จากนั้นคนที่ทำการยิงหันมาที่ครูหนูไทยเอ่ยถาม “มีของดีอะไรบ้าง?” ด้วยความซื่อ ครูหนูไทยจึงตอบว่า “มีอยู่” แค่นั้นแหละเพื่อนล้วงไปที่กระเป๋าเสื้อ ไม่วายที่คนเป็นเจ้าของจะทัดทานและขอคืน เขาก็ไม่ยอมคืนท่าเดียว และนำไปวางไว้ระยะสามถึงสี่วา แล้วถอยออกมาประทับปืนเล็งยิงไปที่ตะกรุดยันต์นั้น เสียงปืนลั่นดังแชะ...แชะ สองครั้งท่ามกลางเสียงกลั้นหายใจของทุกคน กระสุนไม่ระเบิดในขณะที่ทุกคนตะลึงงัน ครั้งที่สามคนยิงหันปลายกระบอกปืนขึ้นฟ้าเหนี่ยวไก ปรากฏว่าเสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหว เหตุการณ์ครั้งนั้นแพร่สะพัดออกไป หลายคนทราบข่าวจึงพากันไปขอจากพระอาจารย์มั่นที่วัด ซึ่งส่วนมากจะได้แผ่นผ้าลงอักขระคาถาตัวยันต์ สำหรับตะกรุดแผ่นทองนั้นไม่ค่อยมีเพราะในสมัยศึกสงครามแผ่นโลหะต่าง ๆ หายากมาก ซึ่งต่อมาไม่นานท่านพระอาจารย์มั่นคงเห็นว่ามากเกินไปจนเกินเลย ท่านจึงบอกเลิก ท่านให้เหตุผลว่า “สงครามเขาจะสงบแล้ว ไม่ต้องเอาก็ได้ พวกตะกรุด ยันต์ ผ้ายันต์เหล่านั้นมันเป็นของภายนอก สู้เอาคาถาบทนี้ไปบริกรรมแนบกับใจไม่ได้ ให้บริกรรมทุกเช้าค่ำจนขึ้นใจ แล้วจะปลอดภัยจากอันตรายต่าง ๆ” ตั้งแต่นั้นมาชาวบ้านหนองผือเลยไม่กล้าขอท่านอีก และเป็นความจริงกับที่พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโตได้กล่าวว่าสงครามกำลังจะสงบ เพราะหลังจากที่ท่านกล่าวไว้ไม่ถึงเจ็ดวัน ก็ได้ทราบข่าวว่าเครื่องบินของทหารอเมริกันได้ไปทิ้งระเบิดปรมาณูใส่เมืองฮิโรชิมากับเมืองนางาซากิของประเทศญี่ปุ่นจนย่อยยับ จนญี่ปุ่นได้ประกาศยอมแพ้สงคราม และสงครามได้สงบลงดังที่เราท่านทราบตามหน้าแห่งประวัติศาสตร์นั่นแล โมระปะริตตัง (คาถายูงทอง) มีดังนี้ อุเทตะยัญจักขุมา เอกะราชา หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง ตะยัชชะ คุตตา วิหะเรมุ ทิวะสัง เย พราหมะณา เวทะคุ สัพพะธัมเม เต เม นะโม เต จะ มัง ปาละยันตุ นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา อิมัง โส ปะริตตัง กัตวา โมโร จะระติ เอสะนาฯ อะเปตะยัญจักขุมา เอกะราชา หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง ตะยัชชะ คุตตา วิหะเรมุ รัตติง เย พราหมะณา เวทะคุ สัพพะธัมเม เต เม นะโม เต จะ มัง ปาละยันตุ นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา อิมัง โส ปะริตตัง กัตวา โมโร วาสะมะกัปปะยีติฯ ถ้ามีเวลาก็ควรสวดให้ครบ หากเวลาน้อยก็ท่องเฉพาะ ‘นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา’ แค่นี้ก็ได้ หรือบางท่านจะใช้เป็นคำบริกรรมในใจเวลาปฏิบัติสมาธิ และใช้แค่... ‘นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา’ ก็ไม่ผิดแต่อย่างใด ครับ ธรรมะ 5 นาที ในฉบับนี้ อาจมิใช่หลักธรรมหรือแก่นธรรมอะไร หากก็เหมือนคติที่ว่า ‘รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม’ อย่างน้อยก็เป็นคำรำลึกถึง พระพุทธเจ้า พระโพธิญาณ ผู้พ้นแล้วและพระวิมุตติธรรมทั้งปวง เพื่อเป็นสิริมงคลในชีวิตประจำวันที่ต้องเผชิญทุกข์และภยันตรายทั้งปวง อีกทั้งยังเป็นที่น้อมนำสติมาสู่ใจตนในทุกคราที่กล่าวพระคาถา ซึ่งถือเป็นการสร้างบารมีแก่ตนอีกประการ |