แตกตื่น! พบรูปคล้าย"พระแม่ธรณี"ปรากฏที่ในถ้ำเมืองโบราณอู่ทอง-สุพรรณบุรี

Sornpraram

แตกตื่น! พบรูปคล้าย"พระแม่ธรณี"ปรากฏที่ในถ้ำเมืองโบราณอู่ทอง-สุพรรณบุรี


                     

หลังเกิดกรณีชาวเน็ตบางกลุ่มออกมาวิพากษ์วิจารณ์กรณีการจัดสร้างโครงการสร้างพุทธมหาสถานเมืองโบราณอู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ในการจัดสร้างการแกะสลักพระพุทธรูปปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิว่ามีการบุกรุกทำลายป่า เมื่อวันที่ 5 ก.ย. พระธรรมพุทธิมงคล หรือหลวงพ่อสะอิ้ง เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ได้มีการขออนุญาตถูกต้องจากทุกหน่วยงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และการจัดสร้างครั้งนี้ก็ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน พุทธศาสนิกชนที่มาร่วมทำบุญ จนก่อเกิดการสร้างขึ้นจนใกล้จะสำเร็จแล้วในปี 2560 โดยยืนยันว่าไม่ได้เป็นการบุกรุกทำลายธรรมชาติอะไรทั้งสิ้น เพราะพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ผ่านการสำรวจว่าเป็นพื้นที่รกร้าง และมีการยกเลิกสัมปทานการระเบิดภูเขาไปเมื่อปี 2534 จึงมีการขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้มาจัดสร้างพุทธมณฑลทางพระพุทธศาสนา



  พระธรรมพุทธมงคล เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เป็นเรื่องธรรมดาที่โลกนี้จะมีสองด้าน มีทั้งด้านบวก ด้านลบ มีขาว มีดำ มีกลางวัน มีกลางคืน ย่อมธรรมดามีคนเห็นด้วย และมีคนไม่เห็นด้วย ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ เพียงแค่อยากให้เข้าใจตรงกันเท่านั้น จะได้ไม่แสดงความคิดเห็นในทางที่ผิด สิ่งสำคัญเรามีเจตนาดี มีวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างการแกะสลักพระใหญ่ที่ดี เพื่อเป็นมรดกโลกต่อไปในภายภาคหน้าอยู่คู่กับพระพุทธศาสนาต่อไป



ล่าสุดได้เกิดสิ่งแปลกขึ้นบริเวณด้านหลังองค์พระแกะสลักพระใหญ่ ปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ ภายในอุโมงค์ใต้ถ้ำผามังกรบินแห่งนี้ หลังจากชาวบ้านที่ไปไหว้พระทำบุญ พบเห็นรูปคล้ายผู้หญิงนั่งพับเพียบ ผมยาว มีลักษณะเหมือนมือบีบมวยผม ปรากฏอยู่ภายในผนังถ้ำใต้ฐานการแกะสลักพระใหญ่ ซึ่งหลายคนต่างเชื่อว่าน่าจะเป็นภาพของพระแม่ธรณี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้ออกมาปรากฏเพื่อปกปักรักษาพื้นที่แห่งนี้ให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข



พระครูใบฎีกาศักดิ์ดนัย สันตจิตโต พระลูกวัดวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร กล่าวว่า หลังจากชาวบ้านที่เดินทางมาชมสถานที่แกะสลักพระใหญ่แห่งนี้ ได้เห็นภาพมีลักษณะแบบนี้ก็ได้มาบอกกับอาตมา วันนี้เลยเดินทางมาตรวจสอบด้วยตัวเอง ส่วนตัวก็ไม่อยากแสดงความคิดเห็นอะไร เนื่องจากเป็นมุมมองของความเชื่อของแต่ละคน แต่ก็ได้ยินชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามีลักษณะคล้ายกับพระแม่ธรณี



"สำหรับสถานที่ตรงจุดนี้เป็นจุดที่พระสงฆ์จะมานั่งทำวิปัสสนากรรมฐาน และพุทธศาสนิกชนมานั่งสมาธิในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา โดยเป็นบริเวณด้านหลังขององค์พระใหญ่ เป็นแนวยาวประมาณ 100 เมตร ที่ผ่านมาก็ไม่เคยพบภาพลักษณะแบบนี้เพิ่งจะมาเห็นนี่แหละ"พระครูใบฎีกาศักดิ์ดนัยกล่าว



