ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
มรดกธรรม เส้นทางสู่ทางสงบในชีวิตและจิตใจ
»
สงบเพราะคิดถูก
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 2151
ตอบกลับ: 5
สงบเพราะคิดถูก
[คัดลอกลิงก์]
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32163
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2014-4-12 12:02
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
สงบเพราะคิดถูก
ความสงบคือความพอดี
จะให้ความพอดีของกิเลสตัณหานั้นไม่มีหรอกผมว่าตัดสินใจลงไปตรงนี้แหละอายุคงไม่ถึงร้อยปีหรอกนะถ้าพวกเราทำให้ถูกต้องก็จะมีความสงบระงับเท่านั้นเอง
หนทางของการปฏิบัติ
ที่เราทำไปทุกวันนี้ผมคิดว่าไม่สมควรเพราะมันจะต้องเสียหลักในการปฏิบัติเดินออกจากหนทางถ้าได้มามากก็ทุกข์มากไม่เห็นใครเหลือสักคนเลยเช่นอาจารย์ทองดีเป็นเพื่อนกับผมบวชได้แปดพรรษาเรียนนักธรรมเอกยังไม่ได้กลับมาสอบอีกเรียนอยู่สี่ปีจึงสอบนักธรรมเอกได้ติดอยู่นั่นแหละเหมือนเขาทอดแหใส่กิ่งไม้ลูกโซ่แหไม่ถึงดินก็ติดค้างอยู่บนอากาศอยู่ไม่ได้สึกออกไปมีครอบครัวแล้วไปมีภรรยาได้ไม่นานภรรยาก็ตายก็หาภรรยาใหม่อีกแล้วก็ตายอีกสุดท้ายก็หมดหนทางเหมือนตากกบแห้งมันจะเกิดประโยชน์อะไรล่ะ
ทำอย่างนั้นถ้าออกไปพบกับความทุกข์ก็ไม่ต้องบ่นเพราะความทุกข์มันอยู่ที่นั่นถ้าความอยากเกิดขึ้นมันก็ทุกข์ถ้ามีความทุกข์ก็ทนเอาไม่ต้องบ่นว่ามันเป็นเพราะอะไรมันจึงทุกข์อย่าพูดเลยมันต้องรู้จักวางอย่างนั้นมันจะเปลี่ยนสภาพไปอีก
พระพุทธองค์ท่านสอนว่าอัตตาหรืออนัตตาถ้าเป็นอัตตาก็เป็นตัวตนถ้าเป็นอนัตตาไม่ได้อาศัยตัวตนอันนี้เป็นคนละเรื่องกันให้แก้ไขสิ่งที่พอจะแก้ไขได้ถ้าสิ่งที่แก้ไม่ได้ก็ปล่อยไปไม่เคยสอนให้อยู่นอกข้อประพฤติปฏิบัติถึงจะมีปัญญามากก็ตามถ้าเอาตัวเองพ้นทุกข์ไม่ได้ก็ไม่เรียกว่าคนมีปัญญา
ถ้าคนมีปัญญาพระพุทธเจ้าท่านสอนว่าคนอันธพาลถึงจะมีปัญญามากก็ตามแต่ก็เป็นปัญญาทรามปัญญาดีไม่มีเลยพวกโจรมันมีปัญญาในการปล้นพวกนักรบมีปัญญามากมีไหวพริบดีในการสร้างศาตราอาวุธสร้างระเบิดสารพัดอย่างมีความเก่งกล้าสามารถมีปัญญามากก็จริงแต่เป็นปัญญาทรามปัญญาดีไม่มีเหมือนมะม่วงเน่าให้ประโยชน์ไม่ได้
ปัญญาทราม
มีปัญญามากอยู่แต่ตัวเองได้รับความทุกข์ถึงมีมากก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยมีปัญญาทางสร้างอาวุธมารบยิงฆ่าฟันกันอย่างนี้มันไม่เกิดประโยชน์เหมือนคนผู้มีปัญญาปรุงยาพิษมากินคนกินก็ตายไก่หรือสุนัขกินก็ตายมันดีหรือปัญญาอย่างนั้นปัญญาปรุงยาพิษให้คนกินแล้วตายในใบสลากยาก็ว่ายาดีดีอย่างนั้นดีที่เป็นโทษเป็นภัยต่อชีวิตของคนและสัตว์ในโลกท่านเรียกปัญญาทราม
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32163
2
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-4-12 12:03
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เมื่อมองเห็นโทษก็เห็นประโยชน์
พวกเราก็เหมือนกันจะไปอยู่ที่ไหนก็ตามถ้าไม่มีปัญญาเอาตัวไม่รอดอยู่ที่นี้ก็เหมือนกันถ้าสิ่งใดที่เรามองไม่เห็นโทษของมันอย่างชัดเจนก็จะเลิกได้ยากอยากจะเลิกก็เลิกไม่ได้ถ้าเรามองเห็นโทษก็จะมองเห็นประโยชน์ขึ้นมาพร้อมกันมันก็เลิกได้ถึงจะจมอยู่ในน้ำหรืออยู่บนพื้นดินมันก็จะผุดขึ้นมาจนได้จิตใจของผู้ปฏิบัติอย่างนั้นหาได้ยากจะมีแต่คำพูดออกมาหลายๆอย่างแต่ความคิดเห็นจริงๆนั้นจะไม่มีสิ่งใดที่มาผ่านจะเอาให้หมดตั้งไว้ไม่อยู่ครูบาอาจารย์ก็เหมือนกันไปที่ไหนท่านก็ไปให้ความรู้ความเห็นสารพัดอย่างจะรวมลงคือ"ทุกข์"
ความทุกข์คืออะไร
ทุกข์เหมือนกับเราแบกของหนักอันหนึ่งทุกข์อีกอันหนึ่งคือเป็นหนี้สินของคนอื่นก็เป็นทุกข์ทุกข์เพราะแบกก้อนหินใหญ่ก็เป็นทุกข์เรื่องทุกข์เอาใจไปแบกก็เป็นทุกข์เอากายไปแบกก็เป็นทุกข์มันมีแต่เรื่องทั้งนั้นท่านจึงสอนให้เรารู้จักทุกข์รู้จักเหตุเกิดของทุกข์รู้จักความดับทุกข์รู้จักข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ท่านสอนอย่างนี้จะเป็นทุกข์มาจากอะไรๆก็ตามก็ทุกข์อันเดียวกันความทุกข์เกิดขึ้นมาก็คือทุกข์เหมือนกันไม่ใช่เรื่องอื่นเลย
