ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 5434
ตอบกลับ: 6
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

>>บันทึกกรรม==>กรรมจากการขายพระปลอมโดยเจตนา<<

[คัดลอกลิงก์]
กรรมอันเกิดจากการปลอมพระเครื่องโดยเจตนา



             สมัยนั้นผมยังไม่ค่อยเล่น พระเครื่องเท่าไหร่ใครให้พระไรมาก็เก็บเฉยๆครับ มีวันหนึ่งผมไปเที่ยวหาเพื่อนที่บ้าน ผมเห็นเพื่อนกำลังต้มพระเครื่อง ผมตกใจเลยบอกเพื่อนว่า เพื่อนทำไมเอาพระไปทำอย่างนั้นมีแต่หลวงพ่อดังๆที่ศักดิ์สิทธิ์นะ เพื่อนผมบอกว่าไม่เป็นไรหลอกมันเป็นพระเก๊ไม่แท้ เด่วต้มเสร็จค่อยทอดในน้ำมันเนื้อจะได้เก่า จะได้ขายได้พุดแล้วเขาก็หัวเราะแล้วเขาก็พุดต่อว่าบ้างทีก็ฝังดินไว้ซักพักมันจะได้ดูเก่าๆ ผมเลยเตือนเพื่อนไปว่า ระวังบาปนะเพื่อนถึงจะไม่แท้แต่องค์เป็นรูปของพระที่ศักดิ์มากนะเช่นหลวงพ่อเดิม งาแกะ หลวงพ่อเงิน ยังมีอีกหลายหลวงพ่อเป็นต้น. เขาก็ยังเถียงผมว่าไม่บาปหลอกเราไม่เชื่อเพราะเราทำแต่ของเก๊ๆ ผมเลยหมดคำพูดเพราะคิดว่าเตือนอะไรไปมันคงไม่เชื่อ.เรื่องก็จบไปผมกลับเขาก็ไม่ค่อยได้เจอกันอีก มีวันหนึ่งผมไปตลาดเจอน้องสาวเขาก็ทักทายกัน น้องสาวบอกว่าพี่ไม่ไปเยี่ยมพี่ชายน้องหรอตอนนี้นอนโรงพยาบาลได้1เดือนกว่าแล้ว ผมก็ตกใจเลยถามว่าป่วยเป็นอะไรหรอ น้องสาวก็เล่าว่าพี่เขาต้มน้ำร้อนเตรียมจะผสมน้ำให้ลูกอาบแล้วยกหม้อน้ำร้อนไปจังหวะภรรยานั่งย่องหันหลังจับลูกอยู่ได้ลุกขึ้นหลังได้ไปชนหม้อน้ำร้อนที่สามีเขายกมา หม้อน้ำร้อนได้กระดกน้ำร้อนเทราดตั้งแต่คอลงมาเกือบถึงอวัยวะเพศ อาการสาหัสเลยทีเดียวน้องสาวเล่าว่าพี่เขาร้องทรมารทุกคืนวันต้องกินยาแก้ปวดทุกวัน ผิวหนังเละหมด น้องสาวเขาก็พุอเองเลยนะว่า หนูว่าพี่หนูชอบไปทอด ต้มพระแน่ๆกรรมเลยสนองหนูเห็นทำบ่อย ผมเลยถึงบางอ้อ เลยเพราะผมก็เคยเห็นมา1ครั้งแต่ผมลืมไปสนิทเพราะไม่ได้เจอเพื่อนคนนี้นาน สรุปนอนร้องทรมารจากบาดแผลนานถึง3เดือนเต็มต้องตัดหนังตรงสะโพกมาแปะทำสัญยกรรมบาดแผล สุดสยองจริงๆครับ ส่วนตัวผมเชื่ออย่างสนิทใจเลยว่าเพื่อนคนนี้โดนกรรมสนองแน่ๆครับ หรือท่านผู้อ่านคิดเหมือนผมป่ะครับ..



