เชือกคาดเอว หลวงพ่อจุ่น วัดเขาสะพานแร้ง จ.กาญจนบุรี

รามเทพ

เชือกคาดเอว หลวงพ่อจุ่น วัดเขาสะพานแร้ง จ.กาญจนบุรี



หลวงพ่อจุ่น วัดเขาสะพายแร้ง กาญจนบุรี


๒๗ เมษายน วันคล้ายวันมรณภาพ ท่านคือสุดยอดพระเถราจารย์อีกรูปของจังหวัดกาญจนบุรี
“หลวงพ่อจุ่น ฐานิสสโร” เป็นพระเถระผู้ใหญ่ ที่มีอายุและพรรษาสูง เป็นที่เคารพสักการะของทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ อาคมของท่านสูงส่งเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป เมื่อมีพิธีพุทธาภิเษกในเขตจังหวัดกาญจนบุรี และในเขตจังหวัดใกล้เคียง หลวงพ่อมักได้รับนิมนต์เป็นประธานในพิธีนั่งปรกอธิษฐานจิตเสมอมา พระเถระผู้ใหญ่ในเขตกาญจนบุรี ต่างให้ความเคารพนับถือและเลื่อมใสปฏิปทา และศีลจริยาวัตรของหลวงพ่อเสมอมา
      หลวงพ่อจุ่น ท่านมีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ชอบอยู่อย่างสันโดษ มีอุปนิสัยอ่อนโยน ไม่ถือตัว ไม่ชอบอวดอ้างตนเอง ไม่ชอบสะสม ไม่ยินดียินร้ายในลาภสักการะ ท่านมีเมตตาธรรมต่อประชาชนทั่วไปไม่เลือกหน้า จึงเป็นที่เคารพบูชาของพุทธศาสนิกชน
      วันที่ 5 ธันวาคม 2505 ท่านได้รับการแต่งตั้งจากสมเด็จพระสังฆราชเป็น ”พระอธิการจุ่น ฐานิสสโร”  และต่อมาวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2518 “หลวงพ่อจุ่น ฐานิสสโร” ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่9) พระราชทานสมณศักดิ์เป็น ”พระครูเจ้าอาวาสชั้นโท” มีราชทินนามว่า "พระครูสมณธรรมนิวิฐ” และในปี พ.ศ. 2524 ได้รับการแต่งตั้งเป็น “พระอุปัชฌาย์”
เนื่องจากหลวงพ่อไม่มีโอกาสได้ศึกษาเล่าเรียนทางโลกเหมือนคนอื่นๆ ท่านจึงหันเข้าสู่ธรรมะ ศึกษาจนแตกฉานด้านธรรมวินัย ได้เรียนวิชาอาคม เวทมนต์คาถา และวิชาไสยศาสตร์ จาก”หลวงพ่อแก้ว วัดดอนทราย” อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี วิชาเกี่ยวกับลงเลขยันต์ มหาเสน่ย์ มหานิยม หลวงพ่อได้ใช้เวลาเรียนอยู่นานกว่าจะสำเร็จ
      วัตถุมงคลของหลวงพ่อรุ่นไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหน เมื่อออกมาแล้วก็จะหมดไปอย่างรวดเร็ว วัตถุมงคลรุ่นแรกๆ ของท่านมีตะกรุด รูปเหมือนพระสมเด็จ และเหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก รวมทั้งน้ำมนต์ของท่านก็ศักดิ์สิทธิ์ ใครมีโอกาสได้เห็นหลวงพ่อเป่ากระหม่อม หรือพรมน้ำมนต์ด้วยแล้ว ก็จะกลายเป็นบุคคลที่โชคดีมีลาภสักการะ มีเมตตามหานิยม ติดตัวตลอดไป
      วัตถุมงคลของหลวงพ่อ เจ้าของทุกคนต่างหวงแหนยิ่งกว่าทองคำ ท่านเหล่านั้นต่างพูดกันว่า...
“ผมมีเงินยังสามารถซื้อทองคำเท่าไรก็ได้ แต่ผมจะหาซื้อเช่าซื้อวัตถุมงคลของหลวงพ่อได้ที่ไหนล่ะ”
ยิ่งตะกรุดด้วยแล้วยิ่งไม่ต้องไปพูดถึงเลย ยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรอีก!!!
ทีนี้ขอกล่าวถึงตะกรุดของหลวงพ่อจุ่น ทำไว้ 2 ชนิดคือ ตะกรุดเมตตามหานิยมขนาดเล็ก และตะกรุดโทนเชือกคาดเอวขนาดใหญ่ กรรมวิธีทำตะกรุดขนาดเล็กนับว่าแปลกมาก ที่ว่าขนาดเล็กๆนั้น ขอบอกว่าขนาดเล็กมากจริงๆ ถึงกับใส่เข้าไปในหนังตาได้เลย เมื่อใส่เข้าไปแล้วจะไม่รู้สึกอะไรเลย และเล็กไม่สามารถม้วนด้วยมือเปล่า เมื่อม้วนด้วยมือไม่ได้หลวงพ่อก็ต้องม้วนด้วยวิธีบริกรรมคาถา ท่านบอกว่าต้องนั่งบริกรรมเรื่อยๆ ไปจนกว่าแผ่นเงินจะม้วนตัวจนกลม ตะกรุดบางอันจะเกาะเกี่ยวกันตอนม้วน ต้องมานั่งแกะออกอีก เมื่อม้วนเสร็จแล้วต้องมานั่งปลุกเสกอธิษฐานจิต จะนำใส่ขันน้ำมนต์ หลวงพ่อจะนั่งบริกรรมคาถาอีกครั้ง จนกว่าตะกรุดจะลอยขึ้นมาข้างบน ท่านก็จะเก็บไว้ตะกรุดดอกนั้นออกจากขันน้ำมนต์และจะนั่งบริกรรมไปเรื่อยๆจนกว่าตะกรุดที่ใส่ไว้ทั้งหมดจะลอยตัวขึ้นมา ก็ถือว่าเป็นอันเสร็จพิธี
      จึงไม่แปลกใจ ทำไมตะกรุดของหลวงพ่อจึงโด่งดังมีพุทธคุณที่สูงส่ง ประกอบด้วยเมตตามหานิยม เมื่อใครได้ไปย่อมเป็นที่รักใคร่และเป็นที่ไว้วางใจของบุคคลทั่วไป เมื่ออายุมากขึ้นหลวงพ่อ เลิกทำตะกรุดทั้งหมด ท่านบอกว่าทำตะกรุดแต่ละครั้ง เหนื่อยทั้งกาย เหนื่อยทั้งใจ ร่างกายทรุดโทรมมาก เพราะทำแต่ละครั้งจำนวนมาก ครั้งสุดท้ายหลวงพ่อต้องเข้าโรงพยาบาลและพักผ่อนอยู่หลายวัน เมื่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว จึงเลิกทำตะกรุดตั้งแต่นั้นมา
      เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2533 หลวงพ่อจุ่นได้ถึงแก่กาลมรณภาพ ด้วยอาการสงบ รวมสิริอายุ 78 ปี 7 เดือน 10 วัน 57พรรษา