เช่นพ่อค้าที่เคยค้าขายเป็นคนร่ำรวยมาบวชเป็นพระแทนที่จะมาประพฤติปฏิบัติให้เห็นธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า"ก็ไม่เห็น" ก็เลยตายจากสมบัติเงินล้านเงินโกฏิเฉยๆถ้าบวชอย่างนี้จะก้าวมาเดินไปให้มันเสียเวลาทำไมอยู่กับเรือนจะไม่ดีกว่าหรือ
ก้อนทุกข์
นักบวชพวกเรานี้ก็เหมือนกันถ้าไม่ประพฤติปฏิบัติปล่อยให้ตัวเองได้รับความทุกข์แล้วผมคิดว่ามันไม่เกิดประโยชน์ผมจะเดาเอาไว้เลยก็ได้ถ้าลงไปเรียนเอาปริญญาแล้วมันก็แค่นั้นแหละเช่นคนหนึ่งชื่อทองดีมาบวชเป็นเณรอยู่ที่นี่มีสารพัดอย่างต่อมาก็อยากสึกผมก็บอกให้มารวมหมู่คณะแล้วพูดว่าเออ...ให้มันปรุงดีๆเณรนี้แหละจะตกนรกถ้าไม่เชื่อลองดูก็ได้ตกนรกแน่นอนเลยอยากจะไปเรียนหนังสือเรียนก็เรียนไปตกนรกนั่นแหละขนาดพูดให้ฟังอยู่อย่างนี้มันยังไม่รู้จักทุกข์จะเรียนเอาหนังสือมาอ่านให้มันรู้จักทุกข์เป็นไปไม่ได้หรอกรู้แล้วว่าไฟมันเป็นของร้อนแต่ก็ยังกระโดดเข้าไปหากองไฟจะเอาหนังสือมาอ่านให้ไฟมันหยุดร้อนไม่ได้เลยบอกให้รู้อยู่อย่างนี้ก็ยังไม่รู้จัก"ก้อนทุกข์"จะไปเรียนสอบเอาอะไรล่ะสอบก็จะได้แต่คำพูดนั่นแหละพอเข้ามาในกรุงเทพฯก็มีอันเปลี่ยนแปลงไปมาก
ปฏิบัติธรรมแบบพระจันทร์ข้างแรม
บางครั้งมาที่เมืองอุบลฯบาตรก็ไม่เอามาครองผ้าจีวรสีเหลืองสดใสหิ้วประเป๋าเดินทางอย่างสวยเป็นมันวับๆเลยใส่รองเท้าขัดมันได้อย่างสวยเลยเราผู้เป็นอาจารย์ไม่มีรองเท้าใส่เดินด้วยเท้าเปล่าๆหนังเท้าหนามากจนขนาดเดินไปเหยียบหญ้าคาถูกเท้าไม่เข้าเลยเพราะหนังมันหนาแต่เดี๋ยวนี้ไม่เห็นมาเยี่ยมเลยคงจะตกไปที่ทุกข์มากเงียบไป ค่อยๆห่างออกไปเรื่อยๆ"มันจะต้องดับลงเหมือนพระจันทร์ข้างแรม"น้อยไปๆเล็กลงๆแสงก็นับวันแต่จะเล็กลงๆวงพระจันทร์จะแคบลงไปทุกทีๆอีกหน่อยก็ตกปั๊บเท่านั้นเองหมดแสงเลย มันชอบเป็นอย่างนั้นเพราะมันไม่เห็นทุกข์ไม่เห็นโทษ
คนไม่ได้ภาวนาคือคนที่เขาชอบมีความเพลิดเพลินร่าเริงเป็นกลุ่มหลายๆคนเขาพูดคุยกันด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใสผมก็มีความอัศจรรย์เขาอยู่เหมือนกันว่าเอ...ดูเหมือนเขามีความร่าเริงสนุกสนานอยู่เหมือนเขาทำงานเสร็จหมดทุกอย่างความจริงแล้วทำงานยังไม่เสร็จ
ผมเองถ้าพูดคุยกับเพื่อนหลายคำก็คิดว่าตัวเองยังทำงานไม่เสร็จงานยังค้างอยู่มากเหมือนกับไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนยังไม่ได้ปล่อยควายออกจากคอกก็มีความเป็นห่วงควายอยู่อย่างนั้นเพราะงานยังไม่เสร็จจะไปไหนก็มีความเป็นห่วงอยู่นั่นแหละดูคนอื่นเขาปล่อยไปตามอารมณ์อย่างสบายมีความสนุกสนานพูดล้อกันเล่นสนุกเฮฮาผมก็คิดทุกระบบว่าตัวเองยังไม่พ้นทุกข์จะนั่งอยู่ที่ไหนก็เหมือนกับว่าเราทำงานยังไม่เสร็จจะมีความปรารถนาความเพียรอยู่เสมอไม่หยุดสักทีเพราะยังมีกิเลสอยู่มากมันจะมีความทุกข์อยู่อย่างนี้เรื่อยไปจึงเอามาพิจารณาถ้ามีเรื่องที่คุยกับเพื่อนก็คุยไม่มากทั้งคุยทั้งอยากกลับ
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32163
3
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-4-12 12:04
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ดีอยู่ที่การปฏิบัติ
การภาวนาของผมตั้งแต่สมัยก่อนเป็นอย่างนี้พระเณรบางองค์ชอบคุยด้วยบางครั้งเราจะนั่งภาวนาอยู่กุฏิก็เดินไปนั่งคุยอยู่นั่นแหละจนผมรำคาญผมเลยบอกว่าท่านเฝ้ากุฏิให้ผมด้วยนะผมกลัวสุนัขจะมาขี้ใส่กุฏิผมผมจะไปเดินจงกรมก่อนนะผมเอาอย่างนั้น"เพราะทำงานยังไม่เสร็จ"จะไปนั่งคุยให้มันเสียเวลาทำไม
