ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
ตำนาน เรื่องเล่า เกร็ดความรู้ เรื่องลี้ลับ
»
"บุญเพ็งหีบเหล็ก"...นักโทษประหารคนสุดท้ายที่ต้องโทษกุดหัว
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 2825
ตอบกลับ: 2
"บุญเพ็งหีบเหล็ก"...นักโทษประหารคนสุดท้ายที่ต้องโทษกุดหัว
[คัดลอกลิงก์]
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2013-12-20 13:16
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
ช่วงปี พ.ศ. 2461 ได้มีการประหารนักโทษสำคัญคนหนึ่ง ซึ่งที่รู้จักกันดีในสมัยนั้นเขาคือ
"บุญเพ็ง"
ซึ่งก่อคดีฆ่าคนตายหลายชีวิต และศพที่
"บุญเพ็ง"
ฆ่านั้นก็ได้นำมาใส่หีบเหล็กแล้วโยนทิ้งน้ำทุกครั้ง จนชาวบ้านขนานนามว่า
"บุญเพ็ง หีบเหล็ก"
(สมัยนั้นไม่มีการใช้นามสกุล คำว่าหีบเหล็กต่อท้ายเป็นฉายามาจากพฤติกรรมฆ่าแล้วหั่นศพ จากนั้นก็นำมาใส่หีบเหล็กแล้วยกขึ้นรถเจ๊กลากไปทิ้งคลอง) บุญเพ็ง คือ ฆาตกรฆ่าหั่นศพคนแรกของเมืองสยาม… ได้ฉายาจากชาวต่างชาติว่า
"The Murderer Iron Box"
บุญเพ็ง เกิดที่ท่าอุเทน จังหวัดนครพนม พ่อมีเชื้อสายจีน แม่เป็นชาวญ้อ พออายุได้ 3 ขวบ จึงอพยพมาอยู่ที่บางปะกอก พอเติบใหญ่เป็นหนุ่มได้ศึกษาทางไสยศาสตร์จากหลายสำนักจนเก่งในเรื่องพยากรณ์ เมตตามหานิยม เสน่ห์ยาแฝด ประกอบกับเป็นผู้มีรูปร่างหน้าตาดีจึงเป็นที่หมายปองและถูกตาถูกใจเพศตรงข้าม (บางที่บอกว่าถูกเลี้ยงดูโดยตา-ยาย ซึ่งตา-ยายได้ห้ามไม่ให้เรียนพวกไสยศาสตร์ แต่บุญเพ็งเองก็ไม่ได้สนใจอะไร)
ด้วยความเป็นคนมีเสน่ห์จึงมักเกิดปัญหาสาวๆ แก่งแย่งกันบ่อยครั้ง พออายุได้ 27 ปี ก็ไปบวชเป็นพระอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์ได้ 2 พรรษา ผ้าเหลืองร้อนจึงลาสิกขาบทออกมาประกอบอาชีพ หมอดู สาหร่ายา รับทำเสน่ห์ยาแฝด ฝังรูปฝังรอย ฯลฯ ใช้ชีวิตเสเพลดื่มสุรายาเมาและเล่นการพนัน
จนกระทั่งกลายเป็นผีพนันถอนตัวไม่ขึ้น เขาต้องการเงินจำนวนมากเพื่อเล่นกันพนัน วิธีง่ายๆ แต่ได้เงินมากและรวดเร็วที่สุดในสมัยนั้น คือ "ฆ่าชิงทรัพย์" และแล้วการฆาตกรรมต่อเนื่องก็บังเกิด
เหยื่อรายแรก คือนายล้อม พ่อค้าเพชรพลอย บุญเพ็งก็ร่วมมือกับนายจรัญลูกสมุนคู่ใจฆ่าแล้วนำเงินและทรัพย์สินแบ่งกัน และหั่นศพเป็นชิ้น (บางแหล่งข่าวบอกว่าไม่ได้หั่นศพ แต่ยัดใส่หีบเลย …บางแห่งบอกว่าจำเป็นต้องหั่นแขน-ขาของศพ เพราะยัดศพใส่หีบไม่ได้) ใส่หีบเหล็ก (ที่สำนักของเขามีหีบเหล็กโบราณ อยู่ถึง 7 ใบ แต่บางที่ดันบอกว่ามีแค่ 3 ใบ) และให้นายจรัญจ้างรถเจ๊กไปทิ้งลงคลองบางลำพูเวลาเที่ยงคืนเพื่อทำลายหลักฐาน พร้อมกับหีบเหล็กที่หายไป 1 ใบ
