กลองเพล คือ กลองขนาดใหญ่ ใช้ตีเป็นสัญญาณบอกเวลา เพื่อภิกษุสามเณรได้ฉันเพล โบราณคณาจารย์ ท่านกล่าวว่า เสียงกลองเป็นเสียงที่มีอำนาจ ตีแล้วสามารถดังไปในระยะไกลมากการตีกลองจึงการสื่อสารระหว่างชาวบ้านและพระภิกษุ สามเณร การตีกลองเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า นานนับสิบปียี่สิบปี จึงทำให้กลองนั้นมีความขลังในตัวเอง หนังกลองที่จะนำเอามาทำเป็นเครื่องรางได้ จะต้องเป็นหนังกลองที่ตีจนแตกเท่านั้น จึงถือว่าเป็นวัตถุอาถรรพ์ที่ขลังในตัวเอง ขั้นตอนและวิธีการจัดสร้าง หนังกลองเพล ๑.จัดตั้งเครื่องบูชาครูด้วยขันธ์ ๕ หรือ ขันธ์๘ พร้อมเงินค่ากำนัล(ก็แล้วแต่) เครื่องบูชาได้แก่ กล้วยหักมุก กล้วยนาไท มะพร้าวอ่อน ขนมนมเนย ดอกไม้เจ็ดสี ใช้ผ้าขาวรองขัน ๒.เตรียมแผ่นหนังกลองเพลแตก ที่ตัดแล้วให้มีขนาดพอควร แล้วนำมาไปแช่น้ำว่าน ๑๐๘ ที่หลวงปู่ท่านเป็นผู้ดำริให้จัดหาตามตำราโบราณโดยจะใช้เวลาแช่นานตามฤกษ์ยาม ตามกำหนดเวลา ๓.นำหนังกลองเพลที่แช่น้ำว่าน ๑๐๘ ขึ้นมาแล้วลงอักขระขอมโบราณทับอีกครั้งหนึ่ง โดยหมึกมีส่วนผสมของ น้ำมันจันทน์ และสีผึ้งที่หุงขึ้นในวันเพ็ญ ในการเขียนจะต้องมีการสวดพระคาถากำกับไปด้วย ๔.เมื่อเขียนเสร็จแล้วจึงนำไปชุบน้ำว่าน ๑๐๘ ซึ่งว่านนี้เรียกว่า พญาว่านซึ่งเกิดกลางตอไม้เท่านั้นจึงจะใช้ได้ ซึ่งสรรพคุณพญาว่านนั้นมีพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม และสามารถป้องกันคุณไสย เมื่อชุบแล้วก็นำมาผึ่งลมให้แห้ง ๕.นำแผ่นที่เขียนเสร็จเรียบร้อยทั้งหมดมาสวดปลุกเสกด้วยพระคาถาที่กำหนดไว้เมื่อทำเสร็จแล้วจึงนำไปถวายเป็นกรรมสิทธิ์ของหลวงปู่ ให้ท่านอธิฐานจิตปลุกเสกอีกครั้งหนึ่ง หลวงปู่ญาท่านสวน หลวงปู่คำบุ ตะกรุดหนังกลองเพลแตก สายสำเร็จลุนวัตถุมงคลของแปลกที่หายากและสร้างยาก มีเพียงสององค์ที่สร้างไว้ในแผ่นดิน คือ ของหลวงปู่ญาท่านสวน วัดนาอุดมจ.อุบลราชธานี และ หลวงปู่คำบุ คุตฺตจิตโต วัดกุดชมภู จ.อุบลราชธานี ท่านทั้งสองพระอริยเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำโขง ผู้เปี่ยมไปด้วยความเมตตา หนังกลองเพล (แตก)เป็นหนึ่งในวิชาการสร้างเครื่องรางจากหนังกลองตามโบราณศาสตร์สายของสมเด็จลุนประเทศลาว ซึ่งครูบาอาจารย์ท่านมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างไว้เป็นเครื่องรางมหาลาภ มหามงคลเรียกคนเข้าหา เป็นที่รักใคร่ มีชื่อเสียงกึกก้อง มีเสน่ห์ในวาสนาดวงชะตา ถือเป็นสุดยอดแห่งเครื่องรางด้านเมตตามหานิยม กลอง เพล มีไว้เพื่อตีเรียกพระเณรฉันเพล จึงมีความเชื่อว่าไม่อดไม่อยากและเสียงกลองนี้ยังเป็นเครื่องบอกเวลา ใช้ตีบอกเวลาในสมัยโบราณก่อนที่จะใช้นาฬิกา จึงเป็นเครื่องหมายให้ทุกคนได้ทำกิจกรรมต่างๆในแต่ละวันตามเสียงกลองเพล และอย่างยิ่งในวันโกนวันพระ จะรู้จากการตีกลองเป็นสัญญาณเวลาหลายสิบปีกว่าจะแตกสักลูก หนังกลองเพลแตกหลวงปู่ญาท่านสวน หนังกลองเพลแตกหลวงปู่คำบุ ดังนั้นความเข้มขลังในตัว ความดังกังวานนับวันผสานกับคุณศีลคุณธรรมของพระสงฆ์ ไม่ต้องกล่าวถึงว่าจะสุดยอดปานใด ยิ่งกว่านั้นสมัยนี้จะหาหนังกลองที่ไหนอีก เป็นของอาถรรพ์ที่ฉมังนัก นำมาปลุกเสกตามสูตรพิธีแล้วจักเข้มขลังยิ่งนักตำราโบราณและคำกล่าวของครูอาจารย์ท่านว่า ใครมีตะกรุดหนังกลองแตกจะบังเกิดเมตตามหานิยม เป็นที่นิยมรักใคร่แก่ผู้พบเห็น มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม เรียกผู้คนเข้ามาหา ชีวิตไม่มีอับจน ทำให้มีชื่อเสียงโด่งดัง เจรจาว่าความมิแพ้ใครๆ สนทนาว่างานฝ่ายตรงข้ามถึงกับงงงวย เคลิ้มคำพูดในวาจา มากมีด้วยลาภสักการะ พบโชคพบลาภลอยมาแบบลาภจอนๆตลอดเวลา เป็นที่นิยมมาก(ถิ่นอีสานนิยมกันสุด ๆ ) โดยเฉพาะอาชีพนักร้อง นักแสดง นักขายเจ้าของกิจการร้านค้าต่าง ๆ เสาะหาบูชากัน และยังมีนักการเมืองท้องถิ่น ครู- อาจารย์ ข้าราชการ เป็นต้น หนังกลองเพลแตกหลวงปู่ญาท่านสวน หนังกลองเพลแตกหลวงปู่คำบุ ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพ เจ้าของบทความ และที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก http://mahasetthee.tarad.com/ ขอบคุณที่มาจาก http://www.partiharn.com/contents/51
|