  นายนิรุตน์ เจริญทรัพย์ ชาวจ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า ได้เดินทางเข้ามาไหว้พระทำบุญที่แกะสลักพระพุทธรุป จากนั้นก็เดินเข้ามาชมภายในอุโมงค์ก็กำลังจะถ่ายรูป ปรากฏว่าเห็นรูปลักษณะคล้ายผู้หญิงบีบมวยผมยาวโผล่ออกมาจากผนังถ้ำ อยู่ติดกับผนังถ้ำถึงกับตกใจ และได้เรียกเพื่อนๆเข้ามาดู และได้พากันมาถ่ายรูป ซึ่งทุกคนก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามีลักษณะคล้ายพระแม่ธรณี เชื่อว่าท่านเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ออกมาปกปักรักษาสถานที่แห่งนี้ให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข ด้วยทานบารมีในจิตเมตตาของพุทธศาสนิกชนทุกคนที่มาร่วมทำบุญก็จะส่งผลให้สถานที่แห่งนี้มีบุญกุศลแรงกล้า และจะเป็นพุทธมณฑลทางพระพุทธศาสนาที่มีความงดงามต่อไป

  นางอัมพร เจ้าเมืองแดงโต อายุ 49 ปี กล่าวว่า จู่ๆก็ฝันถึงสถานที่แห่งนี้ แต่ตนไม่รู้หรอกว่าอยู่ที่ไหน จึงได้เข้าไปหาข้อมูลจากข่าว ปรากฏว่าอยู่ที่เมืองโบราณอู่ทองสุพรรณบุรี จึงได้พาครอบครัวทางมาทำบุญไหว้พระ พอเห็นครั้งแรกน้ำตาไหลเลย รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก และพอได้มาพบเห็นรูปพระแม่ธรณีภายในถ้ำแห่งนี้ รู้สึกว่าไม่น่าเชื่อจู่ๆก็มีภาพลักษณะคล้ายกับภาพพระแม่ธรณี ปรากฏโผล่ขึ้นมาบนผนังถ้ำ ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลกอัศจรรย์ใจมาก ส่วนตัวก็เชื่อว่าท่านเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จะมาช่วยปกปักรักษาพื้นที่แห่งนี้ให้อยู่คู่กับพุทธศาสนิกชนต่อไป ไม่อยากให้ใครมาวิพากาษ์จิจารณ์ไปในทางไม่ดี เพราะหลวงพ่อท่านมีจิตใจดีและเจตนาที่ดี ในการจัดสร้างสถานที่แห่งนี้




หลังเกิดกรณีชาวเน็ตบางกลุ่มออกมาวิพากษ์วิจารณ์กรณีการจัดสร้างโครงการสร้างพุทธมหาสถานเมืองโบราณอู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ในการจัดสร้างการแกะสลักพระพุทธรูปปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิว่ามีการบุกรุกทำลายป่า เมื่อวันที่ 5 ก.ย. พระธรรมพุทธิมงคล หรือหลวงพ่อสะอิ้ง เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ได้มีการขออนุญาตถูกต้องจากทุกหน่วยงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และการจัดสร้างครั้งนี้ก็ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน พุทธศาสนิกชนที่มาร่วมทำบุญ จนก่อเกิดการสร้างขึ้นจนใกล้จะสำเร็จแล้วในปี 2560 โดยยืนยันว่าไม่ได้เป็นการบุกรุกทำลายธรรมชาติอะไรทั้งสิ้น เพราะพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ผ่านการสำรวจว่าเป็นพื้นที่รกร้าง และมีการยกเลิกสัมปทานการระเบิดภูเขาไปเมื่อปี 2534 จึงมีการขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้มาจัดสร้างพุทธมณฑลทางพระพุทธศาสนา



  พระธรรมพุทธมงคล เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เป็นเรื่องธรรมดาที่โลกนี้จะมีสองด้าน มีทั้งด้านบวก ด้านลบ มีขาว มีดำ มีกลางวัน มีกลางคืน ย่อมธรรมดามีคนเห็นด้วย และมีคนไม่เห็นด้วย ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ เพียงแค่อยากให้เข้าใจตรงกันเท่านั้น จะได้ไม่แสดงความคิดเห็นในทางที่ผิด สิ่งสำคัญเรามีเจตนาดี มีวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างการแกะสลักพระใหญ่ที่ดี เพื่อเป็นมรดกโลกต่อไปในภายภาคหน้าอยู่คู่กับพระพุทธศาสนาต่อไป

