ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
มรดกธรรม เส้นทางสู่ทางสงบในชีวิตและจิตใจ
»
การครองความโดดเดี่ยว
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 6235
ตอบกลับ: 2
การครองความโดดเดี่ยว
[คัดลอกลิงก์]
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2014-1-9 12:05
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
การครองความโดดเดี่ยว การพอใจในความโดดเดี่ยว
การครองความโดดเดี่ยว การพอใจในความโดดเดี่ยว
การยินดีการกำหนดรู้และพิจารณาตามอยู่อย่างโดดเดี๋ยว เฉพาะจงเจาะแต่ กายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต และธรรมในธรรมของตน ย่อมเป้นเหตุปัจจัยให้เห็นผลของการอยู่ด้วยธรรมความเป็นมนุษย์ การไปเกิดด้วยธรรมในเท
วดา ในพรหม ในอรูปพรหม การข้ามโคตรภูไปสู่การไม่อยากไปเกิดมาเกิด ถึงธรรมความเป็น
อริยะในโสดา สกิทาคา แล้วถึงธรรมของพรหมจรรย์ในอนาคามีแล้ว ถึงของพระอรหันต รู้ตามพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ไปได้ด้วยอาการเดียวกันอย่างนี้ ทางเดียวกันอย่างนี้ มีอริยสัจทั้ง ๔ เป็นเครื่องตั้งต้น มีอริยะมรรค ๘ ประการเป้นเครื่องมือพิจารณาตามไป มีจรณะ๑๕ เป็นเครื่องประคองตนให้ยินดีอยู่อย่างนั้น เพื่อการหลุดพ้น มึโพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ เป็นเครื่องมือช่วยตอบข้อสงสัยในที่พักของบันไดแต่ละก้าว สะพานแต่ละจุด แต่ละตัว แต่ละองค์ธรรม มีธัมมจักกัปวัตนสูตรเป็นแสงธรรมพยายามแรกของการเห็นแจ้ง แทงตลอดไปในทุกๆสุขคติภพ ทั้งแสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาล มีอนันตลักขณะสูตรเป็นตัวบอก ความไม่มีอะไรเหลือในตนแล้ว ตนไม่มีอะไรเป็นเหตุปัจจัยให้เป็นตัวตนอยู่อีกแล้ว
ทั้งนี้ ผู้รู้ ผู้ผ่าน วสีในองค์คุรแห่งฌานที่อาศัยรูป และฌานที่ไม่อาศัยรูปมาก่อน ย่อมหลงทางได้ยาก ย่อมเป็นญาณทัสสนะ ที่มา ที่ไปของตนเอง และสัตว์โลกทั้งหลายอยู่อย่างนั้น ย่อมเห็นสังโยชน์ทั้ง ๑๐ประการ ด้วยวิปัสสนาญาณที่ละเอียดทั้ง ๙ และ ๑๐ละดับ ว่าเป็นของมี หรือ ไม่มีแล้วในตน เห็นที่มาที่ไปของการวิมุตติหลุดพ้นไปในที่ที่ไม่มีสังขารธาตุธรรมเหลืออยู่ให้เห้น ด้วยการเห็นเสมอกันตั้งแต่ยังไม่สิ้นอายุขัย เรียกว่านิพพานเป้น เห็นที่มาที่ไป ของอายตนะที่ไม่หนีเราไปไหนเลย ไม่มีการเต็มเลย มีที่ว่างที่สว่าง สะอาด สงบ ปราศจากสังขารธาตุธรรมใดๆทั้งสิ้น ไม่มีอายตนะ ๑๒ ธาตุ ๑๘ อินทรีย์ ๒๒ มีแต่อายตนะที่ใสสว่างอยู่อย่างนั้น ตลอดกาล
เมื่อละวางสังขารไปตามอายุขัยและกรรมเก่าของตนแล้ว เรียกว่า ตายแล้ว ย่อมไปอยู่ในที่นั้นๆ อย่างไม่มีอะไรสงสัย ไม่มีเศษเชื้อใดๆให้ต้องเป็นภาระ กังวลทั้งกายและใจ อีกต่อไป
ที่นั้น ท่านทั้งหลาย รู้เห็นเป็นและไปตามพระพุทธเจ้าได้ เมื่อจำเพาะว่า ได้พอใจ ยินดี ตั้งตนอยู่อย่างโดเดี่ยวอย่างนี้
ที่มา..
http://phrachai.blogspot.com
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Nujeab
Nujeab
ออฟไลน์
เครดิต
27800
2
#
โพสต์ 2014-1-9 14:33
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
สาธุ ขอบคุณครับ
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
3
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2019-12-11 12:25
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...