เหยื่อรายที่ 2 เป็นผู้ชายไม่ทราบชื่อ รู้แต่ว่าเป็นผีพนันและวันนั้นเขาได้เงินพนันมา บุญเพ็งและนายจรัญเลยวางแผนล่อไปฆ่าเพื่อชิงเงินพนันและแบ่งทรัพย์สิน หั่นศพเป็นชิ้นใส่หีบเหล็ก แล้วให้นายจรัญเอาไปทิ้งที่คลองบางลำพูอีกศพ พร้อมกับหีบเหล็กที่หายไป 1 ใบ
วันเวลาผ่านไป พร้อมกับหีบเหล็กที่หายไปทีละ 1 ใบ จนมาถึงเหยื่อรายสุดท้าสุดท้าย เป็นแม่หม้ายชื่อ นางปริก เป็นคุณนายของท่านขุนสิทธิคดี (ปลั่ง) รูปร่างดี แต่งกายทองเต็มตัว บุญเพ็งก็เสพสมแล้ว กลายเป็นขาประจำ จนกระทั่งวันหนึ่งหญิงคนนั้นก็เกิดตั้งท้อง ยื่นคำขาดให้บุญเพ็งรับผิดชอบรับตนเป็นเมียอย่างออกหน้าออกตา ซึ่งบุญเพ็งบ่ายเบี่ยงตลอดเวลา สุดท้ายบุญเพ็งทนไม่ไหวจึงต้องฆ่า
วันสุดท้ายที่คนพบเห็นนางปริก เธอแต่งตัวสวยงาม ประดับประดาด้วยเครื่องทองเพชรนิจจินดาเต็มตัวเหมือนตู้ทองเคลื่อนที่ จนใครๆ รู้สึกว่า สวยเป็นพิเศษ โดยหารู้ไม่ว่านี้คือวาระสุดท้ายของนางปริกและลูกในท้องของเธอ คราวนี้มาแปลก เพราะบุญเพ็งลงมือฉายเดี่ยว ฆ่านางปริก ปลดทรัพย์สินไปจนหมดสิ้นและหั่นศพเป็นท่อนๆ (บางก็ว่ายัดลงในหีบไปเลยไม่ต้องสับ) ยัดลงหีบ ใส่รถเจ๊ก นำไปทิ้งลงคลองอีกเช่นเคย
"และเป็นหีบใบสุดท้ายที่มี"
คราวนี้หีบเหล็กของนางปริก ดันไม่จมลงสู่ก้นคลองบางลำพู แต่ลอยไปติดกอสวะ คนงมกุ้งเกิดมาเห็นนึกว่าเป็นของมีค่า แต่เมื่อครั้นเปิดก็พบศพที่ไม่เน่าเปื่อยของนางปริกอยู่ข้างใน
หลังจากนั้นบุญเพ็งได้หนีไปบวชเป็นพระที่วัดแถวอยุธยา แล้วไม่รู้ว่าเป็นกรรมเวรอะไร ทำให้บุญเพ็งต้องสึกออกมาเพื่อ
แต่งงาน
กับผู้หญิงที่หมายปอง และคืนนั้นเองที่ยังไม่ทันจะได้ถึงสวรรค์ ก็มีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองมาล้อมจับไว้โดยละม่อมในข้อหาฆ่าคนตายอย่าง***ม โหด และศาลได้ตัดสินประหารชีวิตด้วยการตัดหัว (สมัยนั้นเรียกว่ากุดหัว) ให้ตายตกไปตามกัน ณ ป่าช้าวัดภาษี ซึ่งนักโทษรายนี้ใจแข็งมากร้องขอไม่ให้ผูกตาเพื่อขอดูโลกเป็นครั้งสุดท้าย…
ในช่วงประหารชีวิตนั้นได้มีผู้คนมากมายมาดูการประหารชีวิต แต่ว่าไม่มีญาติของบุญเพ็งเลยสักคน แม้กระทั่งเจ้าสาวซึ่งยังไม่ทันจะส่งตัวเข้าห้องหอก็ไม่มา
