ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
คณะศิษย์หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ (คศช.)
›
พูดคุยตามประสา คศช.
»
ข้อปฏิบัติในการใส่บาตร
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 2264
ตอบกลับ: 3
ข้อปฏิบัติในการใส่บาตร
[คัดลอกลิงก์]
AUD
AUD
ออฟไลน์
เครดิต
4386
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2013-5-4 12:14
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
Cr .
รณชต
ข้อปฏิบัติในการใส่บาตร
>
1. นิมนต์พระ
> หลังจากที่เราเตรียมสำรับกับข้าวเรียบร้อยแล้ว เราก็ยืนรอพระที่จะเดินบิณฑบาตผ่านมา
>
การยืนรอพระในขั้นตอนนี้
> ควรศึกษาให้ดีเสียก่อนว่า เส้นทางนี้มีพระเดินผ่านหรือไม่
> ไม่ใช่ว่าไปรอบนทางสายเปลี่ยวที่ไม่มีพระเดินผ่าน คงไม่ได้ใส่กันพอดี
> รอซักพัก
> พอมีพระเดินมาก็นิมนต์ท่าน
>
การนิมนต์
> ก็ควรใช้คำว่า "นิมนต์ครับ/ค่ะท่าน" แค่นี้พระท่านก็ทราบแล้ว
> ตอนเป็นพระเคยเดินบิณฑบาตที่ตลาดเขมร
>โยมนิมนต์ด้วยถ้อยคำอันรื่นหูว่า "ท่านเจ้าประคุณเจ้าคะ นิมนต์เจ้าค่ะ" (ใช้คำไฮโซมาก)
> มีอีกทีนึงโยมใช้คำว่า "นิมนต์เจ้าค่ะ พระอาจารย์" (เอ่อ โยม อาตมาเพิ่งบวชอาทิตย์เดียว)
> การนิมนต์พระควรนิมนต์ด้วยความสำรวมและใช้เสียงดังพอประมาณ
> โยมบางคนเรียกพระด้วยเสียงอันดัง "นิ โมนน!!" (แง้ ทำไมต้องตะคอกด้วย - -")
> การนิมนต์ควรสังเกตอายุของพระด้วย
> ถ้าอายุน้อยกว่าเรา หรือว่าเยอะกว่าไม่มาก ก็เรียกว่าหลวงพี่ ถ้ามีอายุหน่อยก็เรียกหลวงน้า
> ถ้าแก่พรรษามากก็เรียกหลวงตา หรือนอกจากนี้ก็อาจจะเรียกหลวงอา หลวงลุง หลวงปู่ฯลฯ
> แล้วแต่จะลำดับญาติ
> อย่างฉันปีนี้อายุ ๒๓ ปี หน้าตาค่อนข้างเด็ก
> แต่เคยมีโยมใช้คำว่า "นิมนต์ค่ะ หลวงลุง" ทำเอาเสีย self
> จนอยากสึกออกไปทำ baby face
> โยมบางคนคงเขินอายพระ
> เนื่องจากไม่ค่อยได้ใส่บาตรเท่าไร เวลาพระเดินมาก็ยื่นมือออกมาทำท่ากวักๆ
> ทำเหมือนพระเป็นรถเมล์
> หลังจากนิมนต์พระ
> ก็เข้าสู่ขั้นตอนถัดไปคือ
>
>
2. จบ
>
> อันนี้ไม่ได้หมายความว่าเรื่องจบแล้วนะ
> การจบ หมายถึง
> การเอามาทูนไว้ที่หัวแล้วอธิษฐาน
> การจบ ควรใช้เวลาอธิษฐานแต่พองาม
> ไม่ต้องอธิษฐานนานจนเกินไป
> เคยมีโยมนิมนต์ไปรับบาตร
> ไอเราก็เดินไปเปิดฝาบาตรรอรับ โยมก็จบอยู่
> ขอบอกว่านานมากกกกกกก
> นานจนรู้สึกได้ นานจนอดคิดไม่ได้ว่า "โยมขออะไรเราน้า?"
>
>
3. ถอดรองเท้า
> ยืนด้วยเท้าเปล่า จริงๆแล้ว
> จุดประสงค์ของการถอดรองเท้าคือเป็นการให้ความเคารพพระสงฆ์โดยการ
> ไม่ยืนสูงกว่าท่าน เพราะเวลาพระสงฆ์บิณฑบาตจะเดินเท้าเปล่า
> แต่มีญาติโยมบางคนไม่เข้าใจเกี่ยวกับการถอดรองเท้าซึ่งมีหลายประเภทเหมือนกัน เช่น
> บางคนถอดรองเท้าอย่างเรียบร้อยแต่ยืนบนรองเท้า - -" (สูงกว่าเดิมอีก)
> บางคนถอดรองเท้าและยืนบนพื้นจริง
> แต่ว่าตัวเองยืนบนฟุตบาท พระยืนบนพื้นถนนซะงั้น (หนักกว่าเก่า)
> เคยมีเรื่องเล่าว่า
> มีโยมคนนึงยืนใส่บาตรพระ พระเห็นว่าโยมใส่รองเท้าเลยแนะนำโยมไปว่า
> พระ : "โยม อาตมาว่าโยมควรถอดรองเท้าใส่บาตรนะ"
> โยมมีสีหน้าตกกะใจ ตอบพระไปว่า
> โยม : " เอ่อ จะดีเหรอคะ "
> พระ : " ไม่เป็นไรหรอกโยม "
> โยมก็จัดแจงถอดรองเท้า ยกขึ้นมาพร้อมกับถามพระว่า
> โยม : " จะให้ใส่ข้างเดียวหรือว่าสองข้างเลยคะ "
> อิบ้า!!