มันจะมีจิตใจฝักใฝ่ต่อความเพียรอยู่อย่างนั้น.แต่"พวกเราไม่ชอบดูงานของตัวเองสักที"กลับมาถึงเรือนขี้แมวเต็มกระด้งเหมือนคนธรรมดาๆทุกข์เกิดขึ้นมาก็ไม่ได้"ปฏิวัติ" มันสักทีไม่ได้ "ปฏิรูป"มันสักที อยู่เฉยๆไม่มีการ "ละ"ไม่มีการ"บำเพ็ญ"ไม่รู้จะทำอะไรเพราะสถานที่นี้ทำกันอย่างนี้มันจึงไปขัดที่จิตใจของพระเณร"ผมไม่อยากจะพูดมากหรอกเพราะไม่ได้ดีอยู่ที่คำพูดแต่ได้ดีอยู่ที่การปฏิบัติไปเรื่อยๆอยู่กับครูบาอาจารย์ให้ดูท่านเพราะหูเราก็มีตาเราก็มีก็ดูได้ฟังได้เหมือนคนหิวข้าวมากๆก็ไม่อยากหรอกเห็นเพื่อนนั่งกินข้าวคนที่หิวข้าวก็จะเข้ามากินกับเพื่อนเลยไม่ได้ไปจับไปคุมเขาเข้ามาหรอกนะเหมือนไก่มันหิวข้าวเอาข้าวเปลือกมาโปรยให้มันกินไก่มันจะวิ่งออกมากินเองเช่นวัวที่มันเคยกินหญ้าเอาไปปล่อยที่สนามหญ้ามันก็คงต้องกินหญ้าถ้ามันไม่กินหญ้าก็เป็นหมูเท่านั้นเอง
ไม่ละชั่วไม่กลัวบาป
อันนี้....เป็นสถานปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ควรจะเอาไปพิจารณาให้เห็นตามความจริงมันก็จะปฏิบัติได้ถ้าไม่ได้มันเป็นเรื่องของโลกเขาบวชเข้ามาแล้วก็อยู่กับครูบาอาจารย์จะทำอะไรก็กลัวแต่ครูบาอาจารย์จะเห็นแต่ไม่กลัวบาปถ้าลับตาพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทำได้ทุกอย่างถ้าอยู่ใกล้ท่านก็กลัวไม่กล้าทำผิดกลัวท่านจะดุเอาถ้าอยู่ห่างไกลท่านยิ่งมีความสบายอยากจะทำอะไรก็ทำได้โดยมากชอบเป็นอย่างนั้นคนประเภทนี้แหละไม่ละชั่วไม่กลัวบาปถ้าจะกลัวก็กลัวพระพุทธเจ้ากลัวครูบา-อาจารย์กลัวท่านจะเห็นเราทำไม่ดีถ้าลับตาท่านไม่กลัวเลยเหมือนเด็กนักเรียนตั้งแต่สมัยก่อนพอมองเห็นครูใหญ่พวกนักเรียนกลัวจนขาอ่อนลงเลยถ้าครูบอกให้ทำการบ้านโอ้ย...เรียบร้อยดีมากสมัยก่อนมีความเคารพคารวะมาก"คาระโวจะนิวาโตจะ"มีความเคารพคารวะกลัวท่าน ถ้าครูสั่งให้ทำอะไรก็ทำได้ทันทีกลัวทั้งครูอาจารย์กลัวทั้งความผิดมันจะเกิดขึ้นมาเด็กนักเรียนมันไม่ทันสมัยหรอกแม้แต่จะเดินก็ค่อยๆเดินไปหาเจ้านายไปหาครูอย่างนี้นั่งเก้าอี้ก็ไม่เป็นอยากจะนั่งกับพื้นเพราะโง่มากต่อมาก็ฝึกให้นักเรียนมีความฉลาดฝึกให้เข้าถึงเจ้านายหรือครูอาจารย์ฝึกให้นักเรียนไม่ต้องถือกันกับครูอยู่ด้วยกันเล่นด้วยกันโอ๊ยมันก็เหมือนเอาลิงไปหัดเดี๋ยวนักเรียนก็จับศรีษะครูเท่านั้นแหละครูมันก็ไม่กลัวความผิดมันก็ไม่กลัวเลยทุกวันนี้
ขาดหลักธรรมก็เป็นทุกข์
นักเรียน ป.๔เข้ามาบวช ให้อ่านหนังสือให้ฟังอ่านผิดๆได้ยินอ่านไปว่าจะไป'เมียง' ไปซื้อเสื้อ'เหลี่ยง' ไปซื้อ'เกลือ' มาฝึกหัดเอาใหม่ยากเกือบตายนักเรียนทุกวันนี้สมัยก่อนนักเรียนจบป.๔ สอนนักเรียนแทนครูได้ทุกวันนี้ไม่ทราบว่าเรียนมาจากไหนโอ้ย...อ่านหนังสือไม่ค่อยรู้เรื่องเลยไม่รู้ไปเรียนมาจากไหนเห็นเด็กอ่านหนังสือได้ยินว่าฝนตกแล้วแดดออกเห็นแต่มันอ่านไปอย่างนั้นแต่ก่อนอ่านให้ถูกตัวอักษรก็มากถ้าเรียนให้รู้เรื่องของมันแล้วก็ไม่ติดขัดหรอกนะอ่านหนังสือเฉยๆอ่านฟ้องไปถึงยอดมันก็ได้ทุกวันนี้อ่านไปผิดๆให้มันติดปากแล้วแก้ยากนี้แหละคือสอนให้เด็กไม่ให้มีความเคารพ.เพราะมันขาดความคารวะขาดหลักธรรมะ"คาระโวจะนิวาโตจะสันตุฏฐี จะกะตัญญุตา"ขาดการเคารพขาดการคารวะขาดกตัญญูกตเวทีขาดไปหมดทุกวันนี้ความเดือดร้อนก็ไปถึงพ่อแม่สอนก็ไม่ได้บอกมันก็ไม่ได้พ่อแม่ก็เป็นทุกข์วุ่นวายเพราะมันขาดหลักธรรมะนี่แหละ
สมัยก่อนครูสอนนักเรียนได้หนึ่งอาทิตย์ ก็ต้องสอบอารมณ์ครั้งหนึ่งมีพระมาสอนเรื่องศีลธรมสอนเรื่องจรรยามารยาทก่อนจะเลิกโรงเรียนก็ต้องสวดสรรเสริญคุณพระบารมีแต่ทุกวันนี้นักเรียนเก่งไปในทางเล่นกีฬาเตะฟุตบอล มีความสนุกเพลิดเพลินไปทางเล่นมากกว่าเรื่องจรรยามารยาทที่ดีงามนั้นไม่ค่อยได้พูดถึงกันมันจึงเปลี่ยนไปเรื่อยๆเพราะมันขาดหลักธรรมะแสวงหาแต่สิ่งที่สนุกเฮฮาไปดื่มของมึนเมาทำให้ตัวเองเป็นคนเสียสติเหมือนคนเป็นบ้าเป็นบ้าไปหมดทุกคนเป็นบ้าไปหมดทั้งพ่อแม่พี่น้องจนหมดโลกมันดื้อด้านว่ายากสอนยากสอนมันไม่ได้เลย
ไม่ดีตรงไหนก็ควรแก้ตรงนั้น
