ศาลเจ้าพ่อนาคราชจันเสนสร้างจาก...ความแม่นยำการดูหมอ'อ.แห้ว'

oustayutt · โพสต์ 2014-8-2 16:36

[url=]

[/url]
[url=]

[/url]

1
2
3
4

ศาลเจ้าพ่อนาคราชจันเสนสร้างจาก...ความแม่นยำจากการดูหมอของ'อ.แห้ว' : ท่องไปในแดนธรรม เรื่องไตรเทพ ไกรงู ภาพ ประเสริฐ เทพศรี
            ศาลเจ้าพ่อนาคราช ตั้งอยู่ที่ ต.จันเสน อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่อยู่คู่ชุมชนจันเสนมาร่วมสี่ชั่วอายุคนแล้ว ชาวจันเสนเชื่อกันว่ามี "เจ้าพ่อนาคราช" มีอำนาจดูแลทรัพย์สมบัติใต้พื้นดินทั้งหมดประทับอยู่ จึงได้พากันก่อตั้งศาลเจ้าขึ้นแต่ก็เป็นเพียงเพิงสังกะสีเล็กๆ ไม่ใหญ่นัก และก็ได้พากันกราบไหว้ขอพรจากเจ้าพ่อนาคราช แต่ก็เป็นที่รู้จักกันในเฉพาะชุมชนจันเสนเท่านั้น เนื่องจากในสมัยนั้นพื้นที่ยังเป็นป่า การเดินทางไปมาหาสู่กันค่อนข้างจะลำบาก
            ผู้สร้างศาลเจ้าพ่อนาคราชเป็นคนแรก คือ "อาก๊ง" ซึ่งเป็นบรรพบุรุษผู้จับจองพื้นที่บริเวณศาลเจ้าพ่อนาคราชเป็นที่ทำมาหากิน ท่านได้เล่าให้ฟังต่อๆ กันมาว่า ได้เห็นพญานาค ๒ ตัวเล่นน้ำอยู่ในบึงโบราณ ซึ่งเป็นบึงเก่าแก่คู่เมืองจันเสนตั้งแต่สมัยทวาราวดี และท่านก็ได้เห็นพญานาค ๒ ตัวนี้หลายครั้งก็เลยสงสัย จึงได้เสี่ยงทายตามวิธีของคนจีนจนได้รู้ว่าเจ้าพ่อนาคราชมาบอกให้สร้างศาลให้ ท่านก็เลยตกลงใจชวนกันก่อตั้งศาลเจ้าขึ้น ณ บริเวณที่พญานาคเล่นน้ำนั้น โดยสร้างเป็นเพิงสังกะสีเล็กๆ ตามกำลังทรัพย์
            เมื่อศาลเจ้าทรุดโทรมตามกาลเวลา ก็ได้ทำการบูรณะศาลเจ้า เป็นเรือนไม้ที่แข็งแรงขึ้นแต่ก็ไม่ใหญ่กว่าเดิมมากนัก จนเวลาล่วงเข้ามาถึงปี ๒๕๔๔ ก็ได้มีการบูรณะศาลเจ้าครั้งใหญ่อย่างที่ไม่มีใครคิดว่าจะสร้างได้ใหญ่โตอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ด้วยงบประมาณเริ่มต้นที่ ๓,๐๐๐ บาทเท่านั้น และศาลเจ้าพ่อนาคราชหลังแรกก็สร้างสำเร็จเสร็จสิ้นในเวลาเพียง ๘ เดือน โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งหมดประมาณ ๔๐ ล้านบาท จนกลายเป็นที่ประดิษฐานขององค์เทพ เทวรูป พระในปางต่างๆ มากมาย เช่น พระยูไล เจ้าแม่กวนอิม เทพเจ้ากวนอู เทพเจ้านาจา เทพเจ้าไฉ่สิ่งเอี๊ยะ พระ ๑๘ อรหันต์ เทพเจ้าตี่จั่งอ๊วง เป็นต้น
            ในระหว่างทำการก่อสร้างนี้ได้มีผู้มีจิตศรัทธาได้พากันบริจาคสิ่งของที่ใช้ในการก่อสร้างเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น อิฐ หิน ปูน ทราย เหล็ก หรือกระเบื้องต่างๆ และมีผู้คนพากันมาขอพรจากเจ้าพ่อนาคราชและองค์เทพต่างๆ ทุกวัน ในวันงานประจำปี คือวันที่ ๘, ๙ และ ๑๐ ธันวาคมของทุกปี จะมีผู้คนมาที่ศาลเจ้าพ่อนาคราชเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในวันที่ ๑๐ ธันวาคมจะมีมากเป็นพิเศษ เนื่องจากจะเป็นวันที่เจ้าพ่อนาคราชจะมาประทับทรงผ่านร่าง "อาจารย์แห้ว" ซึ่งใน ๑ ปี จะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น จึงมีคนมากเป็นพิเศษโดยเฉพาะชาวจีน
            คำพูดหนึ่งที่ อ.แห้ว มักจะบอกลูกศิษย์เสมอว่า "ถ้าเลี้ยงพ่อแม่ไม่อิ่ม หรือไม่เคยซื้อข้าวของ เครื่องใช้ รวมทั้งไม่เคยให้เงินพ่อแม่ ไม่ต้องมาทำบุญที่นี่ พระอรหันต์อยู่ในบ้านแท้ๆ ไม่ยอมทำบุญกับท่าน พรจากปากพ่อแม่สุดยอดกว่าพรจากพระเกจิอาจารย์รวมทั้งจากปากของฉันด้วย และใครที่ทำบุญแล้วรู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกว่าจะเอาไปเข้าพกเข้าห่อใช้ส่วนตัวไม่ต้องมาทำ"

