เรื่องเล่าขานมีอยู่ว่า…..
ครั้งหนึ่งภายหลังจากที่หลวงพ่อทาได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ พระครูอุตรการบดี (หลวงพ่อทา โสณุตฺตโร) แล้วนั้น ไม่นานก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ มีสิทธิ์บวชกุลบุตรได้ทั่วอำเภอที่ปกครองอยู่ ระหว่างนั้น ครั้งหนึ่งท่านได้รับนิมนต์ไปเป็นอุปัชฌาย์ ในการเดินทางไปต้องประสบกับกลุ่มโจรที่ดักปล้นคนผ่านทางไปมา เมื่อพบหลวงพ่อทาขี่ม้า จึงเจรจาขอม้าจากหลวงพ่อ ก็ได้รับคำตอบจากหลวงพ่อทาให้พวกโจรทั้ง 5 รอท่านก่อน เมื่อบวชนาคเสร็จแล้วจึงจะเอาม้ามาให้ เมื่อท่านบวชนาคเสร็จแล้ว ได้ขี่ม้ามาเส้นทางเก่า พบโจรทั้งห้ายังคงยืนนิ่งแข็งอยู่ในที่เดิมที่ผ่านมาในครั้งแรก จึงได้หยุดกล่าวอบรมสั่งสอนพวกโจรทั้งห้า ซึ่งต้องมนต์สะกดนะจังงังของท่าน จนในที่สุดได้เลิกอาชีพโจรไป “นะจังงัง” เป็นมนต์อย่างหนึ่ง ผู้ถูกมนต์นี้จะนิ่งงัน ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หลวงพ่อทามีชื่อเรียกจากบรรดาลูกศิษย์ลูกหาและชาวบ้านว่า “หลวงพ่อเสือ” ทั้งนี้ เพราะว่าท่านเป็นพระภิกษุที่ดุมาก ในสมัยที่ท่านยังดำรงชีวิตอยู่ ใครเกะกะเกเรกินเหล้าเมายา หรือยกพวกมาก่อความวุ่นวายภายในวัดยามที่ทีมงานแล้วล่ะก็ เป็นอันต้องเจอดี โดยเฉพาะ “กระเบนหางด้วน” อันเป็นหางปลากระเบนตากแห้งขนาดใหญ่ที่ท่านใช้เฆี่ยนตีพวกเกะกะเกเรเหล่านั้น กิตติศัพท์แห่งชื่อเสียงของหลวงพ่อทานั้นเป็นที่ทราบกันดีสำหรับชาวนครปฐม และในหมู่นักสะสมพระเครื่องทั้งหลาย
|