ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 2256
ตอบกลับ: 9
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

แนวทางการปฎิบัติของศิษย์หลวงปู่ชื่น ที่ผมเคยได้ยินได้ฟังมา

[คัดลอกลิงก์]
สิทธิการิยะ

บัดนี้จะขอแจกแจงแนวทางการปฎิบัติสมาธิที่หลวงปู่ชื่น ติคญาโณได้สั่งสอนเอาไว้ เพื่อให้เหล่าลูกศิษย์ลูกหาหลวงปู่ชื่นได้นำไปเจริญเป็นรอยทางเดียวกัน
และให้สะดวกต่อครูอาจารย์ในการชี้แนะแนวทางเมื่อศิษย์มีปัญหาติดขัดหรือเกิดข้อสงสัยในการภาวนา


ทั้งนี้ตัวผู้เขียนมีความรู้น้อย อาศัยการเรียนรู้และฟังมา ฝึกฝนและปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมด ความจริงแล้วยังอ่อนประสบการณ์นัก
หากขาดตกบกพร่องประการใด ขออาจารย์และผู้รู้โปรดชี้แนะ เพื่อให้เกิดความรู้ต่อศิษย์หลวงปู่ชื่นหมู่มากเป็นการต่อไป

แนวทางการปฎิบัติ เบื้องต้นนั้น ให้มีศรัทธาในหลวงปู่ ตั้งเจตนาจะอบรมกายใจให้ดี คอยระวังรักษาศีล เพราะศีลเป็นสิ่งคุ้มกัน
ไม่ให้กรรมฐานเสื่อมถอย และศีลที่บริสุทธิ์จะช่วยหนุนนำการปฎิบัติภาวนาให้ก้าวหน้าเร็ว

ต่อจากนั้น ให้น้อมจิตขอเรียนพระคาถาอาถรรพณ์ใหญ่ เป็นอารมณ์พระกรรมฐาน ดังนี้

อาถันโท โมสิตัง วะคะริงคะรัง อิสะวาสุ
อิอาถันโท โมสิตัง วะคะริงคะรัง สุสะวาอิ

ให้ผู้ปฎิบัติหมั่นท่องคาถานี้สม่ำเสมอเป็นอาจิณ เช่น เมื่อมีเวลาว่างยามตื่นนอน หรือกำลังนั่งรถเดินทาง หรือก่อนนอน
แรกเริ่มภาวนานั้น ให้ผ่อนคลายใจให้สบาย ลืมเรื่องราวยุ่งเหยิงทั้งหลายในชีวิตออกไปก่อน แล้วท่องคาถานี้ไว้ในใจ วนไปวนมา จะประกอบกับการนับประคำก็ได้

บางครั้ง เมื่อภาวนาไป จะพบว่าลืม หรือท่องผิด ทั้งนี้เพราะตัวคาถา ท่านรจนาไว้เป็นกลบทกินหัวกินหาง หาที่เริ่มต้นและสิ้นสุดไม่ได้
การท่องบริกรรมคาถานี้จึงเป็นการฝึกสติของผู้ฝึกหัดไปในตัว ให้คอยรู้ตัวว่าเมื่อใดท่องผิดแล้ว

คาถานี้ ท่านไม่ได้ระบุว่าให้ฝึกฝนยาวนานเท่าไหร่ แต่บอกให้ทำเป็นอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้คงเป็นเพราะ เมื่อฝึกหัดสม่ำเสมอแล้ว
กรรมฐานที่แข็งแรงก็จะดียิ่งขึ้น และเมื่อฝึกอย่างไม่กะเกณฑ์ผลอะไรย่อมก้าวหน้าเร็ว เพราะใจไม่ถูกความโลภอยากฝึกสำเร็จมาครอบงำใจ


เมื่อผู้ปฎิบัติบริกรรมคาถาได้ขึ้นใจไม่ผิดพลาดแล้ว จะพบว่าบางครั้งแม้ขณะที่เราเผลอทำกิจวัตรอื่นอยู่ บางที่จิตเราจะท่องคาถา
ขึ้นมาในใจได้เอง อันนี้เป็นผลจากความคุ้นเคยของจิต ที่เคล้าเคลียกับคาถาเรื่อยมา


ผู้ปฎิบัติจะพบว่า จิตเข้าถึงความสงบสุขของคาถาได้ง่ายขึ้น และให้สังเกตสภาพจิตใจตอนภาวนาคาถาสักนิด จะเห็นว่าเป็นจิตมี
สภาพเป็นกลางต่อสิ่งทั้งหลาย และเบาสบาย ไม่มีภาระหนัก หรืออีกนัยหนึ่ง คือเป็นสภาพจิตที่ควรแก่การงาน จะนำจิตประเภท
นี้ไปร่ำเรียนอาคม หรือไปเจริญปัญญาให้พ้นทุกข์ก็ได้


แต่ทั้งนี้ ขอผู้ปฎิบัติอย่าประมาท เพราะจิตที่ควรแก่การงานนี้ ยังเป็ยโลกิยวิสัย ย่อมเสื่อมถอยได้หากทอดทิ้งการภาวนา
จึงยังจำเป็นต้องฝึกฝนจิตดังที่กล่าวมาข้างต้นให้สม่ำเสมอต่อไป


จิตที่ฝึกดีแล้ว มีกำลังสมาธิตั้งมั่น และเป็นกลางต่ออารมณ์ทั้งหลาย สามารถนำมาใช้บริกรรมกับคาถาบทต่างๆให้สัมฤทธิ์ผลขึ้น
มาได้ และเมื่อประกอบกับความเพียรในการฝึกฝนคาถาอาคมตามคำชี้แนะของอาจารย์ ย่อมสำเร็จในตำราวิชาต่างๆในที่สุด


จิตที่ฝึกดีแล้วนี้เช่นกัน หากนำมาพิจารณากายและใจของตัวเอง ย่อมเกิดปัญญาเห็นว่ากายนี้เป็นแค่วัตถุ เป็นก้อนธาตุ ไม่ใช่ตัว
เรา ทั้งสุขทุกข์ดีชั่ว ก็ล้วนแต่เป็นสภาวะธรรมที่เกิดดับผันแปรเอาแน่ไม่ได้ เมื่อเห็นไตรลักษณ์ของกายของใจมากเข้า จิตสั่งสม
ปัญญามากพอ ย่อมเกิดอริยมรรคหลุดพ้นในที่สุด


ดังนั้น จึงขอเชิญ ให้เราๆทุกท่านแบ่งเวลาในชีวิตมา วันละเล็กละน้อย หัดเริ่มภาวนากรรมฐาน เพื่อเป็นการบูชาพระคุณของ
หลวงปู่ชื่น และเพื่อความผาสุกในชาตินี้และชาติต่อไป

เอวัง


เครดิต LightGuardian


ขอบพระคุณครับ
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณครับ
มีหลักให้ยึดแล้ว ขอบคุณครับ กราบๆๆ
กระทู้ดีๆ ขุดๆ
สาธุ

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้