ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
ตำนาน เรื่องเล่า เกร็ดความรู้ เรื่องลี้ลับ
»
เรื่องเล่าขาน บ่อน้ำพี้
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 1484
ตอบกลับ: 0
เรื่องเล่าขาน บ่อน้ำพี้
[คัดลอกลิงก์]
oustayutt
oustayutt
ออฟไลน์
เครดิต
22903
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2014-10-13 16:21
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
เรื่องเล่าขาน
เหล็กล้างอาถรรพ์
เหล็กน้ำพี้เมื่อตีเป็นมีดหรืออาวุธหรือของใช้ต่าง ๆ เนื้อเหล็กจะมีความเหนียวและอ่อน สามารถงอได้ตามต้องการ เพื่อที่จะซุกซ่อนไม่ให้ศัตรูมองเห็น และหากฟาดฟันไปตรงร่างของผู้ใด แม้ผู้นั้นจะเป็นผู้มีวิชาอาคมสูงถึงขนาดอยู่ยงคงกระพันฟันแทงไม่เข้า แต่หากโดนคมดาบน้ำพี้เข้าแล้ว ความเหนียว ความคงกระพันที่เคยมีกลับสูญสลายไปอย่างหมดสิ้น อานุภาพของดาบเหล็กน้ำพี้กล่าวกันว่า ไม่เฉพาะจะล้างอาถรรพ์กับผู้มีวิชามนต์คาถาเท่านั้น แม้แต่จิตวิญญาณหรือภูตผีปีศาจยังเกรงกลัว
อานุภาพจากก้อนแร่เหล็ก
นางจำรัส เชื้อนพคุณ ชาวบ้านน้ำพี้เล่าว่า หลานชายรับราชการทหารอยู่ที่จังหวัดน่าน อันเป็นดินแดนที่เคยมีผู้ก่อการร้ายชุกชุมมาก วันหนึ่ง ขณะที่หลานชายของนางจำรัส ออกลาดตระเวรกับเพื่อนทหารด้วยกันได้เกิดปะทะกับผู้ก่อการร้าย ถูกถล่มรอดมาได้อย่างอัศจรรย์ ทั้ง ๆ ที่โดนกระสุนปืนและสะเก็ดระเบิดจนเสื้อผ้าขาด แต่เนื้อตัวกลับไม่มีบาดแผลอะไร นางจำรัสเชื่อว่า ที่หลานชายแคล้วคลาดปลอดภัยมานั้น เป็นเพราะอานุภาพของก้อนเหล็กน้ำพี้ ที่มอบให้และนำติดตัวไว้เป็นประจำเพียงอย่างเดียว นางจำรัสจึงเชื่อว่า แร่เหล็กน้ำพี้ มีความศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ รวมทั้งชาวบ้านคนอื่น ๆ ก็เชื่ออย่างนี้ทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางไปไหนไกล ๆ ถ้าพกแร่เหล็กน้ำพี้ติดตัวไปด้วยเสมอ จะแคล้วคลาดปลอดภัยทุกครั้ง
สับด้วยมีด
พระอธิการเจียน ปุณฺณธมฺโม เจ้าอาวาสวัดบ้านน้ำพี้เล่าว่า ได้แจกวัตถุมงคลให้กับชาวบ้านไปมากมาย ล้วนทำด้วยแร่เหล็กน้ำพี้ วันหนึ่งโยมจากสุโขทัยมาขอวัตถุมงคลเพิ่มเติม และเล่าว่าเขาเป็นพ่อค้าขายหมู บังเอิญเกิดทะเลาะกับพ่อค้าหมูด้วยกันและโดนสับด้วยมีด แต่มีดที่คมกริบนั้นไม่ระคายผิวของเขาเลย คู่ทะเลาะวิวาทเห็นว่าเขาหนังเหนียวฟันไม่เข้า จึงตกใจวิ่งหนีไปเรื่องจึงสงบ
ลำแสงประหลาด