พลังศรัทธาของศิษย์ร่วมสร้าง

            "อาจารย์แห้ว" ได้เกิดนิมิตฝันว่า มีคนแก่ชาวจีนนุ่งผ้าแพรสีแดง คะเนอายุน่าจะประมาณพันปีเห็นจะได้ บอกอาจารย์แห้วสร้างศาลให้ใหม่ตรงบริเวณเดิม แล้วจะเสร็จในหนึ่งปี อาจารย์แห้วนิมิตฝันอยู่แบบนี้ ๓ ครั้ง ก็เลยตกลงใจที่จะสร้างศาลเจ้าตามที่นิมิตฝันนั้น แต่ก็มานั่งวิตกกังวลว่าจะสร้างเสร็จในหนึ่งปีได้อย่างไร ในเมื่อมีเงินอยู่เพียง ๓,๐๐๐ บาทเท่านั้นเอง
            หลังจากวางศิลาฤกษ์แล้ว ศรัทธาในครั้งนี้ล่วงรู้ถึงบรรดาลูกศิษย์ทั้งหลาย ก็ได้พร้อมใจกันบริจาคข้าวของต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น อิฐ หิน ปูน ทราย จนทำให้ศาลเจ้าหลังแรกแล้วเสร็จในเวลาเพียง ๘ เดือน ในระหว่างก่อสร้างนั้นอาจารย์แห้วได้ไปเชิญบุคคลผู้หนึ่ง คือ "เตี่ยบุญชอบ อุทโยภาส" หรือชื่อสมัยที่อยู่เมืองจีนว่า "เต็กฮะ แซ่อึ้ง" มาช่วยดูแลในการก่อสร้างศาลเจ้าตามศาสตร์ของจีน และเป็นผู้ให้ความหมายของอักษรจีนที่อยู่ในศาลเจ้าแห่งนี้ทั้งหมด โดยล่าสุด อาจารย์อารย์ ปาลเดชพงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า ได้ซื้อที่ดินเพื่อขยายศาลเจ้า ๑๒ ไร่
            ส่วนอีกพลังศรัทธาหนึ่ง คือ นายสมชาติ สาลีพัฒนา หรือที่รู้จักกันคือ "นายเงี๊ยบ" เจ้าของร้านก๋วยเดี๋ยว "ลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ" เป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาที่ดำเนินธุรกิจยาวนานกว่า ๔๐ ปี และกาแฟนายเงี๊ยบ โดยเขามีความตั้งใจว่ากาแฟทุกๆ ๑ แก้วที่ขายจะหักไว้ ๑ บาท เพื่อร่วมสมบททุนสร้างโรงพยาบาลกับ อ.แห้ว หมอดูเทวด

