ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 1995
ตอบกลับ: 0
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

๑๐๐ปี'หลวงปู่บุญฤทธิ์

[คัดลอกลิงก์]
เมื่อวันจันทร์ ๑๗ และวันอังคารที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ คณะศิษยานุศิษย์ได้ร่วมกันจัดงานแสดงมุทิตาสักการะถวายแด่ "หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต" ณ ที่พักสงฆ์ "สวนทิพย์" อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ในโอกาสที่หลวงปู่ได้เจริญอายุครบ ๑๐๐ ปี โดยมีพุทธศาสนิกชนไปร่วมงานอย่างเนืองแน่น            สำหรับเรื่องราวของ "หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต" ผู้เขียนเคยนำมาลงในหน้าพระเครื่อง นสพ.คม ชัด ลึก ฉบับวันพฤหัสบดีที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๕๓ นับถึงวันนี้เป็นเวลา ๔ ปีบริบูรณ์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้มีผู้โทรศัพท์สอบถามผู้เขียนเสมอๆ ถึงวันเวลาที่จะเข้ากราบหลวงปู่ได้โดยสะดวก ด้วยความเข้าใจว่าผู้เขียนพำนักอยู่กับหลวงปู่ด้วย ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด จึงขอถือโอกาสนี้เรียนให้ทราบถึงเบอร์โทรศัพท์ของผู้ที่อยู่รับใช้หลวงปู่ในทุกวันนี้ คือ โทร.๐๘-๙๘๙๓-๕๗๖๕, ๐-๒๕๘๓-๓๗๔๘, ๐-๒๕๘๓-๔๕๔๐-๔๑-๒ ขอเรียนว่าสถานที่ที่หลวงปู่พำนักอยู่นั้นเป็น "ที่พักสงฆ์" อยู่ในบริเวณสวนอาหาร "สวนทิพย์" มิใช่วัดวาอารามแต่อย่างใด...ท่านเจ้าของสวนอาหาร "สวนทิพย์" เป็นผู้ที่มีความเคารพศรัทธาเลื่อมใสหลวงปู่มาก เห็นว่าท่านมีอายุมากแล้ว จึงนิมนต์หลวงปู่มาพำนักที่ "สวนทิพย์" โดยได้สร้างกุฏิเรือนไม้ถวายหลวงปู่ได้พำนักอย่างสะดวกสบาย เป็นสัดส่วนต่างหาก ญาติโยมที่ไปกราบไหว้หลวงปู่ก็ได้รับความสะดวกในเรื่องที่จอดรถเป็นอย่างดี
            ประวัติของ "หลวงปู่บุญฤทธิ์" ที่ได้นำลงพิมพ์ไปแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๕๓ ขอตัดต่อให้สั้นลงพอสังเขป ดังนี้
            "หลวงปู่บุญฤทธิ์" ท่านบวชเมื่อปี ๒๔๘๙ หลังจากที่ได้อยู่จำพรรษากับพระอาจารย์กู่ ที่วัดป่าอรุณรังษี อ.เมือง จ.หนองคาย ระยะหนึ่งแล้ว ท่านได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อศึกษาพระไตรปิฎกอย่างจริงจัง แล้วจึงกลับไปอยู่ที่วัดสุปฏินาราม จ.นครราชสีมา จากนั้นได้ไปอยู่ที่วัดป่าลุมพุก จ.อุบลราชธานี ได้ฝึกปฏิบัติธรรมภาวนา และเรียนรู้เรื่องของปฏิจจสมุปบาทตอนต้น จนได้ปัญญา ทำให้ความคิดที่อยากจะลาสิกขาหายไป โดยตั้งใจใหม่ว่าจากนี้ไปจะขออยู่ในสมณเพศไปตลอดชีวิต
            ต่อมาท่านได้เดินทางไปอยู่กับพระอาจารย์ลี ธัมมธโร  (ศิษย์รุ่นที่ ๒ ของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต) ที่วัดป่าคลองกุ้ง จ.จันทบุรี พอออกพรรษาปี ๒๔๙๑ ท่านได้เดินทางไป จ.เชียงใหม่ พักที่วัดเจดีย์หลวง พอถึงวันวิสาขบูชา มีพระป่าสายกรรมฐาน ศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ร่วม ๑๐๐ รูป มาชุมนุมกันที่นั่น นับเป็นโอกาสอันดีที่หลวงปู่จะได้พบกับพระผู้ใหญ่หลายรูป อาทิ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ฯลฯ
            สำหรับหลวงปู่ชอบ นับเป็นศิษย์รูปสำคัญของพระอาจารย์มั่นท่านหนึ่ง โดยมีผู้ยกย่องว่าท่านเป็นผู้มี อภิญญาสูงมาก
            คำว่า "อภิญญาสูงมาก" นี่เองที่ทำให้หลวงปู่บุญฤทธิ์เกิดความศรัทธานับถือ จึงได้เดินทางไปขอพบเพื่อฝากตัวเป็นศิษย์
            ณะนั้นหลวงปู่ชอบจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าบ้านยางผาแด่น อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ อันเป็นสำนักสงฆ์ที่ท่านได้สร้างขึ้นในหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยง อยู่บนภูเขาสูง กลางดงป่าใหญ่ ทุรกันดารมาก ไม่มีทางรถไปถึง การเดินทางต้องบุกป่าฝ่าหนามปีนเขาขึ้นไปเท่านั้น
            พระผู้ใหญ่หลายท่านที่ได้ทราบข่าว ต่างพากันห้ามหลวงปู่บุญฤทธิ์ว่าอย่าไปเลย เพราะหนทางลำบากมาก แต่ท่านก็ไม่เชื่อฟัง โดยได้ตั้งใจไว้อย่างแน่วแน่แล้วว่าจะต้องเดินทางไปให้ถึงจนได้
            หลวงปู่บุญฤทธิ์ ได้บันทึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า... "ญาติโยมได้ว่าจ้างคนหามของบุกไป พื้นดินเป็นแต่ขี้โคลนครึ่งเข่า เดินขึ้นเขาสูงครึ่งวัน ทั้งวันจะหารอยเท้าคน รอยเท้าสัตว์ ไม่มีเลย ทางไปลำบากมาก วนเดินหลงป่าอยู่ ๒ หน ไปถึงสำนักสงฆ์หลวงปู่ชอบเอาเกือบค่ำ แอบบ่นในใจว่า...แหมท่านอาจารย์ ทำไมมาอยู่ที่ยากอย่างนี้หนอ..."
