ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 2050
ตอบกลับ: 8
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

จักระทั้ง 7 ของร่างกายมนุษย์

[คัดลอกลิงก์]
จักระทั้ง 7 ของร่างกายมนุษย์

ร่างกายของมนุษย์มีจุดสำคัญ 7 จุด เมื่อจุดเหล่านี้ถูกเปิดจะสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างเต็มที่
จักระทั้ง  7  ประกอบด้วย
จักระ 1 (ดอกบัว 4 กลีบ) มีชื่อว่า มูละธารณะ อยู่ระหว่างอวัยวะเพศและทวารหนัก เป็นรากฐานของระบบจักระ หรือระบบพลังงาน เป็นพื้นฐานของพลังชีวิต และเป็นกลไกที่ทำให้สืบทอดพันธุ์เป็นมนุษย์อยู่ในโลกทุกวันนี้ ผู้ที่ปฏิบัติได้ถึงระดับสูงสุด จักระนี้จะเปิดเองโดยอัตโนมัติ

2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-7 13:16 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
จักระ 2 (ดอกบัว 6 กลีบ) ชื่อว่า สวาธิษฐานะ อยู่ตรงปลายก้นกบ เป็นศูนย์กลางเกี่ยวกับพลังทางเพศ รวมทั้งความเชื่อมั่นในตนเอง ควบคุมระบบการสืบพันธุ์, การขับกากอาหารและของเสียออกจากร่างกาย รวมทั้งการตั้งครรภ์และการคลอด ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับอัณฑะ,ท่อปัสสาวะ,อวัยวะสืบพันธุ์, มดลูก, รังไข่, ช่องคลอด, ทวารหนัก, กามโรค
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-7 13:17 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
จักระ 3 (ดอกบัว 8 กลีบ) มีชื่อว่า มณีปุระ อยู่ตรงแนวสะดือตัดกับกระดูกสันหลัง เป็นศูนย์กลางของการหยั่งรู้ ..ณ จุดนี้เป็นศูนย์กลางของร่างกาย ควบคุมระบบการย่อยอาหารและการขับถ่ายของเสีย ใช้รักษากระเพาะอาหาร, ลำไส้ใหญ่,ลำไส้เล็ก, ลำไส้อ่อน, ลำไส้แก่, ไส้ติ่ง, ตับ, ม้าม, ดี, กระเพาะปัสสาวะ, ไต, โรคเบาหวาน, ถุงน้ำดี, ต่อมหมวกไต
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-7 13:17 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
จักระ 4 (ดอกบัว 10 หรือ 12 กลีบ) ชื่อว่า อะนาหตะ อยู่ตรงแนวหัวใจตัดกับกระดูกสันหลัง เป็นศูนย์รวมของความรักที่แท้จริง รวมทั้งการพัฒนาจิตใจ ด้วยความเมตตากรุณา และความเสียสละ ควบคุมระบบหมุนเวียนโลหิต, หัวใจและระดับไขมันในเส้นเลือด ใช้รักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น หัวใจโต, หัวใจเล็ก, หัวใจรั่ว,ความดันโลหิตสูง, ไขมันในเส้นเลือด, หัวใจเต้นอ่อนและเหนื่อยเร็ว
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-7 13:18 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
จักระ 5 (ดอกบัว 16 กลีบ) ชื่อว่า วิศทะ ความรัก ความเห็นอกเห็นใจ ความสมดุลของสติปัญญา อยู่ตรงบริเวณเส้นแนวไหล่ตัดกับกระดูกสันหลัง ควบคุมระบบทางเดินหายใจ และผิวหนัง ใช้รักษาโรคปอด, หลอดลม, ลำคอ, ไซนัส, ต่อมผิวหนัง, หลอดลมอักเสบ, หอบหืด, ไอ, จมูก, ผื่นคัน, โรคผิวหนัง
6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-7 13:18 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