ข้อมูลจาก http://board.palungjit.com/f127/ ... 0%B8%B2-303603.html
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-12-15 08:47 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เมื่อปี พ.ศ.2550 กระผมได้เดินทางไปห้างจัสโก้ สี่แยกพัฒนาการ เห็นร้านขายวีซีดี เพลง
ด้านหน้ามีแผงพระตั้งอยู่ ปัจจุบันไม่เห็นแล้ว ช่วงนั้นได้พบกับพี่ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของ
แผงพระดังกล่าว มีการสนทนากันอย่างถูกคอ เพราะเป็นคนนิยมพระเครื่องเหมือนกัน พี่ชาย
เล่าว่า

กระผม (เจ้าของแผงพระ) มีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง เล่นพระเครื่องด้วย ทำพระปลอม และขายพระ
ปลอม ทำจนมีเงินเป็นกอบเป็นกำ และพระที่ปลอมส่วนใหญ่เป็นพระสมเด็จวัดระฆัง และสมเด็จ
วัดบางขุนพรหมจักรพรรดิ์แห่งพระเครื่อง การทำพระปลอม คนปลอมส่วนใหญ่เป็นนักเล่น
พระด้วย และพระปลอมที่ทำมาแต่ละองค์ ประมาณ 10-20 องค์แรก จะเหมือนจริงมาก ๆ
เพราะพิถีพิถันในการเก็บรายละเอียดพิมพ์ และตำหนิ เนื้อพระ จะถูกยิงเข้าสู่สนามพระเครื่อง
ท่าพระจันทร์ และบางลำภูงามวงศ์วาน หรือพันธ์ทิพย์ 2 สาเหตุเซียนพระในย่านนั้นเป็นที่ตั้ง
ของศูนย์พระระดับเซียนใหญ่ และเซียนแฟนพันธ์แท้หลายคน กำลังซื้อคนพวกนี้สูงมาก
ถ้าเซียนกลุ่มนี้รับซื้อในราคาพระแท้ แสดงว่าฝีมือคนปลอมพระเขาขั้น ตกตาคนพวกนี้ได้
และพระปลอมแต่ละองค์ คนปลอมพระจะทำตำหนิไว้ เพราะกลัวของ (พระปลอม) ย้อนกลับ
เพราะคนปลอมพระส่วนใหญ่เล่นพระเครื่องเกือบทั้งนั้น เขาขายพระสมเด็จปลอมในราคา
3 แสนบาท จนถึง 3 ล้านบาท แต่ส่วนใหญ่จะขายให้กับเศรษฐี ไม่ใช่เซียนพระ

และวันนั้นก็มาถึง เขาพบพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ที่ศูนย์พระแห่งหนึ่ง คนปลอมพระ
ดังกล่าวสนใจมาก เมื่อพบของแท้อยากได้ เพราะเป็นคนนิยมและเล่นพระเครื่องเหมือนกัน
หยิบมาส่องดู แล้วส่องดูอีก เป็นครึ่งชั่วโมงเพราะความชัวร์ แต่ติดที่ปัญหาการต่อรองราคา
เพราะเจ้าของพระสมเด็จ เปิดราคา 3,000,000.- บาท ได้มีการไปมาหาสู่กันถึง 5 ครั้ง
ทุกครั้งที่ไปต้องหยิบมาส่องทุกครั้ง พอครั้งที่ 5 ที่ไปหาก็หยิบมาพระสมเด็จดังกล่าวมาส่อง
ดูตั้งนาน จึงตัดสินใจต่อรองราคา สรุปพบกันที่ 2,500,000.-บาท พอนำพระสมเด็จกลับ
บ้าน หยิบมาส่อง เหงื่อแตกพลัก หน้าซีด เพราะเป็นพระสมเด็จปลอมที่เขาทำกับมือเอง
แต่ที่น่าแปลกทำไมถึงไม่เห็นตำหนิที่กันพระปลอมย้อนกลับ เพราะไปมา 5 ครั้ง ส่องพระ
ทุกครั้ง ครั้งสุดท้ายส่องเกือบครึ่งชั่วโมงก็ไม่เห็นตำหนิพระปลอมที่เขาทำ แต่กลับมาถึง
บ้านปรากฎขึ้นได้อย่างไร เวรกรรมมีจริง เขาตัดสินใจเดินทางไปหาเจ้าของพระทันที
แผงพระหาย ไปดักรอรายวันก็ไม่พบ หายเข้ากลีบเมฆ ปัจจุบันคนปลอมพระคนนี้ เงินที่
มีนับล้านหมดตัว ครอบครั้วแตกสะแหรกขาดแยกทางกับภรรยา ลูกชายติดยา ลูกสาวมั่ว
สุมผู้ชายติดยาต่างหาก ตัวเขาเองยอมรับกรรมทั้งหมด ถึงปรารภกับเพื่อนว่า ไม่ปลอม
พระและขายพระปลอมอีกแล้ว เวรกรรมมีจริงที่พระเขาว่า เชื่อแล้ว