                    พอไปถึงได้พบกับหลวงปู่ชอบแล้ว ท่านได้จุดเทียนอธิษฐาน ปวารณาขอจำพรรษาบนเขาสูง วัดป่าบ้านยางผาแด่น กับหลวงปู่ชอบ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในปีนั้น (พ.ศ.๒๔๙๓) โดยได้ทำหน้าที่ถวายอุปัฏฐากหลวงปู่ชอบทุกอย่าง ขณะเดียวกันก็ได้รับคำแนะนำสั่งสอนในการปฏิบัติธรรมกรรมฐานจากหลวงปู่ชอบด้วย
            ต่อมาเมื่อออกพรรษา หลวงปู่ชอบได้ลงไปจากเขา ส่วนหลวงปู่บุญฤทธิ์ยังอยู่ต่อไปเพียงรูปเดียว เพราะท่านได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้แล้วว่าจะขออยู่บนนี้ ๓ ปี จึงต้องทำตามที่ได้ตั้งใจอธิษฐานไว้
            ในพรรษาที่ ๒ ท่านพ่อลี ธัมมธโร ได้ขึ้นมาอยู่บนเขานี้ด้วย และได้สอนให้หลวงปู่บุญฤทธิ์นั่งสมาธิแบบปฏิภาคนิมิต อานาปานสติกรรมฐาน คือ การทำสมาธิโดยกำหนดลมหายใจเข้าออก ซึ่งท่านพ่อลีเป็นผู้เชี่ยวชาญทางนี้มาก
            หลวงปู่บุญฤทธิ์ได้ปฏิบัติธรรมภาวนาอยู่บนเขาบ้านยางผาแด่นจนครบ ๓ ปีตามที่ได้อธิษฐานไว้ หลังจากนั้นท่านได้ลงมาจากเขาสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ โดยได้เดินทางไปอยู่วัดโน่นบ้างวัดนี้บ้าง ที่เป็นวัดป่าสายพระอาจารย์มั่น ในหลายๆ จังหวัด เป็นเวลาหลายปี รวมทั้งได้ไปดูแลการก่อสร้างวัดป่าที่ จ.สตูล อีกด้วย
            พ.ศ.๒๕๑๗ หลวงปู่ได้รับหน้าที่ให้เป็นพระธรรมทูต ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา ที่ประเทศออสเตรเลีย รวมทั้งการสอนปฏิบัติธรรมภาวนา เผยแผ่ให้ทั้งคนไทยในออสเตรเลีย และชาวต่างชาติที่สนใจ รวมทั้งได้เขียนหนังสือเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อให้ผู้สนใจปฏิบัติธรรมภาวนา ที่เป็นชาวต่างชาติได้เรียนรู้เข้าใจง่ายขึ้น
            และที่ออสเตรเลียนี้เองที่ "คุณแซม" ชาวออสเตรเลีย เกิดความศรัทธาเลื่อมใสหลวงปู่มาก จึงได้ถวายตัวเป็นลูกศิษย์ ติดตามรับใช้หลวงปู่ ไม่ว่าจะไปไหนมาไหนก็ตาม คุณแซมจะติดตามหลวงปู่เสมอจนถึงทุกวันนี้ รวมเวลากว่า ๒๐ ปี คุณแซมจึงสามารถพูดภาษาไทยฟังภาษาไทยได้เป็นอย่างดี
            การไปกราบไหว้หลวงปู่บุญฤทธิ์ ที่ "สวนทิพย์" นั้น ขอให้ไปในช่วงที่ได้กำหนดเวลาไว้ คือ ตอนเช้า ๐๘.๑๕ น. ตอนเที่ยง ๑๑.๑๕ น. ส่วนตอนตอนค่ำ เวลา ๒๐.๐๐ น. เป็นเวลาที่หลวงปู่เมตตาอบรมให้ญาติโยมนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมภาวนา
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้