หลวงพ่อใช้ ธัมมโชติ วัดโบสถ์ (บ้านแพรก) สหายธรรมของ หลวงพ่อกบ ผู้วิเศษแห่งเขาสาริกา ลพบุรี (พระเกจิอาจารย์ ผู้สำเร็จวิชากสิณไฟ) ส่วนใหญ่พระเครื่องของท่านไม่ค่อยพบเห็นในอยุธยา อาจจะเพราะคนอยุธยามองข้ามไป และส่วนกลางไม่ค่อยรู้จัก ส่วนใหญ่ไปอยู่กับคนลพบุรีซะส่วนใหญ่ เพราะคนลพบุรีนับถือหลวงพ่อกบมาก กล่าวกันว่า ท่านเป็นผู้เศษมีอิทธิฤทธิ์มาก และด้วยหลวงพ่อใช้ ท่านเป็นสหายกับหลวงพ่อกบ ทำให้คนแถบลพบุรีในอดีตก็นับถือหลวงพ่อใช้ด้วยเช่นกัน พระเครื่องของหลวงพ่อใช้จึงไปอยู่กับคนลพบุรีคนข้างเยอะ (แต่ปัจจุบันพระเครื่องของท่านถือว่าราคาไม่แพง คนรุ่นใหม่ๆไม่ค่อยรู้จัก ) หลวงพ่อใช้ เป็นชาวอำเภอบ้านแพรกโดยกำเนิด เป็นบุตรของนายสงค์ นางชื้น ชูผกา เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2435 ในตลาดบ้านแพรก (คนบ้านเดียวกับ หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค นครสวรรค์ ) พออายุได้ 12 ปี ได้บวชเป็นสามเณรที่วัดเชิงท่า อำเภอมหาราช และไปศึกษาต่อที่วัดมหาธาตุกรุงเทพมหานคร เมื่ออายุครบบวชได้กลับมาอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่บ้านเกิดของท่าน ในปี พ.ศ. 2462 หลวงพ่อใช้ เป็นพระที่ชำนาญ วิปัสสนากรรมฐาน กล่าวกันว่า ท่านสำเร็จ เจโตปริยญาณ จนทำให้ท่านรู้ทางใน ครั้งหนึ่ง ท่านเคยใช้คนไปทำธุระยังต่างจังหวัด คนนั้นเดินเลยบ้านที่ท่านต้องการไปไกล ต้องเสียเวลาย้อนกลับมา พอกลับมาถึงวัดท่านก็ถามว่าทำไมเจอคนที่หน้าบ้านแล้วไม่ถาม เดินเลยไปตั้งไกลกว่าจะย้อนมาใหม่ ท่านสามารถเล่าเหตุการณ์ต่างๆได้เหมือนท่านเดินทางไปด้วย นอกจากนั้นท่านยังทำนายหวย กข เก่งมากจะออกหมวดอะไร แต่ท่านไม่ให้ใครเพราะเห็นเป็นเรื่องการพนัน มอมเมา ให้ชาวบ้านมุ่งประกอบอาชีพทำมาหากินดีกว่า ท่านเคยเขียนหวยใส่กระดาษไว้ล่วงหน้า พอหวยออกให้ชาวบ้านที่นั่งอยู่บริเวณนั้นเปิดดู ปรากฏว่าตรงกันกับที่ท่านเขียนไว้ทุกประการ เล่ากันว่า เมื่อหลังจากท่านตั้งใจลงแรงสร้างศาลาการเปรียญตามที่ท่านตั้งใจจนเสร็จแล้ว หลังจากนั้นมาท่านก็ไม่เคยรับกิจนิมนต์อะไรอีกเลย ไม่ยุ่งเกี่ยวกับทางโลก กลับหันหน้ามุ่งเน้นไปทางปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ฉันอาหารเพียงวันละมื้อ และนั่งวิปัสสนากรรมฐานบริเวณป่าช้า เป็นป่าที่ท่านรักและหวงแหนมาก ท่านนั่งกรรมฐานเป็นเวลานานถึง ๗ ปี โดยไม่รับกิจนิมนต์ใดๆไม่ออกไปไหนมาไหน ที่สำคัญตลอดระยะเวลาที่ท่านนั่งกรรมฐานท่านไม่ได้สรงน้ำเลย จนถึงวันที่ท่านอาพาธ หลวงพ่อใช้ ท่านจึงทำน้ำมนต์อาบเอง และมรณะภาพด้วยอาการอันสงบ เมื่อปี พ.ศ 2505 รวมสิริอายุ 70 ปี และเป็นที่น่าอัศจรรย์ในวันที่ท่านมรณะภาพนั้น หลวงพ่อใช้ ท่านมรณะภาพในท่าพระพุทธไสยาสน์ (นอนมรณะภาพ แบบหลวงพ่อเนียม วัดน้อย หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ )
|