การปฏิบัติก็เหมือนกันสมัยก่อนไม่เป็นอย่างนี้หรอกทุกวันนี้ถ้ามีความทุกข์ก็ทุกข์มากจริงๆเรื่องอาหารไม่ได้ตามชอบใจอาหารไม่ถูกปากไม่อร่อยที่อยู่อาศัยไม่ได้ตามชอบใจก็เป็นทุกข์หมดเพราะคนสมัยนี้มีผิวบางมากความอดทนมีน้อยทุกวันนี้เป็นเรื่องที่เสียหายมากเสียเวลาที่มาประพฤติปฏิบัติมันต้องพูดกันได้เป็นคนที่สอนง่ายมีความเคารพเชื่อฟังจึงจะถูกต้องส่วนมากจะเป็น"ปะทะปะระมะ" คือพูดกันไม่ได้สอนกันไม่ได้ ไม่เชื่อฟังพูดให้ฟังก็ไม่สนใจเหมือนไม่ได้ยินใช้ให้ตักน้ำก็ขี้เกียจหนีไปอยู่กรุงเทพฯบอกว่าบ้านเราน้ำก็ไม่ค่อยมีให้พากันไปอยู่ที่กรุงเทพฯหมดก็ได้ ไม่ต้องอยู่ทางภาคอีสานหรอกเป็นเพราะอะไรนะมันถึงเป็นอย่างนี้ที่ไหนไม่ดีไม่งามก็ควรแก้ไขที่ตรงนั้นการปฏิบัติของเราก็เหมือนกันถ้าที่ไหนมันสะดวกก็ไม่ต้องไปทำอะไรมันตรงไหนที่มันขัดข้องก็ต้องแก้ไขที่จิตใจของเรานั้น
ถ้าพูดอย่างโน้นอย่างนี้ในสิ่งที่ไม่ดีชักชวนกันไปที่นั่นที่นี่เณรน้อยก็จะหูผึ่งไปนั่นแหละจับกันคุยเป็นกลุ่มก้อนอยู่ในช่วงกลางพรรษาออกพรรษาแล้วองค์นี้ก็จะไปที่โน้นองค์นั้นก็จะไปที่นี่วุ่นวายกันอย่างนี้มันจะหมดนะฉะนั้นผมจึงถอนตัวออกไป
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32163
4
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-4-12 12:06
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
การปฏิบัติยังอยู่อีกมาก
ทีนี้ให้พวกเรามาตั้งเอาใหม่ประพฤติปฏิบัติเอาใหม่อย่าได้ประมาทการปฏิบัติของเรามีวัดอยู่ดีแล้วที่ได้เข้ามาบวชได้อยู่ด้วยความสะดวกสบายทุกอย่างไม่ใช่เป็นอย่างนั้นนะได้บวชมามันก็เสร็จแต่การบวชเท่านั้นแต่การปฏิบัติของเรายังอยู่อีกมากเป็นกว่าการบวชพวกท่านทั้งหลายไม่เห็นหรือสัตว์ทั้งหลายที่มีอยู่ในโลกเช่น ปลวก มดอยู่บนพื้นดินก็มีมากหลายแต่ส่วนที่อยู่ใต้ดินก็มีอีกมากมายเช่นว่าโบสถ์หลังนี้สร้างขึ้นมาไม่ยากหรอกแต่การที่จะดูแลรักษาโบสถ์หลังนี้ไปอีกนานหลายชั่วอายุคนสักสามชั่วอายุของคนก็ได้ตอนสร้างโบสถ์นี้ไม่ยากหรอกสร้างสองปีก็เสร็จยังเหลือแต่การปฏิบัติรักษาทำความสะอาดที่นั่นที่นี่ไม่รู้วันเสร็จสักทีไม่ใช่ของง่ายๆนะสร้างเสร็จแล้วยังเหลือการดูแลรักษาสร้างสองสามปีก็เสร็จพวกเราจะต้องรักษาโบสถ์หลังนี้ไปอีกนานจนกำหนดไม่ได้ให้ได้ครึ่งเท่าครึ่งก็ยังดีบวชมาแล้วจะเอาสบายเพราะคิดว่าบวชเสร็จแต่การปฏิบัติของนักบวชนี้สิมันยากยังมีอีกมาก
สิ่งทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา
ฉะนั้นพระพุทธองค์ท่านตรัสเป็นพระวาจาเป็นครั้งสุดท้ายว่า"อย่ามีความประมาท"ให้สิ้นลงจนลงได้ท่านสอนภิกษุทั้งหลายว่าท่านทั้งหลายจงทำความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิดท่านพูดตรงจุดจบเลยแต่พวกเรายังมีชีวิตอยู่ก็ไม่ควรประมาทผมไม่กลัวว่ามันจะเสื่อมหรอกนะผลที่สุดมันก็ต้องเสื่อมจนได้เหมือนกับว่าความจริงมันก็จะตายถ้าเจ็บป่วยไข้มาก็จะไม่ฉันยาหรือไม่ฉันข้าวเลยอดให้มันตายเลยดีไหมอย่างนี้ความเสื่อมมันมีเป็นธรรมดาเกิดขึ้นมาแล้วความเจ็บไข้ก็มีเป็นธรรมดาของมันอยู่อย่างนั้นแต่ว่าถ้าเจ็บไข้ไม่สบายก็ต้องรักษาอันนี้เรียกว่ายาบำบัดโรคภัยไข้เจ็บถึงแม้พระพุทธเจ้าของเราท่านก็จัดไว้เป็นปัจจัยสี่คิลานะเภสัชท่านไม่ให้ประมาทเช่นแก้วใบนี้มันก็แตกเป็นแต่ถ้าเราใช้มีความระมัดระวังให้ดีแล้วแก้วมันก็ไม่แตกง่ายๆจะได้ใช้ไปอีกนานแต่ถ้าเราไม่คำนึงถึงสิ่งทั้งหลายเหล่านี้มันก็จะแตกเร็วขึ้นเพราะมีความประมาทไม่มีความระวังตัวเอง
ความเจริญของหนองป่าพง
