ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 1645
ตอบกลับ: 1
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

หลวงพ่อจง เจอผีเจ้าที่วัดช่างเหล็ก

[คัดลอกลิงก์]




วัดช่างเหล็กนี่น่ะ ก็อยู่เขตอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถ้าเราวิ่งเรือตามกระแสน้ำไปทางจังหวัดพระนคร จะอยู่ใต้จากหลวงพ่อจงไปไม่มากนัก
วัดช่างเหล็กวันนั้นเขาจะรื้อกุฏิหลังหนึ่ง เป็นกุฏิเก่าแข็งแรงมากยาว 9 ห้อง แต่ว่าเป็นกุฏิเก่าๆ ประตูหน้าต่างก็ไม่กว้าง อากาศก็ไม่ดี สมภารเขาจะรื้อแล้วจะทำใหม่ ก็ตั้งท่ารื้อกันตั้งแต่ตอนเช้า พระฉันข้าวเสร็จก็นั่ง ทำพะองขึ้นไปก่อน ทำนั่งร้านขึ้นไปเพื่อขึ้นหลังคา กำลังจะรื้อกระเบื้อง ความจริงพึ่งจะรื้อกระเบื้องได้แถบเดียว หรือยังไม่เต็มแถบดีก็ไม่ทราบ มันหลายคนด้วยกัน พระด้วยฆราวาสด้วย ก็พักถึงเวลาเพล ฉันเพลเสร็จเรียบร้อยแล้วเจ้าอาวาสก็สั่งพระพัก ว่าสักบ่ายโมงค่อยทำ ไปนั่งฉันน้ำร้อนน้ำชากันในโบสถ์
ระหว่างนั้น ปรากฏว่ามีลมพัดมา เสียงลมอู้ แล้วก็ด้านหลังวัดมีกอไผ่มาก เหลียวไปดูที่ไหน ความจริงไม่ใช่ลม มันเป็นเสียงควงกระบองของผีน่ะ กลางวันนะ เวลากลางวัน ปรากฏผีตัวใหญ่สูงกว่ายอดไผ่ เดินข้ามยอดไผ่มา เข้ามาถึงบริเวณนั่งร้านที่เขากำลังรื้อหลังคา มาถึงกระชากๆ นั่งร้านพังหมดเสร็จแล้วก็เดินกรายมาทางโบสถ์

ทั้งพระ ทั้งฆราวาส ทั้งลูกวัด ทั้งสมภาร บอกว่าเกือบไม่หายใจ กลัวตกใจเกือบช๊อคตาย แกเดินไปเดินมา เดินมาเดินไปแล้วก็เดินหายไป กลางวันแท้ๆ นะ พอเรื่องราวผ่านไปทุกคนไม่กล้าขึ้นกุฏิแล้ว ลงเรือข้ามฟากมาหาหลวงพ่อจง
พอดีวันนั้นอาตมานั่งอยู่ที่นั่นพอดี เพราะไปหาหลวงพ่อจงบ่อย ถ้าหากว่ามีธุระอะไรก็ ท่านมักจะให้คนมาตาม ถามว่า มีธุระไหม ถ้าไม่มีธุระกลางวันให้ไปคุยกัน แล้วความจริงคุยกับท่านก็ได้ประโยชน์มาก เพราะผลของการปฏิบัติ หลวงพ่อจงปฏิบัติพระกรรมฐานได้ดีมาก ท่านแนะนำอะไรบ้างตามสมควรในจุดที่สำคัญๆ พูดถึงอารมณ์ของจิต ก็มีประโยชน์ แต่เรื่องนั้นไม่นำมาพูดในที่นี้
พอเขาไปกันเขาก็ไปไหว้หลวงพ่อจง เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง หลวงพ่อจงก็ชี้มา บอก
ถามท่านมหาเขาดูซิว่าผีมีไหม? เขาก็หันหน้ามามอง ความจริงเจ้าอาวาสวัดช่างเหล็กก็ชอบกัน ก็เลยบอกว่า

เรื่องผีนี่ผมโดนมาจนเข็ดแล้วขอรับ หลวงพ่อปานเคยสั่งว่าอย่าอวดเก่งกับผีอย่าอวดดีกับพระ ไอ้นี้เรื่องจริงครับ ไม่ไหว ถ้าผีจะให้ผมสู้ ผมไม่สู้แน่ ถ้าผีเล็กยอมสู้ ผีใหญ่สู้ไม่ได้ เขาก็เลยถามว่า ผีตัวโตๆ แบบนั้นเป็นแบบอะไร