เกี่ยวกับอภินิหาร หรือความอาถรรพ์ของแร่เหล็กน้ำพี้และบ่อเหล็กน้ำพี้นั้น ประชาชนในบ้านน้ำพี้และในเขตหมู่บ้านข้างเคียง มีความเชื่อถือว่า บ่อเหล็กน้ำพี้รวมทั้งเจ้าพ่อบ่อเหล็ก มีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ไม่มีใครกล้าไม่มีใครบังอาจล่วงเกินอย่างเด็ดขาด เพราะส่วนใหญ่มักได้เจอดีถ้าคิดอยากลองดีเสมอ ๆ และได้เห็นกันจริงทุกยุคทุกสมัย ที่บ่อเหล็กน้ำพี้แห่งนี้ วันดีคืนดี ก็จะเกิดมีลำแสงประหลาดลุกโชนสว่างไสว ผุดขึ้นบริเวณบ่อเหล็ก ลำแสงจะพุงขึ้นสู่ท้องฟ้า เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนาน 2-3 นาที แล้วก็หายไปในอากาศ บางคราวลำแสงก็พุ่งไปตามยอดเขาสูง ๆ ในแถบนั้น
เสือลายพาดกลอน
บ่อยครั้งที่ชาวบ้านในละแวกนั้น ออกไปทำไร่ ทำนา ต้องเดินผ่านศาลเข้าพ่อ มักจะได้พบเสือตัวใหญ่ลายพาดกลอน หยุดยืนขวางทางนิ่งอยู่เฉย ๆ บ้างเดินผ่านเส้นทาง แล้วกระโจนหายเข้าไปในบ่อเหล็กน้ำพี้ เป็นที่น่าหวาดเสียวกันอยู่ทั่วไป แต่ไม่เคยมรปรากฏว่าชาวบ้านหรือสัตว์เลี้ยงถูกเสือทำอันตราย ชาวบ้านต่างรู้กันดีว่า นั่นไม่ใช่เสือธรรมดา แต่เป็นพาหนะของเจ้าพ่อบ่อเหล็กน้ำพี้ หรือ พ่อเลี้ยง
ว่ายน้ำบนบก
มีชายคนหนึ่งมีอายุครบบวชเรียน แต่ยังไม่ได้บวช คุณตาของชายหนุ่มเคยบอกว่า ควรไปหาแร่เหล็กน้ำพี้มาติดตัวไว้ เพราะจะป้องกันเภทภัยอันตรายได้ ชายหนุ่มได้พยายามดั้นด้นไปจนถึงบ่อเหล็กน้ำพี้ เมื่อถึงที่หมายแล้วก็เลือกได้ก้อนแร่สีดำเกลี้ยง ผิวเป็นมัน สีเขียวออกปนแดงเล็กน้อย ก้อนโตขนาดผลมะกอก น้ำหนักผิดจากหินธรรมดาทั่วไป มั่นใจว่าต้องใช่เหล็กน้ำพี้แน่ จับได้กระชับมือจึงได้นำติดตัวไปทั่วทุกทิศ แล้วฝนก็ตกหนักอย่างชนิดที่ไม่ลืมหูลืมตา ฉับพลันน้ำป่าก็หลาก ไหลมาไม่ขาดสายมากขึ้น จนต้องลอยคอว่ายน้ำกระเสือกกระสนเอาชีวิตรอด เสียงฟ้าร้องฟ้าฟาดจนแสบแก้วหู เปรี้ยงป้าง ยอดไม้โอนเอนไปมา รู้อย่างเดียวว่าจะต้องหนีให้พ้นจากที่ตรงนี้ให้ได้ในเวลาอันรวดเร็ว เพราะเหนื่อยจนจะขาดใจอยู่แล้ว สำนึกสุดท้ายบอกตัวเองว่า ต้องตายแน่เราต้องตายแน่ ๆ แต่ดีหน่อยที่แร่เหล็กน้ำพี้ยังมีอยู่ที่ตัวเราคงไม่เป็นไร ใจเริ่มชุมชื้นขึ้นบ้าง มีกำลังตะเกียกตะกายต่อไป มารู้อีกครั้ง เมื่อเกิดความรู้สึกแสบที่หน้าอก หัวใจปวดแสบปวดร้อนอ่อนเพลีย เหลียวกลับไปดูทิศทางที่ว่ายน้ำหนีมาแทบตายเมื่อครู่ ไม่เห็นว่าจะมีอะไร สภาพป่ายังคงอยู่ตามปกติ ไม่มีร่องลอยของน้ำป่าไหลหลากหลงเหลืออยู่เลย ถ้าเช่นนั้นก็แสดงว่า เราว่ายน้ำบกไม่ใช่ว่ายน้ำจริง