อันนี้ก็เหมือนกันสาขาของวัดเราก็มีมากขึ้นเกือบจะถึงสี่สิบกว่าสาขาแล้วนะผมก็ทำงานมาหลายปีแล้วไม่ได้ทำอย่างนี้พวกเราจะไปอยู่ที่ไหนก็ได้พระกรรมฐานส่วนมากมีแต่เขาไล่หนีทั้งนั้นแหละเป็นมาตั้งแต่ครูบาจารย์มั่นครูบาจารย์เสาร์เป็นแต่สมัยโน้นจนถึงปัจจุบันเป็นอย่างนี้ผมเป็นผู้เดินก่อนกับท่านจันทร์กับคุณเที่ยงมันหนักมากผ่านมาหลายอย่างเป็นพยานของตัวเองในข้อประพฤติปฏิบัติอยู่ในป่าดงอย่างนี้เอาชีวิตเข้าแลกเอานะจึงมีความเจริญขึ้นจะไปที่ไหนก็ว่าไปจากสำนักวัดหนองป่าพงสำนักอาจารย์เที่ยงสำนักอาจารย์จันทร์สำนักต่างๆทั้งหลายเหล่านี้ออกไปจากวัดหนองป่าพงทั้งนั้นจะไปที่ไหนก็ไม่มีใครดูถูกดูหมิ่นเท่าไรนักถ้าเขารู้ว่ามาจากวัดหนองป่าพงหรือสาขาจะไปที่ไหนก็มีความสะดวกสบายพอสมควรโยมเขายกเว้นหรือให้อภัยหลายๆอย่างจะเดินทางไปไหนโยมก็ไม่ให้เสียค่ารถหรอกจะเป็นสาขาของวัดหนองป่าพงก็เหมือนกันก็มีความเจริญขึ้นมาพวกเราได้ไปมาอย่างสะดวกสบายการเผยแพร่ธรรมะหรือการออกธุดงค์จะไปไหนก็ค่อยจะเดินไปด้วยความระมัดระวังผู้เฒ่าจะเดินไปก็ค่อยๆเดินเพราะกลัวจะหกล้มจะเคี้ยวอาหารก็เคี้ยวเบาๆเพราะปวดฟันจะพูดมากก็ไม่ได้ไม่มีเรี่ยวแรงค่อยอยู่ค่อยกินค่อยไปค่อยมาพ่อแม่พวกเราเคยถามกันว่าค่อยอยู่สบายดีไหม?เออค่อยอยู่สบายดีอยู่หรอก
สังขารมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา
สังขารนี้มันค่อยมันเสื่อมไปทุกวันๆพระท่านสอนว่า"สังขารร่างกายก็ไม่ใช่ของเราหรอก"เราก็โกรธไม่พอใจถ้าว่าไม่ใช่ของเราก็เอาไฟมาเผาดูซิเอามีดมาลองแทงดูพูดไปสารพัดอย่างฟังท่านพูดไม่เข้าใจคิดว่าตัวเองพูดถูกไปเถียงแต่คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าไม่หยุดสักทีไม่ยอมรับธรรมะของท่านไม่ใช่ว่าจะเป็นแต่เดี๋ยวนี้หรอกนะเรื่องอย่างนี้เป็นมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาลโน้นแล้วมีนางหนึ่งสวยงามกว่าเพื่อนในครั้งพุทธกาลไปฟังเทศน์พระพุทธเจ้าท่านเทศน์ให้ฟังเรื่องเกศาโลมา นะขาทันตาตะโจ "ร่างกายนี้มันเต็มไปด้วยของไม่สะอาดเป็นของบูดของเน่าของไม่เห็นสาระแก่นสารเป็นของน่าเกลียดโสโครก"ก็ไม่พอใจ โกรธพระพุทธเจ้าว่าดูถูกเหยียดหยามมีความสำคัญว่าตัวเองสวยงามมากแต่พระพุทธเจ้าเทศน์ว่าไม่ใช่ของสวยงามผมขน เล็บ ฟัน หนังเนื้อ ไม่มีอะไรที่สวยงามเลยจึงโกรธพระพุทธเจ้าเพราะความไม่รู้ตามความเป็นจริงนั่นแหละ
ต่อไปนานไปก็ไปเห็นซากศพคนตายก็จึงคิดได้เอามาเทียบกับตัวเองจึงเห็นจริงตามที่พระพุทธเจ้าท่านสอนว่าเราเป็นผู้หลงผิดจริงๆจึงได้ไปกราบขอขมาโทษพระพุทธเจ้าเพราะความสำคัญลุ่มหลงของที่มีอยู่กับตัวเองก็จึงไม่รู้จักถ้ามันหนาวก็เอาผ้าห่มคลุมไว้ทั้งเนื้อหนังนั่นแหละแต่ไม่เห็นตัวเองสักทีกระดูกผม ก็ไม่เห็นถ้าครูบาอาจารย์ท่านเทศน์ว่าเกศา โลขา นะขาทันตาตะโจ ก็คิดว่าพูดอะไรนะใครจะไม่เห็นผมหนัง เพราะมันไม่เห็นตามความเป็นจริงถ้าเห็นสกลร่างกายตามความเป็นจริงแล้วมันก็จะถอยหรอกโยมจับดูแล้วมันก็วางไม่ได้ยึดหมายมันหรอกมันก็วางได้ถ้าวางก้อนนี้ได้ก็คือวางกองทุกข์นั่นแหละไม่ยึดหมาย
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32163
5
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-4-12 12:08
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ใช้งานตามหน้าที่ของสังขาร
มีมือก็ใช้มันไปมือก็ใช้ให้มันจับมามีหูมันมีหน้าที่ฟังเสียง ก็ใช้ให้มันฟังมีปากที่มันเคี้ยวอาหารเป็นก็ใช้ให้มันเคี้ยวจมูกก็ใช้ให้มันสูดลมหายใจเข้าลมหายใจออกใช้มันไปคนละอย่างเท้ามีไว้สำหรับเดินมันปั้นข้าวไม่เป็นก็ต้องให้มันเดินหูก็ใช้ฟังเสียงจมูกก็ใช้ดมกลิ่นใช้ไปตามหน้าที่ของมันจะใช้ให้มันขัดกันก็ไม่ได้อีกเพราะมันไม่ใช่ของเราให้เอาหูไปดูหนังดูซิถ้าไม่เชื่อลองดูก็ได้ใช้ของไม่ถูกที่ของมันถ้าเป็นของเราจริงๆจะต้องบังคับมันได้เอาหูไปดูได้ถ้าเป็นของเราจริงๆใช้ให้มันไปทำนาก็ได้ใช้ตาไปฟังเทศน์ลองดูถ้าเป็นตาเราจริงๆก็ต้องใช้มันไปฟังเทศน์ได้แต่อันนี้ไปใช้ของคนอื่นไม่ใช้ของเราเลยมันจึงขัดขวางเราอยู่เรื่อยไปเพราะยึดว่าเป็นของเราครูบาอาจารย์ท่านเทศน์ก็ไม่รับฟังก็ไม่รับทราบไม่เข้าใจ เป็นตัวอัตตาขวางอยู่นั่นแหละถ้ารับทราบธรรมะของพระพุทธเจ้าแล้วมันก็ง่ายยอมรับฟังไม่ฝ่าฝืนก็เข้าใจธรรมะได้