Sornpraram

ล่าสุดได้เกิดสิ่งแปลกขึ้นบริเวณด้านหลังองค์พระแกะสลักพระใหญ่ ปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ ภายในอุโมงค์ใต้ถ้ำผามังกรบินแห่งนี้ หลังจากชาวบ้านที่ไปไหว้พระทำบุญ พบเห็นรูปคล้ายผู้หญิงนั่งพับเพียบ ผมยาว มีลักษณะเหมือนมือบีบมวยผม ปรากฏอยู่ภายในผนังถ้ำใต้ฐานการแกะสลักพระใหญ่ ซึ่งหลายคนต่างเชื่อว่าน่าจะเป็นภาพของพระแม่ธรณี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้ออกมาปรากฏเพื่อปกปักรักษาพื้นที่แห่งนี้ให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข


พระครูใบฎีกาศักดิ์ดนัย สันตจิตโต พระลูกวัดวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร กล่าวว่า หลังจากชาวบ้านที่เดินทางมาชมสถานที่แกะสลักพระใหญ่แห่งนี้ ได้เห็นภาพมีลักษณะแบบนี้ก็ได้มาบอกกับอาตมา วันนี้เลยเดินทางมาตรวจสอบด้วยตัวเอง ส่วนตัวก็ไม่อยากแสดงความคิดเห็นอะไร เนื่องจากเป็นมุมมองของความเชื่อของแต่ละคน แต่ก็ได้ยินชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามีลักษณะคล้ายกับพระแม่ธรณี



"สำหรับสถานที่ตรงจุดนี้เป็นจุดที่พระสงฆ์จะมานั่งทำวิปัสสนากรรมฐาน และพุทธศาสนิกชนมานั่งสมาธิในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา โดยเป็นบริเวณด้านหลังขององค์พระใหญ่ เป็นแนวยาวประมาณ 100 เมตร ที่ผ่านมาก็ไม่เคยพบภาพลักษณะแบบนี้เพิ่งจะมาเห็นนี่แหละ"พระครูใบฎีกาศักดิ์ดนัยกล่าว



  นายนิรุตน์ เจริญทรัพย์ ชาวจ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า ได้เดินทางเข้ามาไหว้พระทำบุญที่แกะสลักพระพุทธรุป จากนั้นก็เดินเข้ามาชมภายในอุโมงค์ก็กำลังจะถ่ายรูป ปรากฏว่าเห็นรูปลักษณะคล้ายผู้หญิงบีบมวยผมยาวโผล่ออกมาจากผนังถ้ำ อยู่ติดกับผนังถ้ำถึงกับตกใจ และได้เรียกเพื่อนๆเข้ามาดู และได้พากันมาถ่ายรูป ซึ่งทุกคนก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามีลักษณะคล้ายพระแม่ธรณี เชื่อว่าท่านเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ออกมาปกปักรักษาสถานที่แห่งนี้ให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข ด้วยทานบารมีในจิตเมตตาของพุทธศาสนิกชนทุกคนที่มาร่วมทำบุญก็จะส่งผลให้สถานที่แห่งนี้มีบุญกุศลแรงกล้า และจะเป็นพุทธมณฑลทางพระพุทธศาสนาที่มีความงดงามต่อไป

  นางอัมพร เจ้าเมืองแดงโต อายุ 49 ปี กล่าวว่า จู่ๆก็ฝันถึงสถานที่แห่งนี้ แต่ตนไม่รู้หรอกว่าอยู่ที่ไหน จึงได้เข้าไปหาข้อมูลจากข่าว ปรากฏว่าอยู่ที่เมืองโบราณอู่ทองสุพรรณบุรี จึงได้พาครอบครัวทางมาทำบุญไหว้พระ พอเห็นครั้งแรกน้ำตาไหลเลย รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก และพอได้มาพบเห็นรูปพระแม่ธรณีภายในถ้ำแห่งนี้ รู้สึกว่าไม่น่าเชื่อจู่ๆก็มีภาพลักษณะคล้ายกับภาพพระแม่ธรณี ปรากฏโผล่ขึ้นมาบนผนังถ้ำ ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลกอัศจรรย์ใจมาก ส่วนตัวก็เชื่อว่าท่านเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จะมาช่วยปกปักรักษาพื้นที่แห่งนี้ให้อยู่คู่กับพุทธศาสนิกชนต่อไป ไม่อยากให้ใครมาวิพากาษ์จิจารณ์ไปในทางไม่ดี เพราะหลวงพ่อท่านมีจิตใจดีและเจตนาที่ดี ในการจัดสร้างสถานที่แห่งนี้

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1473064794

majoy

สาธุๆๆ