ๆ กล้ามเนื้อทุกส่วนยังคงกระตุกเต้น แขนขาสั่นเทา เมื่อยขบไปทั้งตัว ไม่ใช่ความฝันแน่นอน เมื่อพักเหนื่อยพอมีแรงก็เดินต่อไป จนถึงบ้าน จึงเล่าเรื่องที่ประสบมาให้คุณตาฟัง ท่านจึงบอกว่าผิดตรงที่ไม่บอกเจ้าพ่อก่อน ท่านหวง ท่านเป็นผู้ดูแล ถ้าท่านไม่ให้แล้วใครเอาไป ก็จะเกิดเภทภัยอาเพศต่าง ๆ นานา หลับก็ฝันเห็นคนแก่นุ่งขาวห่มขาว มาบอกเอาแร่ไปคืนที่เดิม บาคนก็ละเมอเพ้อพก เจ็บป่วยอยู่เป็นแรมเดือน ผู้เฒ่าผู้แก่ต้องจัดทำพิธีขอขมาลาโทษ แล้วก็นำก้อนแรน้ำพี้ไปคืนที่เดิม ก็จะหายป่วยเป็นปรกติดี มาจนถึงปัจจุบันนี้ ผู้ใหญ่มักจะสั่งสอนลูกหลานว่า อย่าไปเที่ยวเล่นหรือพูดจาระรานหมิ่นแหม่ แสดงถึงความไม่เคารพต่อเจ้าพ่อ ที่บ่อเหล็กน้ำพี้เป็นอันขาด
เจ้าพ่อล้มควาย
ที่บ้านน้ำพี้ เมื่อถึงปีวาระ ชาวบ้านจะจัดทำพิธีรดน้ำดำหัวผู้เฒ่าผู้แก่ ตลอดถึงพิธีพิเศษให้กับเจ้าพ่อบ่อพระแสง เป็นประเพณีบวงสรวง จะจัดทำทุกปีเพื่อแสดงความเคารพ ที่เคยบนบานศาลกล่าว ให้เจ้าพ่อปกป้องคุ้มครองช่วยเหลือ ในฐานะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณกาล ก็มาทำการแก้บน มีชาวบ้านคนหนึ่งบนบานกับเจ้าพ่อว่า ถ้ากิจนี้สำเร็จ ด้วยบารมีของเจ้าพ่อเมตตาอนุเคราะห์ข้าน้อยจะให้ควายด่อน (ความสีเผือก) แก่เจ้าพ่อตัวหนึ่ง กล่าวกันว่าพอเสร็จกิจ ผู้บนได้จุดธูปปักบอกกล่าวกับเจ้าพ่อ แล้วเดินไปแก้เชือกควายด่อน ที่ผูกไว้ข้างคอก พอเชือกหลุดมันจะวิ่งลัดออกไปยังบ่อเหล็กน้ำพี้ เมื่อถึงก็ล้มลง ขาดใจทันทีเรื่องนี้ผู้เล่าบอกว่า เป็นความจริง และได้ยินจากปากคนทรงว่า ไม่ต้องล้มมันเจ้าพ่อล้มเอง
หญิงสาวถูกถีบ
วันหนึ่ง มีผู้มาแก้บนที่ศาลเจ้าพ่อโดยใช้ร่างทรง และมีการล้มควายด่อน เพราะทราบว่าเจ้าพ่อชอบทานเนื้อควายด่อน ชาวบ้านจึงช่วยกันทำลาบลู่(ลาบดิบ) กะละมังใหญ่พร้อมกับเครื่องเซ่นไหว้อื่น ๆ อีกหลายอย่าง เมื่อถึงเวลา หญิงสาวคนหนึ่งก็อาสายกกะละมังไปถวาย พอขึ้นไปถึงศาลเจ้าพ่อ ยังไม่ทันวางกะละมัง ก็ปรากฏว่าหญิงสาวที่ยกกะละมังนั้น หงายท้องตีลังกา ตกลงมาจากศาลในลักษณะไม่เป็นท่า พอลุกขึ้นได้ก็เล่าให้ฟังว่า ได้เห็นแวบเดียวเหมือนเท้าใครคนหนึ่งถีบยันเต็มหน้า พราดเดียวหลบไม่ทันเลย ร่างทรงบอกว่า มันไม่เคารพข้า บังอาจควักกินก่อนเอามาให้ กูต้องสั่งสอนมัน และไม่ยอมรับเครื่องเซ่นไหว้ในครั้งนี้ด้วย หญิงคนนั้นยอมรับว่าเป็นความจริงตามที่เจ้าพ่อว่าทุกประการ
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...