ถ้าไม่รับทราบไม่รับฟัง ไม่รับรู้เอาแต่ใจตัวเองสิ่งใดที่ชอบใจจึงเอาสิ่งใดไม่ชอบก็จะไม่เอาเลือกเอาแต่สิ่งที่ชอบถ้าเป็นเสียงก็เสียงที่ถูกหูเสียงไพเราะจึงจะเอาให้คนอื่นทำให้ถูกใจเราจึงจะชอบจึงจะสบายใจส่วนมากชอบเป็นอย่างนั้นจะให้ทุกคนทำให้ถูกใจเราคนเดียวจึงจะตรัสรู้ธรรมะได้มันเป็นไปไม่ได้หรอกคิดดูให้มันดีๆธรรมเป็นส่วนหนึ่งจิตเป็นส่วนหนึ่งบางคนคิดว่าชอบใจอะไรนั่นแหละเป็นธรรมถ้าเราชอบก็คิดว่าเป็นของดีบางทีเราไม่ชอบแต่มันเป็นธรรมจะทำอย่างไรล่ะ
ขาดปัญญาพาให้ทุกข์
มีแต่สิ่งที่ทำให้ทุกข์ทั้งนั้นถ้าเราขาดปัญญาถ้าเรารู้จักใช้ให้มันถูกเรื่องมันก็ง่ายขึ้นตาก็ใช้ดู หูก็ใช้ฟังจมูกดมกลิ่นลิ้นสัมผัสมือจับสิ่งของได้เท้ามีหน้าที่เดินใช้ไปคนละอย่างถ้าใช้ถูกเรื่องก็สะดวกขึ้นถ้าใช้ไม่ถูกเรื่องมันก็ขัดอยู่อย่างนั้นเพราะว่าไม่ใช่ของเราก็ว่าของเราอยู่อย่างนั้นไม่ยอมรับ ไม่หยุดสักทีต้องมาภาวนาหาเหตุผลของมันความคิดเห็นของเรากับคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าที่ท่านตรัสไว้นั้นต่างกันเสมอเช่นสภาวะร่างกายของเรานี้มันไม่เที่ยงแท้ไม่คงทนถาวรแต่เราก็ยังคิดว่าเป็นเราอยู่ผลสุดท้ายก็เป็นความจริงของพระพุทธเจ้าเป็นธรรมหมดทุกอย่างเรื่องความยึดถือยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นของเรานั้นไม่จริงสักอย่างเลยถ้าถึงคราวมีอะไรเสียไปก็ร้องไห้ว่าเสียดายโง่มากจนร้องไห้เพราะคนไม่เห็นธรรมะไปยึดแต่ของเราถ้าไม่ใช่แล้วก็ร้องไห้เท่านั้นเองถึงกระนั้นก็ยังไม่รู้จักว่าตัวเองทุกข์ยังไม่ยอมรับเพราะคนมีความมืดหนาด้วยกิเลสตัณหาจึงชอบเป็นอย่างนั้น
ธรรมะอยู่กับเรานี่เอง
ธรรมะไม่อยู่ไกลหรอกอยู่กับเรานี้แหละจะไปค้นหาที่ไหนก็ไม่เห็นเพราะมันเป็นของที่พอดีสูงไปกว่านี้ก็ไม่เห็นต่ำไปกว่านี้ก็ไม่เห็นคิดให้พอเหมาะพอดีมันจึงจะได้ผมว่าพระเณรเราเข้ามาปฏิบัติแล้วอยากจะกลับไปเรียนไปศึกษาเพื่อต้องการอยากจะเป็นอันนั้นเป็นอันนี้ผมว่ามันใกล้จะหมดแล้วมันถอนออกมาคงจะเข้าใจว่าทุกวันนี้ไม่ได้ศึกษาต้องไปเรียนไปสอบได้จึงเป็นเรื่องศึกษาผมคิดว่าเป็นเรื่องเด็กเล็กไม่ใช่เรื่องที่จะหาความพ้นทุกข์หรอกผมฟังดูแล้วก็พอจะรู้ได้เลยว่ามันถอนออกจากหลักเดิมของการปฏิบัติไปแล้วถอนออกไปร้อยคนมันก็ตายร้อยคนนั่นแหละไปไม่รอดหรอก
ลูกศิษย์ลูกหาเคยมีหลายคนที่ไปศึกษาเล่าเรียนถอยออกไป สุดท้ายก็ไม่มีการปฏิบัติเลยผู้อยู่ที่นี้ดูหนังสือไปปฏิบัติศึกษาตัวเองไปด้วยเพราะยังต้องการความพ้นทุกข์ยังดีกว่า มีความอดทนพิจารณาไปให้มันเกิดความฉลาดมีความตั้งมั่นไว้ในหลักธรรมะอย่าให้มันขาดใครจะไปเหนือไปใต้ก็ตามให้เรามีหลักเอาไว้ผู้ที่ชอบไปเที่ยวหรือไม่ชอบไปเที่ยวดีได้ทั้งนั้นถ้ามีความคิดดีคิดถูก
ทางพ้นทุกข์
ไม่ละกิเลสตัณหาแล้วไม่มีทางจะพ้นทุกข์ได้จะเรียนได้มหาเก้าประโยคก็ตามก็ยิ่งจะถอยลงมาข้างล่างไปเรียนเพื่อเพิ่มกิเลสตัณหาไม่ใช่เพื่อแสวงหาความพ้นทุกข์เพราะคนไม่รู้จักทุกข์ถ้าคนจะปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์จริงๆชีวิตของเราคล้ายๆกับว่าจะอยู่ได้สักวันหนึ่งคืนหนึ่งเท่านั้นมาปฏิบัติเพื่อพ้นไปจากทุกข์เกิดมาชาตินี้จะตายก็ให้มันตายเพราะการปฏิบัติดีกว่าให้มันมีความมั่นใจลงตรงนี้มันก็เห็นหนทางเท่านั้น
เริ่มต้นแต่ปฏิบัติมาไม่เคยมีความเกียจคร้านไม่เคยคิดถอยถึงจะมีความทุกข์มากอยู่แต่มันก็ไม่ถอนไม่เลิกการทำความเพียรใครจะไปที่ไหนจะสิกขาลาเพศไปก็ตามผมไม่เคยถอนไม่เคยเลิกความตั้งใจเลยจะต้องมีจิตใจเด็ดเดี่ยวลงอย่างนั้นค้นคว้าจากคนอื่นแล้วก็มาค้นคว้าในตัวเองทำไปเรื่อยๆมีการละบาปบำเพ็ญบุญปฏิบัติธรรมะถ้าใจมันเหมือนกับเขาหาเงินหาทองเอาสิ่งของมาเพื่อความร่ำรวยหาเงินมาได้มากๆก็ต้องเอาฝากธนาคารไว้ตอนอายุเฒ่าแก่มาจะได้อาศัยปัจจัยเหล่านี้พอได้ใช้สอยไม่ต้องวิ่งเต้นขวนขวายอีกถ้าต้องการเขาก็ไปเบิกเอาจากธนาคารมาใช้สอยให้สบายทางโลกเขามีความหมายอย่างนั้นเขาพยายามทำหน้าที่การงานเพื่อเงินก็มีความขวนขวายแต่อายุยังหนุ่มยังสาว