ที่มาhttp://www.maameu.net/forum/index.php?topic=6936.0;wap2
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-12-15 08:48 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
กรรมสนอง “คนปลอมพระ”

     ไม่อยากเขียนเรื่องนี้เท่าไหร่นักหรอก แต่มันเป็นความจริงที่เกิดขึ้นในมุมหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งเข้ากับบรรยากาศอย่างพอดิบพอดีที่บรรดาเซียนน้อยเซียนใหญ่และผู้นิยมพระรุ่นใหม่รุ่นเก่าทั้งหลายในปัจจุบันกำลังฝ่ามรสุม “ล่าฝัน” ตามหาพระแท้พระดี ขณะที่คนอีกกลุ่มหนึ่งกลับฉวยโอกาสเอาเปรียบและสร้างความทุกข์ใจให้คนอื่น ๆ เพียงเพื่อ “เงิน” อย่างเดียว โดยไม่นึกถึงบาปบุญคุณโทษแม้แต่น้อย สุดท้ายพวกเขาเหล่านั้น “ไม่ตายดี” และ “ศพไม่สวย” อย่างอนาถ

     ในที่นี้ขอสงวนชื่อและนามสกุลจริงของบุคคล ที่อยู่อาศัย ตลอดจนข้อมูลบางส่วนที่ปรากฏในเรื่อง จะขอบอกเล่าเพียงพฤติกรรมและพฤติการณ์อันโสมมให้ทราบกันเท่านั้น

     ณ จังหวัดหนึ่งในภาคกลางค่อน ๆ เกือบจะเข้าสู่ภาคเหนือ ในแวดวงคนนิยมพระและเซียนพระรุ่นใหม่รุ่นเก่าประจำท้องถิ่น หากเอ่ยชื่อขึ้นมาคงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก “เฒ่าปาน” หรือ “ลุงปาน” เป็นแน่

     ตั้งแต่วัยเด็ก ย่างเข้าวัยรุ่นจนถึงวัยชรา เฒ่าปาน อาศัยเลี้ยงปากท้องกับการขายของเก่าทุกชนิด ไม่เว้นพระเครื่อง พระบูชา พระยอดนิยม ไม่ว่าเกจิอาจารย์คนไหนหรือกรุใด ๆ ทั่วสยามประเทศ ไม่เคยรอดพ้นเงื้อมมือเฒ่าปานผู้ยิ่งยงไปได้เลย

     ด้วยความเชี่ยวชาญและโชกโชนในอาชีพมายาวนาน แน่นอนไม่ว่าพระดี เกจิดัง หรือพระกรุต่าง ๆ เฒ่าปานมองดูเพียงปราดเดียวก็ฟันธงได้เลยว่า “พระแท้-พระเก๊” ดังนั้นในบ้านหลังน้อย ๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตรงข้ามตลาดตัวเมือง ทุกเย็นมักมีคนที่นับถือในสายตาอันเฉียบคมของ เฒ่าปาน แวะเวียนมานั่งคุยและขอความรู้เกี่ยวกับวิชา “ดูพระแท้” อยู่เสมอมิได้ขาด

     เมื่อมีคนมาหามากเข้า ความคิดอันแยลยลก็บังเกิดขึ้นมาในหัวสมองของเฒ่าวัยกว่าครึ่งร้อย แกเลยตั้งตัวเป็นปรมาจารย์พระเครื่องตัวยงแห่งยุคประจำท้องถิ่นซะเลย ไม่ว่าใครอยากได้พระแท้พระสวย กี่องค์ กี่ราคา กี่เกจิอาจารย์ แกจะไปสรรหามาให้ได้ครบถ้วนทุกกระบวนความ

