ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
มรดกธรรม เส้นทางสู่ทางสงบในชีวิตและจิตใจ
»
“สัญญา” กับ “ปัญญา” (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 1535
ตอบกลับ: 1
“สัญญา” กับ “ปัญญา” (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
[คัดลอกลิงก์]
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32163
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2014-10-29 17:24
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
ความเห็นตามสัญญากับความเห็นด้วยปัญญา
ต่างกันอยู่มากราวฟ้ากับดิน
ความเห็นด้วยสัญญาพาให้ผู้เห็นมีอารมณ์มาก
มักเสกสรรตัวว่ามีความรู้มาก ทั้งที่กำลังหลงมาก
จึงมีทิฏฐิมานะมาก ไม่ยอมลงให้ใครง่ายๆ...
ส่วนความเห็นด้วยปัญญาเป็นความเห็นซึ่งพร้อมที่จะถอดถอน
ความสำคัญมั่นหมายต่างๆ อันเป็นตัวกิเลสทิฏฐิมานะน้อยใหญ่
ออกไปโดยลำดับที่ปัญญาหยั่งถึง
ถ้าปัญญาหยั่งลงโดยทั่วถึงจริงๆ กิเลสทั้งมวลก็พังทลายไปหมด
ผู้ปฏิบัติทางจิตภาวนา
จึงควรระวังเจ้าสัญญาจะแอบเข้ามาทำหน้าที่แทนปัญญา
โดยรู้เอาหมายเองเฉยๆ
แต่กิเลสแม้ตัวเดียวก็ไม่ถอดออกจากใจบ้างเลย
และอาจกลายเป็นทำนองว่า “ความรู้ท่วมหัวแต่เอาตัวไม่รอด” ก็ได้
เวลาสติปัญญาละเอียด ธรรมละเอียด
ส่วนกิเลสที่จะทำให้หลงก็ละเอียดไปตามๆ กัน
จึงเป็นความลำบากอยู่ไม่น้อยในธรรมแต่ละขึ้นกว่าจะผ่านไปได้
การทำสมาธิภาวนาจึงเป็นวิธีปฏิบัติต่อใจได้ดีและถูกทาง
ยิ่งเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อด้วยแล้ว
สติปัญญายิ่งมีความสำคัญมากในการตามรู้และรักษาจิต
ตลอดจนการต้านทานทุกขเวทนา
ไม่ให้มาทับจิตในเวลาจวนตัว
ซึ่งเป็นเวลาเอาแพ้เอาชนะกันจริงๆ
ถ้าพลาดท่าขณะนั้น
ก็เท่ากับพลาดไปอย่างน้อยภพหนึ่งชาติหนึ่ง
เช่น ไปเกิดเป็นสัตว์ชนิดใด
ก็ต้องเสียเวลานานเท่าชีวิตของสัตว์ในภพภูมินั้นๆ
ขณะที่เสียเวลายังต้องเสวยกรรมในกำเนิดนั้นไปด้วย
ถ้าจิตดีมีสติพอประคองตัวได้ อย่างน้อยก็มาเกิดเป็นมนุษย์
มากกว่านั้น ก็ไปเกิดในเทวสถาน
ชมวิมานและเสวยทิพย์สมบัติอยู่นานปี
ถึงจะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก
เวลามาเกิดเป็นมนุษย์ก็ไม่ลืมศีลธรรม
ที่ตนเคยบำเพ็ญรักษามาแต่บุพเพชาติ
ทำให้เพิ่มอำนาจวาสนาบุญญาภิสมภารขึ้นโดยลำดับ
จนจิตมีกำลังแก่กล้าสามารถรักษาตัวได้
การตายก็เป็นเพียงการเปลี่ยนร่างจากต่ำขึ้นไปสูง
จากสั้นไปหายาว จากหยาบไปหาละเอียด
จากวัฏฏจักรไปเป็นวิวัฏฏจักร
: หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี
.................................................................................
ที่มา
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=18852
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
En130
En130
ออฟไลน์
เครดิต
704
2
#
โพสต์ 2014-10-29 17:57
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...