ปฏิบัติให้เห็นธรรมอย่างแจ่มชัด
พวกเรามาปฏิบัติก็เหมือนกันปฏิบัติให้รู้จักทุกแง่ทุกมุมให้มีความเฉลียวฉลาดเก็บไว้ใส่ธนาคารไว้เหมือนกันการปฏิบัติของเราเมื่อมีอายุเฒ่าแก่มาก็จะไม่มีกำลังจะเดินก็ไม่เหมือนยังหนุ่มจะอดกลั้นเพื่อทรมานร่างกายก็ไม่ได้เพราะสภาพสังขารร่างกายก็ทรุดโทรมเป็นไปตามเรื่องของมันไม่ได้เดินจงกรมไม่ได้นั่งสมาธิก็ไม่เป็นไรเปรียบเหมือนเรามีเงินฝากไว้ที่ธนาคารแล้วไม่ต้องหาเงินอีกก็ได้เพราะมีทุนสำรองในการใช้จ่ายอยู่แล้วนั่งอยู่เฉยก็ได้ไม่ต้องกลัวว่าจะอดอันนี้ก็เหมือนกันได้ทำไว้ดีแล้วมีความตั้งมั่นแล้วเห็นธรรมอย่างแจ่มชัด
การตรัสรู้ธรรมไม่ใช่ว่าจะอยู่ในอริยาบถนอนเดิน นั่ง ยืนไม่ใช่อย่างนั้นถ้ามีความเห็นชอบลงเมื่อใดมรรค สามัคคีรวมลงปุ๊บนั่นแหละในเวลาเดินเวลานั่ง เวลานอนไม่ต้องกระเสือกกระสนเพราะมันรู้อยู่อันนี้ปฏิบัติแบบผู้เฒ่าไม่ต้องขวนขวายทุกแง่ทุกมุมไม่ต้องกระเสือกกระสนเกินไปไม่ต้องไปเดินธุดงค์ขึ้นภูเขาลูกนั้นลูกนี้ไม่ต้องเดินจงกรมอยู่ตลอดวันตลอดคืนหรอกสะพายบาตรวิ่งไปที่โน้นที่นี้เหมือนคนไม่มีที่พึ่งอันนี้เราได้ทำมาแล้วแต่ยังน้อยยังหนุ่มจึงพอรู้เรื่องมันหมดแล้วนั่งอยู่นอนอยู่ก็คิดถูกได้ใครอยากจะไปก็ไปใครอยากจะมาก็มาไม่เป็นไรเรื่องมันเป็นอย่างนั้นเพราะเรามีกำลังภายใน
อันนี้พูดถึงที่เราเคยศึกษาโดยมากไม่ได้ศึกษาแต่ไปเที่ยวเฉยๆไปเที่ยวที่นั้นที่นี้ไปเที่ยวที่อำเภอนั้นมันสนุกดีไปเที่ยวทางโน้นอากาศทะเลมันเย็นดีอาหารทะเลมันอร่อยดีก็เที่ยวไปเรื่อยๆเที่ยวไปจนตายวิ่งไปทางทิศเหนือทิศใต้ไม่รู้จะเอาอะไร
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32163
6
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-4-12 12:09
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอย่างเดียวก็พอ
สมณะเรานี้ไม่มีอะไรมากมายหรอกนะมีบาตรใบหนึ่งก็พอมีผ้าไตรจีวรชุดหนึ่งก็พอจะสะพายสิ่งของไปมากมายให้มันหนักทำไมอยู่ที่ไหนก็สบายถ้าเราปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอย่างเดียวก็พอที่เอาจริงๆก็เอาแต่ความสบายใจไม่ต้องไปแยกอะไรให้มันมากบิณฑบาตได้มาก็เอาแต่พอฉันเท่านั้นเหลือนั้นก็ให้เพื่อนๆหรือให้เป็ดให้ไก่กินไม่ต้องไปกระเสือกกระสนให้มันมากหรอกขอให้เราปฏิบัติดีเท่านั้นก็พอให้เป็นสุปะฏิปันโนไม่ต้องไปเที่ยวที่นั่นที่นี่ทุกวันนี้เป็นนักท่องเที่ยวไปเรื่อยๆเลยไม่รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูกจะไปหาเอาอะไรให้ศึกษาหาความรู้ข้อเท็จจริงมันก็วางได้มันก็อยู่หลักเดิมนี้แหละไม่ได้ติดลาภติดยศติดสรรเสริญติดนินทา ถ้ามันพอดีแล้วนั่งอยู่ก็สบาย
ถ้าเราดีที่ไหนมันก็ดี
อย่างเช่นท่านเจ้าคุณวัดเทพศิรินทร์ประวัติของท่านท่านเห็นเพื่อนไปธุดงค์หลายองค์ไปธุดงค์อย่างนี้จะไปเอาอะไรหนอธุดงค์ก็คือข้อปฏิบัติจะปฏิบัติมันอยู่กุฏิใหญ่ๆนี้แหละไม่ต้องไปไหนอยู่ในวัดนี้ยกข้อวัตรขึ้นมาปฏิบัติได้หลายอย่างไม่ต้องเดินไปให้ลำบากตรากตรำจะปฏิบัติธุดงค์อยู่ที่นี่แหละถ้ามีความเห็นอย่างนั้นมันก็สงบลงได้อยู่ที่ไหนก็เหมือนไปธุดงค์ธุดงค์คือที่เที่ยวสัญจรไปมาเป็น"ธุตังคะ" เป็นข้อปฏิบัติของพระอริยเจ้าที่ทำปุถุชนให้เป็นอริยชนเรียกว่า"ธุดงค์" ที่ทำได้โดยมากเป็นข้อวัตรเพื่อฝึกหัดเกลากิเลสไม่ใช่เรื่องอื่นไกลอะไรถ้าจะเทียบทางธรรมะแล้วความดีอยู่กับตัวเราเองถ้าเราดีอยู่ที่ไหนก็ดีถ้าเราไม่ดีอยู่ที่ไหนก็ไม่ดีต้องถามตัวเราว่าดีพร้อมแล้วหรือยัง?ถ้าตัวเองไม่ดีจะหาคนอื่นดีคงไม่เจอให้กำหนดพิจารณาจิตก็จะมีความสงบขึ้นมาถ้าตัวเราดีจะไปที่ไหนก็พบแต่คนดีก็จะพบธรรมะของพระพุทธเจ้าของเราเท่านั้นถ้าคนไม่รู้จักตัวเองอยู่ที่ไหนก็ว่าโอ้ยเพื่อนกวนพระองค์นั้นไม่ดีโยมผู้ชาย โยมผู้หญิงไม่ดีส่วนตัวเองนั้นดีขนาดไหนไปเที่ยวว่าแต่คนอื่นถ้าเราดีแล้วคนอื่นไม่ดีก็ตามมันก็เป็นคนละเรื่องกันถ้าเราคิดได้อย่างนี้มันก็สบายและมีความสงบเท่านั้น
