ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 1658
ตอบกลับ: 0
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

พระนางมะลิกา

[คัดลอกลิงก์]




อนุสาวรีย์พระนางมะลิกา ตั้งอยู่ที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่






                    พระนางมะลิกา  เป็นพระธิดาของพระเจ้าอุดมสินแห่งเมืองฝางกับพระนางสามผิว  ประสูติราว  ปี พ.ศ.  ๒๑๓๑   ก่อนตั้งพระครรภ์พระมารดาทรงสุบินว่า   มีช้างเผือกนำดอกมะลิมาถวาย  จึงขนานพระนามว่า  “ มะลิกา ”  ตามพระสุบิน   พระนางสามผิวมีพระพุทธปฏิมาแก่นจันทร์เป็นพระพุทธรูปประจำพระองค์ ทรงสักการะบูชาทุกค่ำเช้า
                  วันหนึ่งมี่ขุ่นเคืองพระทัยด้วยเรื่องพระสนมเอกของพระเจ้าฝาง เมื่อถึงเวลาถวายเทียนสักการะบูชาพระพุทธปฏิมาแต่พระองค์ ยังมิอาจดับพระทัยที่ขุ่นเคืองได้ ขณะที่จุดเทียนถวายสักการะบูชาพระพุทธปฏิมาแก่นจันทร์ และทรงละเลยไว้ด้วยความประมาทเทียนที่จุดไว้ล้มลงเผาไหมพระโอษฐ์พระพุทธปฏิมา รุ่งขึ้นเวลาเช้าเมื่อพระนางเจ้าเสด็จออกจากที่บรรทมทรงทราบว่าเทียนล้มลงเผาไหม้พระโอษฐ์พระพุทธปฏิมาแก่นจันทร์ก็ทรงสำนึกความบาปที่กระทำด้วยความประมาท ครั้นกาลต่อมา พระครรภ์ครบกำหนดทศมาส ประสูติพระราชธิดาผู้ทรงโฉมศิริโสภาคพระฉวีวรรณผุดผ่อง แม้นเหมือนพระมารดา แต่ก็มีตำหนิที่ควรสมเพชที่พระธิดา มีริมพระโอษฐ์ล่างแหว่งไป  เมื่อพระชันษาได้   ๑๘ ทรงมีพระสิริโฉมงดงาม  ได้มีราชบุตรต่างเมืองมาสู่ขอ  พระนางไม่สนพระทัย  กลับรบเร้าให้พระบิดาสร้างเวียง  (พระตำหนัก )ให้  ใน ปี  พ.ศ. ๒๑๕๐ เมื่อราชบุตรีทรงวุฒิจำเริญขึ้น พระเจ้าฝางทรงเกรงเป็นที่ละอายแก่ไพร่ฟ้าพลเมืองจึงทรงสร้างสวนหลวงขึ้นทางทิศเหนีอเวียงสุโท (ใกล้กับเมืองฝาง) และสร้างคุ้มหลวง ประกอบด้วย คู และปราการ ประตู  ๔ ด้านล้อมรอบประทานราชบุตรี ให้เป็นที่ประทับสำราญ สวนหลวงแห่งนั้นจึงได้ชื่อว่า เวียงมะลิกา(บางฉบับว่า เวียงสนธยา) เชื่อว่า เวียงมะลิกาไม่มีบุรุษเพศเลย ผู้คนล้วนแต่สตรีเพศพระแม่เจ้าทรงฝึกฝนสตรีผู้กำยำเป็นทะแกล้วคนหาญของเวียงมะลิกา จนเป็นที่ลือชา ปรากฏว่าเวียงมะลิกามีคนหาญการธนูที่แกร่งกล้ายิงแม่นนัก    กาลต่อมามีราชบุตรของเจ้าผู้ครองเวียงภูก่ำ(แคว้นไตใหญ่) ได้สดับข่าวเกี่ยวกับพระเจ้าแม่มะลิกา แรงแห่งบุพเพสันนิวาสเกิดขึ้นในราชบุตร พระราชบุตรได้ทรงอ้อนวอนพระเจ้าภูก่ำ ขอเสด็จไปเวียงมะลิกาเยี่ยงสามัญชนคนค้าขาย  พระเจ้าภูก่ำทรงอนุญาต แล้วดำรัสสั่งอำมาตย์คนสนิท ให้ ตระเตรียมม้าต่างอัญมณีเป็นสินค้าโดยเสด็จพระราชบุตร ข่าวการเสด็จฯของพระราชบุตรทราบถึงเจ้าแม่มะลิกา พระองค์ก็เกิดอางขนางในวันที่พระราชบุตรกำหนดเข้าเฝ้าถวายอัญมณีแม่เจ้าก็เสด็จหลีกลี้ไปสรงสนานน้ำห้วยและแต่งให้พระพี่เลี้ยงนางเหลี่ยวอยู่เวียงมะลิการับเสด็จพระราชบุตร เมื่อพระราชบุตรในรูปของพ่อค้านายวาณิชเข้าเฝ้า พระพี่เลี้ยงก็กล่าวว่าแม่เจ้าไม่ทรงปรารถนาพบเห็นชายใด ๆ และไม่ต้องประสงค์ในการได้ยินเรื่องเช่นนี้ พ่อค้า จำแลงก็ลากลับเวียงภูก่ำด้วยความโทมนัส ขณะที่พระนางมะลิกาสรงสนานอยู่ น้ำในลำห้วยก็กลายเป็นสีเลือดด้วยละอายพระทัยคนทั้งหลายจึงเรียกน้ำห้วยนั้นว่า "แม่อาย" จึงได้ชื่อตำบลนี้ว่า "แม่อาย"
                  ต่อมาในปี   ๒๑๗๒  ทัพพม่าได้ยกมาตีเมืองฝาง   พระนางมะลิกาได้พาไพร่พลของตนเข้าต่อสู้กับพม่า  ช่วยบิดาต้านทานได้  ๓  ปี  ในที่สุดก็ต้านไม่ไหวเพราะกำลังที่มีน้อย  พระเจ้าอุดมสินกับพระนางสามผิวมารดา    ไม่ทรงยอมจำนนต่อข้าศึก  ได้กระโดดลงน้ำบ่อซาววา สิ้นพระชนม์   ส่วนพระนางมะลิกาได้พาไพร่พลที่เหลือกลับไปตั้งหลักที่เวียงสนธยา  และครองเวียงอยู่ได้  ๔๐  ปี  ทรงสวรรคตในปี   ๒๑๙๐  รวมพระชนมายุได้  ๕๘  ปี    ต่อมาได้มีการจัดสร้างอนุสาวรีย์พระนางมะลิกาขึ้น  เพื่อระลึกถึงคุณงามความดีของพระนาง และเป็นที่เคารพสักการะของชาวแม่อายมาจนตราบเท่าทุกวันนี้




http://historicallanna01.blogspot.com/2011/05/blog-post_07.html
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้