จักระ 6 (ดอกบัว 2 กลีบใหญ่ และกลีบย่อย 100 กลีบ) ชื่อว่า อะชะ อยู่ตรงกลางหน้าผาก เปรียบเสมือนนัยน์ตาของปัญญา ใช้เป็นตาที่ 3 (ญาณวิเศษ) สำหรับการติดต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบน ห้ามผู้สำเร็จระดับ1, 2,3,4 และ 5 ใช้จักระนี้ในการรักษาโรคอย่างเด็ดขาด ควบคุมสติปัญญา, ความนึกคิด, ความเฉลียวฉลาด,และระบบประสาท ผู้ที่เรียนถึงระดับ 5 จะใช้จักระนี้ทำสมาธิเท่านั้น(ถ้ารักษาโรคด้วยจักระนี้ จักระที่เปิดไว้ทุกจักระจะปิด)
7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-7 13:18 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
จักระ 7 (ดอกบัว 1,000 กลีบ) ชื่อว่า สหสราระ อยู่ตรงกลางกระหม่อมหรือจุดตัดของเส้นที่ลากจากปลายจมูก ผ่านกลางหน้าผาก ตัดกับเส้นที่ลากจากหูซ้ายไปหูขวา เปรียบเสมือนมงกุฎดอกบัว ควบคุมระบบประสาททั้งหมดของร่างกาย เป็นศูนย์ควบคุมทุกจักระ เป็นจุดรับพลังจักรวาล และทำการกระจายไปทั่วร่างกาย เป็นจุดที่สามารถรักษาอาการเจ็บป่วย ที่จักระอื่นไม่สามารถรักษาได้โดยตรง ใช้รักษาเส้นประสาท, สมอง, ตา, หู, อวัยวะในช่องปาก, โรคเจ็บป่วยซึ่งเกี่ยวกับระบบประสาททั่วไป ที่อยู่นอกเครือข่ายของ จักระอื่น เช่น ระบบกล้ามเนื้อ, ไทรอยด์, ต่อมทอนซิล, กล่องเสียง
8#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-7 13:19 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
จักร ทั้ง 7 นี้ ทำหน้าที่ควบคุม จิต จิตใต้สำนึก อารมณ์ ปัญญา เป็นต้น เซลล์พิเศษของสมองเรียกว่า ไมโครเซลล์  ไมโครเซลล์นี้ จะฉายแสงสีเหลืองเป็นประกายและสั่นไหวอย่างรุนแรง เป็นหลักการสั่นไหว เมื่อผู้ฝึกสมาธิ และจะสั่นไหวแรงขึ้นเมื่อฝึกในระดับที่สูงขึ้น จนขยายไปทุกส่วนของอวัยวะในร่างกายในทั่วร่าง และถ้าหากผู้ฝึกสามารถสั่งสมเพิ่มพลังงานให้มากขึ้น ไมโครเซลล์เหล่านี้ จะมีลักษณะเฉพาะที่เรียกว่า กายทิพย์ และกายทิพย์นี้จะเป็นเหมือนเครื่องมืออเนกประสงค์เลยทีเดียว บางที่อาจสร้างความมหัศจรรย์ของมนุษย์ได้ครับ
จากหลัก การสั่นไหว มากับพลังจักรวาล มาอีกหลักหนึ่งคือ การหมุน หรือการเคลื่อนไหวเป็นทรงกลม ดูดพลังจักรวาล เข้ามาเพื่อเป็นกลไกการทำงาน คนโบราณได้ค้นพบว่า รูปทรงต่าง ๆ บางรูปเปล่งหรือปล่อยพลังจักรวาลออกมาเองโดยอัตโนมัติ และแรงกว่าธรรมดา ที่เป็นเช่นนี้เพราะพลังจักรวาลเป็นอนุภาคที่มีขนาดเล็กมาก และเป็นทรงกลมที่หมุนอยู่ตลอดเวลา เมื่ออนุภาคมาเกาะตัวกันมันก็หมุน โดยเคลื่อนไหวของอนุภาคเหล่านี้ก็จะเกิดการถ่ายเทพลังงาน และนำไปสู่รูปทรงที่ต่างกันย่อมก่อให้เกิดคลื่นของจักรวาลที่ต่างกันออกไป

9#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-7 13:19 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ปราณ เป็นสิ่งค้ำจุนสรรพสิ่งในจักรวาล ดังนั้นย่อมสามารถนำมันมาใช้เพื่อการพัฒนาชีวิตและจิตวิญญาณของคนได้แน่นอนครับ
การหมุน การหมุน จะถ่ายเทพลังงานตามหลักการสั่นไหวร่วมกัน เห็นได้ชัด ตามตัวอย่างทั่วไป ก็คือ พายุไต้ฝุ่น ซึ่งหมุนซ้ายทวนเข็มนาฬิกา และเวลาผ่านไปมันจะรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ การหมุนนี้ ก็คล้ายกับวิชาอื่น ก็คือ ไทเก็ก และฝ่ามือมังกรแปดทิศ ก็มีการเคลื่อนไหว เป็นวงกลม และถ้ายิ่งฝึกวิชามังกรแปดทิศ พลัง รวมถึงดูดซับพลังจักรวาลด้วยแล้ว พลังก็จะเพิ่มเป็นทวีคูณ

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้