ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 1641
ตอบกลับ: 0
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ความโกรธ เกิดจากความคิดปรุงแต่ง (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)

[คัดลอกลิงก์]


ความปรุงใจเป็นสิ่งสำคัญ ทำความรู้ความเข้าใจในเรื่องความปรุงของใจเสียก่อน  ให้เห็นแน่ชัดเสียก่อนว่า  ความโกรธหรือไม่โกรธ  ไม่ได้เกิดจากเสียงภายนอกที่มากระทบประสาทหู  

แต่ความโกรธหรือไม่โกรธ  ความชอบหรือไม่ชอบ  เกิดจากความปรุงคิดแท้ ๆ ความปรุงคิดของในเรานี้แหละ  ที่ทำให้เกิดความชอบหรือไม่ชอบ  ความโกรธหรือไม่โกรธ...เมื่อความชอบหรือไม่ชอบ  ความโกรธหรือไม่โกรธ เกิดได้เพราะความปรุงคิด  จึงมิได้เพราะบุคคลภายนอกแต่เกิดจากตัวเองเท่านั้น

ตัวเองนี้แหละเป็นเหตุให้ชอบหรือไม่ชอบ โกรธหรือไม่โกรธ เวลาเกิดความไม่ชอบหรือความชอบ ความโกรธก็เกิดขึ้น จึงควรมีสติรู้ว่าตนเองเป็นผู้ทำให้เกิด ไม่มีผู้อื่นมาทำ เมื่อใจไม่ส่งออกไปโทษผู้อื่นว่าเป็นเหตุ ใจรับความจริงว่าตนเองเป็นเหตุ ความโกรธก็จะลดน้อยถึงหยุดลงได้ สำคัญต้องมีสติรู้ว่าความโลภ ความโกรธ ความหลง เกิดขึ้นเพราะความปรุงในจิตใจของเราเอง มิได้เกิดขึ้นเพราะบุคคลหรือวัตถุภายนอก
        
นี่พูดถึงเมื่อความโกรธเกิดขึ้นแล้ว ให้ดับด้วยการมีสติรู้ความจริงว่าตนเองเป็นผู้ทำ  แต่ถ้าพูดถึงการป้องกันมิให้ความโกรธเกิด จะต้องฝึกให้สติเกิดเร็วขึ้นอีก และดังกล่าวแล้วในตอนต้น ๆ จะต้องฝึกให้เกิดเหตุผลและปัญญา รวมทั้งเมตตากรุณาด้วย การฝึกในเรื่องเหล่านั้นจำเป็นต้องทำเมื่อความโกรธยังไม่เกิดขึ้นในจิตใจ หรือเมื่อเกิดแล้วแต่ดับแล้ว
        
เมตตากรุณาเป็นความรู้สึกตรงกันข้ามกับความโกรธ  ผู้ที่มีเมตตากรุณาในผู้ใดอยู่  ความโกรธในผู้นั้นจะเกิดไม่ได้เพราะเมตตาหมายถึงความปรารถนาให้เป็นสุข กรุณาปรารถนาจะช่วยให้พ้นทุกข์ เมื่อมีความรู้สึกดังกล่าวอยู่ในใจ  ความโกรธย่อมเกิดไม่ได้เป็นธรรมดา  การเจริญเมตตาจึงเป็นการแก้ความโกรธที่ได้ผล
        
ผู้เจริญเมตตาอยู่เสมอ เป็นผู้ไม่โกรธง่าย ทั้งยังมีจิตใจเยือกเย็นเป็นสุข ด้วยอำนาจของเมตตาอีกด้วย ผู้ใดรู้สึกว่าจิตใจเร่าร้อนนัก เมื่อเจริญเมตตาจะได้รู้สึกว่าเมตตามีคุณแก่ตนเองเพียงไร
        
แม้เมื่อเจริญเมตตาจะปรารถนาให้ผู้อื่นเป็นสุข แต่ผู้จะได้รับผลแห่งความสุขก่อนใครทั้งหมด  คือตัวผู้เจริญเมตตาเอง เช่นเดียวกันการคิดดีพูดดีทำดีทุกอย่าง  ผู้ที่ได้รับผลของความดีก่อนใครทั้งหมดคือตัวผู้ทำเอง และได้รับผลของความดีมากกว่าใครทั้งหมดก็คือตัวผู้ทำเอง  จึงควรคิดดูน่าจะคิดดีพูดดีทำดีกันเพียงใดหรือไม่  

: ฝึกใจไม่ให้โกรธ
: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก


                                                                                       
..............................................................................

ที่มา http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=41196

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้