ร่วมบุญสร้าง พระยูไลขนาดหน้าตัก ๑๙ เมตร

            ชื่อเสียงของอาจารย์แห้วเริ่มโด่งดังจนเป็นที่รู้จักกันอย่างมาก มีบรรดาลูกศิษย์เข้ามาให้ดูดวงให้ไม่เว้นแต่ละวัน เงินทองที่ได้มาจากการดูดวงนั้นอาจารย์แห้วได้นำไปสร้างโบสถ์ที่วัดโคกงามซึ่งเป็นวัดที่จำพรรษาอยู่จนสำเร็จเสร็จสิ้นในเวลาเพียง ๑๑ เดือน เป็นโบสถ์หลังแรกในชีวิตเลยทีเดียว พอสร้างโบสถ์สำเร็จก็ได้สร้างถาวรวัตถุให้วัดต่างๆ อีกเป็นจำนวนมาก หลังจากลาสิกขาบทออกมาแล้วก็ยังคงช่วยเหลือในที่ต่างๆ อีกเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอารามต่างๆ สถานที่หน่วยงานราชการต่างๆ จนกระทั่งบูรณะศาลเจ้าพ่อนาคราชซึ่งเป็นศาลเจ้าที่บรรพบุรุษได้สร้างขึ้นจนเป็นศาลเจ้าที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน
            ทุกวันนี้ก็ยังคงมีบรรดาลูกศิษย์ลูกหาพากันมาให้อาจารย์ตรวจดวงชะตาให้อย่างสม่ำเสมอ วันหนึ่งๆ ไม่ต่ำกว่าร้อยคน นอกจากจะดูดวงชะตาแล้วยังให้อาจารย์แห้วทำพิธีเสริมดวงชะตา เสริมบารมี และอะไรต่ออะไรอีกหลายอย่าง โดยในบางครั้งอาจารย์แห้วจะประทับทรงเชิญองค์เทพผ่านร่างเพื่อให้พรกับบรรดาลูกศิษย์และบุคคลทั่วไป แต่การประทับทรงผ่านร่างนั้นจะมีเป็นบางครั้งบางคราวเท่านั้นไม่ได้ประทับทรงผ่านร่างทุกวันอย่างที่หลายคนเข้าใจ
            นอกจากจะดูดวง ประทับทรงแล้ว อาจารย์แห้วยังเป็นผู้ที่ช่วยเหลือสังคมอีกเป็นจำนวนมาก เช่น สร้างหอประชุมให้แก่โรงเรียนวัดจันเสน สร้างถาวรวัตถุให้แก่วัดต่างๆ รวมทั้งช่วยสร้างโบสถ์ไปแล้ว ๙ วัด เมรุ ๒๙ วัด รวมทั้งให้การสนับสนุนหน่วยงานราชการในการจัดกิจกรรมต่างๆ นับครั้งไม่ถ้วน นับว่าเป็นผู้ที่มีบทบาทมากคนหนึ่งในสังคม กับความตั้งใจสุดท้ายถ้ายังไม่สิ้นอายุขัย มีบุญพอ มีกำลังพอ ก็จะสร้างโรงพยาบาลที่ ต.จันเสน เป็นที่สุดท้ายในชีวิต
            กำหนดงานคล้ายวันเกิด อ.แห้ว และไหว้ครูประจำปี ๒๕๕๗ ขอเชิญร่วมสร้างอาคารพระยูไลขนาดหน้าตัก ๑๙ เมตร วางศิลาฤกษ์ในวันอาทิตย์ที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๕๗ เวลา ๐๙.๒๙ น. บวงสรวงเทวดา และทำพิธีไหว้ครู  เวลา ๑๑.๔๙  น.ผู้ร่วมงานจะได้รบแจกเหรียญพระยูไลรุ่นมงคลชีวิต สอบถามข้อมูลได้ที่ โทร.๐๘-๕๔๒๐-๓๘๒๓ และ ๐๘-๑๙๔๗-๑๓๕๕

Sornpraram · โพสต์ 2016-10-1 09:09