19 กุมภาพันธ์ 2462 (บางที่บอกว่าวันที่ 19 สิงหาคม) ได้มีประหารบุญเพ็งโดยการตัดหัว ซึ่งเป็นนักโทษที่ถูกประหารด้วยการตัดหัวเป็นคนสุดท้าย ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชมาเป็นระบอบประชาธิปไตย
ในช่วงประหารชีวิตนั้นเอง เพชรฆาตรำดาบอยู่ครู่หนึ่ง แล้วได้ลงดาบอันคบกริบลงบนคอ แทนที่คอจะขาดเลือดพุ่งกระฉูด กลับกลายเป็นว่าคมดาบนั้นไม่ได้ระคายผิวเลยแม้แต่น้อย จนเพชฌฆาต พูดว่า "...มีอะไรดี ให้เอาออกเสียเถอะ" หลังจากนั้นมีคนบอกว่าเห็นบุญเพ็งคายของบางอย่างออกมา แล้วเพชรฆาตจับเขวี้ยงทิ้งหายไปในกอไผ่ (บางที่บอกว่าเป็นพระและเพชรฆาตจับขว้างทิ้งเข้าไปในกอไผ่ …บางที่ไม่ได้บอกว่าเป็นวัตถุอะไร แต่มีสีดำ เมื่อบุญเพ็งคายออกมาก็หายไป !?)
คราวนี้รำดาบใหม่ ดาบหน้ารำจนบุญเพ็งเคลิ้มเผลอ ทันใดนั้นดาบหลังฟันดัง ฉับ! คราวนี้ คอขาด หัวกระเด็น จนเลือดพุ่งกระฉูด ผู้คนที่มาดูต่างร้องวีดว้ายระงม ว่ากันว่าขณะที่ศีรษะถูกคมดาบของเพชรฆาตฟันฉับนั้น ในช่วงวินาทีสั้นๆ ชาวบ้านหลายคนได้เห็นมุมปากของบุญเพ็งขมุบขมิบเหมือนท่องคาถาอะไรสักอย่าง ซึ่งว่ากันว่าอาจจะเป็นไพ่ตายคุณไสย์ครั้งสุดท้ายของเขาเพื่อที่จะป้องกัน ชีวิตของเขาก็เป็นได้
ศพของ บุญเพ็ง หีบเหล็ก ถูกนำไปฝังไว้ในป่าช้านั้นเอง จนภายหลังญาติมาจัดการเผาศพตามพิธีและกล่าวกันว่ารอยสักช่วงแผ่นหลังของเขา เผาไฟไม่ไหม้ ส่วนกระดูกนั้น บรรดาญาติเก็บใส่เจดีย์ไว้ข้างอุโบสถ์วัด
พ.ศ. 2536 เจดีย์ถูกรื้อออก ทางวัดภาษีจึงได้ให้ช่างปั้นรูปปั้นจำลองไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์และตั้งไว้ใน ศาลเล็กๆ ติดกับวิหาร และเรียกศาลว่า "ศาลปู่บุญเพ็ง" และหีบเหล็กที่ใช้ยัดศพได้มีคนไปกราบไหว้บูชา เสี่ยงโชคลาภและเข้าใจว่าวิญญาณของเขายังไม่ได้ไปผุดไปเกิดจนถึงปัจจุบัน
ที่มา:
http://webboard.sanook.com/forum/?topic=3705500
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Nujeab
Nujeab
ออฟไลน์
เครดิต
27800
2
#
โพสต์ 2013-12-20 14:15
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
sriyan3
sriyan3
ออฟไลน์
เครดิต
2969
3
#
โพสต์ 2013-12-23 13:03
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ขอบคุณคร้าบ
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...