> ท่านหมายถึง ถอดรองเท้าเวลาใส่บาตร ไม่ใช่ถอดรองเท้าเอามาใส่ในบาตร
> อันนี้เป็นเรื่องที่หลวงน้าท่านนึงเล่าให้ฟังระหว่างฉันเพล (เรื่องขำขันขณะฉันเพล)
> พอถอดรองเท้าเสร็จก็เข้าสู่ขั้นตอนที่สี่
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
AUD
AUD
ออฟไลน์
เครดิต
4386
2
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-5-4 12:15
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
>
4. ใส่บาตร
>
> อันนี้ถือเป็นจุดไคลแมกซ์ของการใส่บาตร
> สิ่งสำคัญที่ทุกคนมองข้ามก็คือควรดูว่าของที่นำมาใส่บาตรนั้น เสียรึเปล่า
> บางคนมีเจตนาอยากทำบุญดี แต่ดันไปซื้อของเสียมาใส่บาตร
> พระฉันไป เข้าห้องน้ำไป
> พวกร้านค้าก็จริงๆ บางครั้งเอาของค้างคืนมาขายเอากำไร ไม่สนใจพระเจ้า
> เห็นแก่ตัว หากินกับพระ
> ก็ฝากด้วยนะครับ เด๋วทำบุญจะได้บาปเปล่าๆ
> นอกจากนี้ ของที่นำมาใส่
> ถ้าเพิ่งปรุงสุกเสร็จ ควรดูด้วยว่ามันร้อนมากรึเปล่า
> เคยมีโยมใส่แกง ร้อนมากๆๆ
> บาตรเกือบหล่น ทั้งนี้เพราะบาตรทำจากโลหะ
> นำความร้อนได้ดี ปริมาณไม่ควรมากจนเกินไป
> เคยมีโยมใส่บาตรด้วย "
กล้วย ๓ หวี
"
> กล้วยเล็บมือนาง กล้วยไข่ อาตมาไม่ว่า
> แต่นี่ใส่ "กล้วยหอม" (อันนี้เกิดกับตัวเองจริงๆ)
> คิดดู "กล้วยหอม ๓ หวี"
> อยู่ในบาตร หนักมากกกก
> จนอยากบอกโยมว่า
"โยม อาตมาไม่ใช่ช้าง"
> การใส่ก็ควรวางในบาตรด้วยอาการสำรวม
> โยมผู้หญิงบางคนกลัวโดนพระจัด
> พอถุงกับข้าวถึงแค่ปากบาตร ก็ปล่อยลงมา
>
ตุ๊บ!!
> นึกว่ากาลิเลโอกลับชาติมาทดลองเรื่องแรงโน้มถ่วงของโลก (วางดีๆก็ได้ 55)
> ขั้นตอนต่อไปคือ
>
>
5. รับพร
>
> หลังจากใส่บาตรเสร็จ
> พระสงฆ์ส่วนมากก็จะให้พร เราเป็นญาติโยม
> ก็ประนมมือรับพรกันตามระเบียบ โดยอาจยืนหรือนั่งยองๆ ก็ได้
> ก้มหัวแต่พองาม เคยมีโยมยืนประนมมือ
> แต่ก้มหน้ามาแทบชนพระ ห่างจากหน้าพระประมาณคืบเดียว
> (ไม่ต้องใกล้ชิดศาสนาขนาดนั้นก็ได้โยม (ตอนนั้นให้พรเบาๆ เพราะไม่มั่นใจเรื่องกลิ่นปาก))
> ถ้าเป็นโยมผู้หญิงก็นั่งให้เรียบร้อย เหมาะสม
> ระหว่างนี้ก็อุทิศส่วนกุศลให้คนที่รัก เจ้ากรรมนายเวรและอื่นๆ ก็ว่ากันไป
>
> การใส่บาตรที่อยากแนะนำก็มีประมาณเท่านี้
> ขั้นตอนการทำบุญง่ายๆ
> ตื่นเช้ามาใส่บาตรกันเถอะครับ
> พี่น้อง
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
tao_kd
tao_kd
ออฟไลน์
เครดิต
991
3
#
โพสต์ 2013-5-4 14:28
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ขำข้อ 3 มากๆๆครับน้องอู๊ด
ตอนถอดรองเท้าใส่บาตร 555++
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Metha
Metha
ออฟไลน์
เครดิต
54549
4
#
โพสต์ 2013-5-5 07:40
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ขอบคุณครับ
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...