      เป็นธรรมดาเมื่อของไปเงินมา ทำให้ฐานะทางการเงินของ เฒ่าปาน สะพัดและคล่องดีขึ้นกว่าเดิม ถึงขั้นมีเงินฝากในธนาคารนับล้านบาท ที่สำคัญนักนิยมพระรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ยกย่องให้แกเป็น “ผู้วิเศษ” แห่งวงการ เดินไปทางไหนผู้คนก็ทักทายเกรียวกราว นั่นเป็นสิ่งที่แกภูมิใจมากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต

     แต่ชีวิตของคนเราย่อมมีขึ้นและมีลงตามสัจธรรมแห่งความจริงในโลกใบนี้ เมื่อของดี-ขอ

งแท้หายากมากขึ้น เฒ่าปาน จึงตัดสินใจปั๊มและทำพระปลอมออกมาขายมันซะเลย พระดังพระสวยทุกรุ่นใครมาขอเช่าบูชาจากแกไม่เคยผิดหวัง ใครมาเสาะหาเป็นได้ติดไม้ติดมือกลับบ้านไปนอนฝันหวานกันทุกคน แต่จะเป็นของดีหรือของแท้หรือไม่ คิดเอาเอง

     เฒ่าปาน ดำรงชีวิตอยู่ด้วยการขายหรือให้เช่าพระปลอมอยู่หลายปี ก็เจอดีจนได้ เมื่อมีเซียนพระรุ่นหลานทายาทขาใหญ่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ให้ช่วยหา เหรียญรุ่นแรกเกจิชื่อดังให้ 1 เหรียญ สนนราคาได้ยินได้ฟังแล้วน้ำลายหก

      เฒ่าปาน ไม่พลาดรีบจัดการปั๊มเหรียญที่ลูกค้าต้องการและตกแต่งจนเก่าคร่ำคร่า ครบครันทั้งคราบไคลและร่องรอยผ่านการใช้ รวมทั้งความเก่าของเนื้อโลหะที่นำมาผสมปั๊ม ชนิดเซียนมือใหม่เห็นแล้วต้องร้อง “อู้ฮู สวยกริบ ๆ เลยลุง” ประมาณนั้นเลย

     ขายเหรียญเก๊สวยไปเรียบร้อยแล้ว เฒ่าปาน ได้เงินเข้ากระเป๋าหลายแสน ไม่รอช้าพาเมียสุดที่รักไปเที่ยวซื้อของในตลาดแถมดินเนอร์อาหารเย็นเป็นของแถมชื่นมื่นอีก 1 มื้อ

      ผ่านไป 3 วัน เซียนพระรุ่นหลานทายาทขาใหญ่ก็หวนกลับมาพร้อมเพื่อนอีก 3-4 คน พลันที่จอดรถปิกอัพแต่งซิ่งหน้าบ้าน ก็กรูเข้าไปพบปะหน้า เฒ่าปาน กำลังนั่งซดเบียร์อารมณ์ดีแถมฮัมเพลงมนต์รักลูกทุ่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนข้างบ้าน

     “มึงไปเอาตัวมันมา” เสียงเข้มของเซียนพระรุ่นหลานดังกังวานและน่าเกรงขาม สิ้นเสียงพวกไม่รอช้ากรูไปลากตัว เฒ่าปาน มานั่งกองกับพื้นดิน ไม่นานก็มีเสียง “ผัวะ ผัวะ ผัวะ” จากรองเท้าของเซียนรุ่นหลานกระทบกับใบหน้าของเซียนวัยดึก พร้อมกับเสียงคำราม “ไอ้...มึงกล้าขายพระปลอมให้กูหรอ รู้ไม๊ กูเป็นใคร ไอ้...อย่าอยู่เลยมึง” จากนั้นทั้ง 4 คนก็ช่วยสกรัมคนละตุ้บ 2 ตุ้บทั่วร่าง เฒ่าปาน จนน่วมอ่วมอรทัย กระอักเลือด