ปฏิบัติดีและปฏิบัติตรง
เรื่องอย่างนี้เราพยายามทำให้ดูเป็นตัวอย่างอยู่แต่ก็ยัง ไม่รู้จักคนอื่นทำให้ดูอยู่อย่างนั้นมันยังไปตำหนิเขาอยู่นะเขาแสดงความจริงก็ยังไม่รู้จักมีความขัดข้องเพราะมีความหลงอยู่มากก็น่าจะคิดว่าเอออันนั้นดีแล้วสิ่งที่ไม่ดีเราก็รู้แล้วจะได้ไม่ทำอีกยังไปตำหนิเขาว่าคนนั้นไม่ดีคนนี้ไม่ดีไปตำหนิเขาทำไมมันเป็นเรื่องของเขาอันนี้มันเป็นเรื่องของเราไม่ดีเองมันเป็นทุปะฏิปันโนสุปะฏิปันโนคือผู้ปฏิบัติดีอุชุปะฏิปันโนเป็นผู้ปฏิบัติตรงบางทีดีอยู่แต่ไม่ตรงตรงอยู่แต่ไม่ดีจะหาทั้งดีด้วยทั้งตรงด้วยเป็นสุปะฏิปันโนก็หายากหลงความคิดของตัวเอง
สมาธิกับความเข้มแข็ง
ผมจึงว่ามันถอนออกจากสมาธิผมไม่เคยถอนสักทีถึงจะมีความทุกข์ขนาดไหนทุกข์จนน้ำตาไหลออกมาก็ตามผมไม่เคยถอนออกจากสมาธิยังมีความเข้มแข็งกัดฟันต่อสู้อยู่ตลอดเวลาอดทนสู้ไปเรื่อยๆไม่ได้คิดท้อถอยเลิกความตั้งใจคิดระลึกออกไปอย่างนี้ไม่เคยคิดเลิกเลยเหมือนบุรุษต้องการไฟเอาไม้สีกันเพราะต้องการไฟเมื่อความร้อนมันยังไม่สมดุลกันมันก็ไม่เกิดไฟขึ้นมาปฏิบัติไปนิดหน่อยรู้ไม่ชัดเห็นไม่ชัดมันจึงละทุกข์ไม่ได้เพราะอะไรนะทำไมมันจึงละทุกข์ไม่ได้เพราะมรรคยังไม่สามัคคีกันเหมือนบุรุษต้องการไฟสีอยู่อย่างนั้นก็ไม่เกิดไฟเพราะความร้อนมันยังไม่พอไม่สมดุลกันไฟจึงเกิดขึ้นไม่ได้เพราะความร้อนมันไม่พอ
ความเห็นชอบ
อันนี้ก็เหมือนกันฉันใดใจของเราให้มันมีหลักปักลงอย่างนี้อันนี้เราไปหาความรู้ดีกว่าไปศึกษาในตำราจิตของเรามันไม่ถอนออกไปเป็นทาสของกิเลสตัณหามันถูกต้องแล้วล่ะจะมีความรู้เรียนจบปริญญาอะไรมาก็ตามก็ยังเป็นทาสของตัณหาอยู่เพราะมีแต่ไปแสวงหาเอาทุกข์มาใส่ตัวทั้งนั้นแหละส่วนมากชอบเป็นอย่างนี้แต่จิตใจของผมก็ยังมีความตั้งมั่นไม่หวั่นไหวอย่างผมกับมหาสาสมัยก่อนไปปฏิบัติด้วยกันแต่มหาสาอยากจะไปเรียนนักธรรมผมก็ไม่ได้ขัดข้องผมก็ส่งให้ไปเรียนที่กรุงเทพฯส่งเพื่อนไปเรียนแล้วผมก็ไม่มีความน้อยใจเลยจนกระทั้งเรียนจบมหาเปรียญเก้าประโยคเท่าทุกวันนี้จึงได้มาพบกันส่วนผมก็อยู่ในป่าอย่างนี้มาตลอดไม่ขาดเลยท่านสอบมหาได้ก็ส่งข่าวว่าสอบได้ประโยคเจ็ดประโยคแปด ประโยคเก้ารายงานมาบอกให้ผมทราบผมก็มีความสบายใจอยู่เหมือนเดิมเพราะผมไม่มีความทะเยอทะยานไม่มีความกระตือรือร้นอยากจะไปกับใครไม่ได้คิดอิจฉาใครไม่ได้คิดเป็นทุกข์อาภัพอับจนด้วยอยู่ป่าก็สบายมีบาตรกับผ้าไตรจีวรฉันข้าววันละครั้งเท่านั้นก็พอจะไปคิดมากให้เราเป็นทุกข์ทำไมที่เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์"ไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้เราได้รับความทุกข์ได้หรอกถ้าเรามีความเห็นชอบ"
"บางวันได้ฉันข้าวกับมะกอกที่มันหล่นลงมาจากภูเขาผมก็ยังมีความพอใจไม่ได้เก็บสะสมสิ่งของอะไรไว้เลย"พระพุทธองค์ท่านไม่สอนพวกเราทั้งหลายอย่างนี้หรอกท่านไม่ได้ถามว่าวันนี้ฉันเสร็จแล้วเหลือไหม?วันพรุ่งนี้จะฉันกับอะไร?ท่านไม่ได้มาถามอีกมันก็มีของมันมาเองจะได้มากหรือได้น้อยก็พอทุกวันนี้ถ้าได้ข้าวฉันข้าวสักจานหนึ่งหิวมากนอนก็ไม่หลับเป็นทุกข์เป็นร้อนนอนก็เป็นทุกข์นั่งก็เป็นทุกข์ไม่รู้เรื่องอะไรวุ่นวายคนโง่ชอบเป็นอย่างนั้นแหละไม่น่าจะไปสุขไปทุกข์กับมันเพราะเรื่องของโลกเป็นอยู่อย่างนั้น
"จะไปทำอะไรให้โลกนี้มันเต็มได้"
"ทำตามความอยากไม่พอสักทีหรอกคนเรานี้"
ที่มา
http://www.ubu.ac.th/wat/ebooks/ ... y_Brings_Peace.html
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...