ไร้ความหวาดกลัว (Fearless) ต่อทุกสิ่ง กระทั่งความตาย นั่นเอง

            อันที่จริง  ชาวพุทธแท้ ผู้ผ่านการเจริญมรณสติ มานับครั้งไม่ถ้วน จะไปกลัวอะไร แค่เรื่องความตาย เนอะ? และหากใครเข้าใจหลักแห่งอิทัปปัจยตาด้วยไซร้ มันก็ไม่มีอะไรเกิด ไม่มีอะไรตาย กันเลยทีเดียว เพราะฉะนั้น ผีสางนางไม้ มิอาจทำให้เรากลัวได้แต่อย่างใด หากปรากฏรูปนิมิตให้เห็นเมื่อใด ก็อาจหมายถึงพวกเขาต้องการความช่วยเหลือ เราก็น้อมจิตแผ่บุญกุศลให้ไปด้วยความเต็มใจ เท่านั้นเอง (ไม่เห็นต้องพึ่งใคร หรือต้องโอ้อวดผีเลย?)

                    ผมเอง เริ่มนำกุศโลบาย คำอุทานนี้มาใช้ในชีวิตประจำวัน แม้จะไม่ใช่คนขี้กลัว ขี้ตกใจ จนแทบจะหมดโอกาสที่จะร้องคำอุทานก็ตาม  ผมเอา มาใช้ก่อน Start รถยนต์ ก่อนออกรถ ก็น้อมระลึก หรือกล่าวคำ  พุทโธ-ธัมโม-สังโฆ ก็ทำให้ การขับรถครั้งนั้น เป็นไปด้วยความเย็นใจ มีเมตตาต่อเพื่อนร่วมทางบนท้องถนนมากขึ้น เวลาก่อนเข้าประชุมกับลูกค้าจอมโหด ในวาระหน้าสิ่วหน้าขวาน ก็กล่าว พุทโธ-ธัมโม-สังโฆ หรือเวลาที่เจอนักเลงหัวไม้ที่ไหน จะมายั่วให้โกรธ ก็ท่องในใจ พุทโธ-ธัมโม-สังโฆ ก็แยกย้ายกันไป ไม่มีใครต้องเลือดตกยางออก ก่อเวรกรรมต่อกัน  ฯลฯ

            กระทั่ง ยามศรีภรรยา กระซิบบ่นก่นว่าด่าทอ ทางอีเมลผมก็ตั้งสติได้ด้วยการระลึก พุทโธ-ธัมโม-สังโฆ ไม่โกรธตอบ (เขาว่าคนโกรธตอบ บาปเป็น ๒ เท่าของคนโกรธทีแรก เพราะถือว่า เห็นเขาโกรธแล้ว เห็นภัยจากความโกรธนั้นแล้ว ยังไปร่วมวงฉิบหายนั้นด้วยอีก จึงต้องบาปเป็น ๒ เท่า) บางครั้ง ก็ตอบกลับอีเมลสั้นๆ ว่า พุทโธ-ธัมโม-สังโฆ ไม่น่าเชื่อ พายุที่กระหน่ำ ก็ซาลงโดยฉับพลัน สติ ก็กลับคืนมา งานจึงไม่เข้า บางที ก็มีกลอนพาไป ถือโอกาสประพันธ์ต่อเลยว่า ...

                    ขอพระพุทธ - พระธรรม - พระสงฆ์

            ช่วยปลดปลง ลงเถิด 'อารมณ์' หนอ

            เกิด-ดับ ช่างฉับไว ไม่รั้งรอ

            'สติ' หนอ อยู่ไหน ในหลืบดานฯ

            ใครจะนำไปใช้ ผมก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์หรอกนะครับ เพราะ พุทโธ-ธัมโม-สังโฆ นั้น เจริญและทำให้เกิดขึ้นในจิตในใจของเราได้จริงๆ แม้เบื้องต้น ก็ทำให้สงบจากพายุอารมณ์ การปรุงแต่งทั้งหลาย ในท่ามกลาง ก็ทำให้เราเย็นใจ มี "สติ" ในการดำเนินชีวิตไม่ผิดพลาด ไปกระทั่งถึงเบื้องปลาย ซึ่งถ้าใครได้ปฏิบัติ จิตภาวนาร่วมไปด้วยแล้ว จิตเราก็จะเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระรัตนตรัย เลยทีเดียว

            ไม่น่าเชื่อนะครับ คำอุทานเพียงแค่นั้น จะสร้างโอกาสให้เราน้อมจิตพิจารณา จากสงบใจชั่วคราว ไปกระทั่งถึง กระแสแห่งพระนิพพาน โดยละมุนละม่อม นุ่มนวล และแนบเนีย, ทำให้ความรู้สึกเป็นทุกข์ของเรานั้น ค่อยๆ น้อยลง ห่างขึ้นๆ บรรเทาลงเรื่อยๆ จนไม่เหลือเชื้อสาย เหตุปัจจัยใดที่จะทำให้ทุกข์ได้อีกแล้ว!

                    พุทโธ-ธัมโม-สังโฆ!
                    อานิสงส์คำอุทานของ ผู้เฒ่า อุ๊ยแก่ ท่านซ่อนปริศนาธรรมไว้ในนั้น ไม่น้อยเลย ลองใช้กันดูนะครับ ผมไม่อยากให้มันสูญพันธุ์ไปจากสังคมไทยเลยจริงๆ

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้