ก็เลยบอกว่า ถ้าไม่ใช่ยักษ์ ก็เป็นกุมภัณฑ์ ท่านเวลาที่จะรื้อกุฏิคงไม่ได้บอกเจ้าของเขาก่อนกระมัง
เขาก็เลยบอกว่า ไม่ได้บอก เห็นมันเก่าก็อยากจะรื้อซ่อมแซม แล้วจะทำ ก็เลยบอกว่า ไอ้ของนี่เรารื้อได้ แต่หากว่าเจ้าของเดิมเขายังหวงแหนอยู่ เขาอาจจะไม่ยอมให้รื้อ หรือถ้าอยากจะรื้ออย่างชนิดที่เรียกว่าไม่มีใครขัดคอ ก็เคยเห็นหลวงพ่อปานบวงสรวงก่อนเสมอ ว่าเจ้าของจะให้หรือไม่ให้ ถ้าให้ท่านก็รื้อ ไม่ให้ท่านก็ไม่รื้อ
หลวงพ่อจงก็เลยบอกว่า นั่นเป็นความจริง ผีที่มาเป็นยักษ์ ลูกศิษย์ท้าวเวสสุวรรณ เขาก็ถามว่า ทำยังไงถึงจะรื้อได้
หลวงพ่อก็บอกว่า ให้ไปตั้งศาลเพียงตาบอกเขาเสียก่อน บอกเขาให้รู้เรื่องว่า เราจะทำอะไร ถ้ารื้อมาแล้วต้องทำให้ดีกว่าเก่านะ จะไปยุบของเขาให้เล็กไม่ได้นะ กุฏิหลังนั้นยังแข็งแรงอยู่ ไม้ไร่ยังดี ต้องทำให้สวยกว่าเก่า ดีกว่าเก่า แข็งแรงเท่าเดิมหรือยิ่งกว่านั้น อย่าไปหากำไรจากการรื้อเอาไม้เอาไร่เขามาขาย ไม่ได้นะ
เขาก็รับรอง แล้วเขาก็เลยนิมนต์หลวงพ่อจงให้ไปบวงสรวง หลวงพ่อจงก็ชวนอาตมาไป ก็ไปด้วยกัน พอไปถึงแล้วเวลาหลวงพ่อจงท่านก็ถามว่า จะทำยังไงดีล่ะ ไอ้ฉันเสียงมันก็ไม่มี ก็เลยบอกว่า เอางี้ก็แล้วกันขอรับ บวงสรวงผมทำได้ แต่ว่าหลวงพ่อนั่งเป็นประธาน การตกลงกับเขาเป็นเรื่องของหลวงพ่อจง แต่ว่าการบวงสรวงเชิญมาเป็นเรื่องของผม ดีไหม ท่านบอกว่า ดี ก็เลยตั้งพิธีบวงสรวงกัน
ขณะที่บวงสรวงนั่นเอง ความจริงตอนนี้ไม่ได้เล่าให้ใครฟังนะ ก็ปรากฏว่าท่านผู้ใหญ่ 4 ท่าน ใหญ่เท่าที่เคยมา ปรากฏกายขึ้น 4 องค์ ตานี้หลวงพ่อจงนั่งอยู่ที่โต๊ะ ตัวของเขามันสูงมากเลยศาลา หัวนะ นี่ทำให้ปรากฏแก่คนทุกคนหมด คนทุกคนเห็นกันหมด โดยเฉพาะเจ้าวัดกับทายกที่รื้อกุฏิถึงกับนั่งก้มหน้านิ่ง เห็นจะคร้ามกระบอง แต่ละท่านมีกระบองเหมือนกับพลองลูกเสือ ปรากฏชัด นั่นเป็นอานุภาพของหลวงพ่อจงนะ หลวงพ่อจงท่านทำให้เห็น หลวงพ่อจงนี่เป็นพระอภิญญา แค่ลำพังอาตมาละก็เจ๊งละ ไม่มีทาง เห็นคนเดียวเห็นได้ คนอื่นเห็นด้วยไม่ได้
พอเสร็จแล้ว หลวงพ่อจงก็ถามให้เขาตอบ หัวหน้าเขาก็ตอบว่า

การทำอะไรไมได้ปรึกษาหารือแล้วที่จะทำนี่นะ ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ดีกว่าเดิมหรอก ทำให้เลวกว่าเดิม จะยุบลงเป็นหลังเล็กๆ ไม้ของสงฆ์ก็จะเหลือแล้วในที่สุดก็จะทอดทิ้งไป หรือเอาเข้าบ้านเข้าช่องไป จึงไม่ต้องการให้รื้อ ถ้าหากว่าต้องการจะทำให้ดีกว่าเก่าใหญ่เท่าเก่า อย่างงี้ทำได้ รื้อได้ ถ้าหากไม่ปฏิบัติตามนั้นเป็นอันว่า คนทุกคนที่รื้อหรือที่จัดการก็ต้องถึงกับทุพพลภาพทุกคน แต่ไม่ถึงตาย
เรื่องนี้หลวงพ่อจงก็หันมาถามเจ้าอาวาสกับทายก ทุกคนยกมือขึ้นพนม รับปากว่าจะทำตามนั้น นี่เป็นอันว่าเรื่องของวัดช่างเหล็กก็ขอผ่านไป
นี่เล่าให้ฟังนะ เชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามใจ ไม่ได้ว่าอะไร
ขอบคุณขอมูลดีๆ จาก : Palungjit.com (โดยคุณ watnatangnok namai)
แอพเกจิ – AppGeji


ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้