     ไม่หนำใจและยังไม่สาสมกับความเจ็บใจ เซียนพระรุ่นหลานชักปืนพกดำมะเมื่อมออกจากเอวจ่อที่หน้าผากของ เฒ่าปาน น่าจะเป็น 11 มม. หรือไม่ก็ .38 ซุปเปอร์ แต่โชคยังดีชะตา เฒ่าปาน ไม่ถึงฆาต บังเอิญเมียรักของเฒ่าปานออกมาเห็นเข้าร้องตะโกนเรียกชาวบ้านมาช่วยได้ทันท่วงทีเสียก่อน ทำให้กลุ่มเซียนพระนักเลงวิ่งไปที่รถกลับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

     เหตุการณ์ที่ เฒ่าปาน ประสบเหตุ “สกรัมหมู่” ได้รับการเล่าขานในหมู่นักนิยมพระประจำท้องถิ่นยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง ทำให้ความน่าเชื่อถือของแกลดลงไปในทันใด ศาลาริมแม่น้ำที่เคยเป็นศูนย์รวมเซียนใหญ่น้อยเงียบเหงา ไม่มีใครมาเยือนอีกต่อไป

     อนิจจา เฒ่าปาน ผู้ทระนงแห่งวงการพระเครื่องถูกทอดทิ้งให้อยู่โดดเดี่ยวเดียวดาย ยังไม่พอ เหมือนเวรกรรมตามสนองไม่หยุดยั้ง เหตุการณ์ที่ถูกทำร้ายคราวนั้นทำให้ เฒ่าปาน กลายเป็นคนปากเบี้ยว และเป็นอัมพฤกษ์ ไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้เหมือนก่อน เป็นคนพิการ เงินทองที่เก็บหอมรอมริบไว้ก็เบิกออกมารักษาตัวจนหมดเกลี้ยงก็ยังไม่หาย ไปกู้หนี้ยืมสินมารักษาถึงขั้นขายบ้านขายที่ใช้หนี้ก็ยังไม่พอ จนลูกเมียหอบข้าวของหนีไปที่อื่นกันหมด ปล่อยให้ เฒ่าปาน นอนรอความตายในศาลาริมแม่น้ำเจ้าพระยาคนเดียว

     ในวันที่แกตาย ชาวบ้านระแวกนั้นได้ยินเสียงแกร้องโหยหวนว่า “อย่ามาเอากูไป อย่ามาเอากูไป กูสาบานจะไม่ทำพระปลอมขายอีกแล้ว ทรมานเหลือเกิน ช่วยด้วย ช่วยด้วย” พักเดียวเสียงก็เงียบลงพร้อมลมหายใจสุดท้ายแห่งชีวิตของ เฒ่าปาน ปิดตำนานเซียนพระผู้เคยยิ่งใหญ่ชั่วนิรันดร์.


ขอบคุณข้อมูลจาก : https://sites.google.com/site/pa ... -sraththa-patihariy
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-12-15 08:48 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ใครเคยเห็นหรือรู้ว่าคนหลอกลวงขายพระปลอม(ทั้งๆ ที่รู้ว่าปลอม) ได้รับกรรมอย่างไรบ้าง???

     ไม่ต้องมองดูไกล ในสนามพระนี่แหละ  คนขายพระปลอม ทั้งๆ ที่รู้   ต่อๆ ไปคนในสนามก็ไม่คบค้าสมาคมด้วย  ตั้งแผง และอยู่อย่างโดดเดี่ยว   ก็คงนั่งรอให้หมูตัวใหม่ เข้ามาติดกับอีก ส่วนคนที่เคยรู้พฤติกรรม ต่างไม่เข้ายุ่งหรอก  มีแต่กระซิบบอกต่อๆ กันไป ว่านายคนนี้อย่าไปยุ่งกับมันเชียว  คนประเภทนี้ สังคมรังเกียจครับ  ... บางที คนขายตัว ยังดูประเสริฐกว่า รู้ว่าตัวเองเป็นโรค ก็หวังดีกระซิบบอกให้เราป้องกัน   แต่มนุษย์จำพวกนี้ มีแต่นิยาย มาเล่า แต่งเรื่องเก่งอีกต่างหาก  ... สรุป กรรมที่ทำไว้ หมดมิตร สร้างศัตรู .. แล้วจะเจ็บตัวภายหลัง

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.web-pra.com/Forum/Topic/Show/6749/Page/1

เยี่ยมๆๆๆ
เป็นอุทาหรณ์เตือนใจครับ
7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2020-1-19 08:35 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้