สมเด็จแช่น้ำมนต์ หลวงพ่อชม วัดเขานันทาสุภาพ

Sornpraram

จากเหตุที่ผมได้โทรถามพี่ชายถึงเรื่องพระสมเด็จแช่น้ำมนต์หลวงพ่อชมองค์นี้ พี่ชายเล่าว่า โดยอุปนิสัยของพี่ชายตั้งแต่เด็กแล้ว ผมรู้ว่าพี่ชอบฟังเรื่องราวจากปากของเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ที่พี่อยากจะทราบกับเจ้าของเรื่องเลย ในตอนที่พี่ชายได้พระมาจากรุ่นพี่ที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อชมนั้น รุ่นพี่ได้เล่าให้พี่ชายฟังว่าพระชุดนี้เฮียพันเป็นคนสร้างถวายหลวงพ่อ และยังมีอีกหลายชุดเช่นล็อคเก็ตรุ่นแรก พิมพ์แซยิด พิมพ์พระปิดตา (เฮียพันเป็นหมอยา มีีฝีมือในการสร้างพระ บ้านอยู่ตลาดพลู เป็นลูกศิษย์ที่เคารพนับถือหลวงพ่อชมมาก ท่านได้สร้างพระถวายหลวงพ่อชมหลายรุ่นกับเพื่อนๆของเฮีนพัน ไม่มีเกี่ยวข้องกับธุรกิจ สร้างถวายด้วยความศรัทธาหลวงพ่อ ในปัจจุบันนี้เฮียพันยังมีชีวิตอยู่ และได้บวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ที่วัดแห่งหนึ่งแถวตลาดพลู ผมไม่ขอเอ่ยชื่อวัดนะครับ ) เฮียก็รู้จักกับพระพันดีมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว พระพันอายุมากกว่าพี่ผม ก็เปรียบเสมือนเป็นรุ่นพี่รุ่นใหญ่ พี่ผมโดยนิสัยเป็นคนตรง มีสัมมาคาราวะแก่ผู้ใหญ่ จึงเป็นที่รักแก่รุ่นพี่และเพื่อนๆของเขา เมื่อพี่ชายทราบเรื่องราวแบบนี้ว่า พระพันเป็นผู้สร้าง จึงทำให้อยากจะทราบประวัติแบบแท้ๆจากปากผู้สร้างมากๆคั่งค้างใจมานาน  จนมีครั้งหนึ่งพี่ชายได้มีโอกาสไปกราบนมัสการพระพันที่วัดแห่งนี้ ได้นั่งคุยกันถึงเรื่องเก่าๆกับพระพันอยู่หลายชั่วโมงเป็นที่สนุกสนาน ได้มีโอกาสถามประวัติพระหลายๆรุ่นที่พระพันสร้าง จนมาถามถึงเรื่องพระสมเด็จแช่น้ำมนต์ว่ามีประวัติการสร้างอย่างไร มีมวลสารอะไรบ้าง มีดีอย่างไร

เฮียเล่าให้ฟังว่าพระพันได้เล่าว่า ในปัจจุบันตัวท่านเองยังไม่มีเหลือซักองค์เลยรุ่นนี้ ท่านเล่าว่าส่วนตัวท่านเองก็ศรัทธาสมเด็จโตมาก จึงมีความคิดว่าอยากจะสร้างพระพิมพ์คล้ายสมเด็จวัดระฆังสักครั้งหนึ่งในชีวิต เพื่อถวายหลวงพ่อชม จึงมีความคิดว่าต้องไปขออนุญาตสมเด็จโตก่อนว่าท่านจะอนุญาตหรือไม่ มีวันหนึ่งท่านได้ไปที่วัดระฆัง โดยตั้งใจว่าจะไปขออนุญาต เมื่อจะไปวัดระฆังก็เลยถือโอกาสนำอาหารไปถวายแม่ชีที่วิหารสมเด็จโตด้วย พระพันเล่าว่าในการขออนุญาตสมเด็จโตนั้น พระพันใช้วิธีเสี่ยงทายโดยใช้วิธีการ เซ่งปวย ๓ ครั้ง ( ที่เป็นไม้คล้ายๆถั่วประกบคู่โยนคว่ำหงาย ตามศาลเจ้าจีนมีทุกที่ คนจีนเชื่อว่า ถ้าเสี่ยงทาย ไม้คว่ำทั้ง ๒ อัน แสดงว่าไม่ให้ ถ้าหงาย ๒ อัน คือไม่รับและไม่ปฏิเสธ ถ้าคว่ำอันหงายอัน คือให้หรืออนุญาต ) พระพันได้เสี่ยงเซ่งปวยขออนุญาตที่วิหารสมเด็จโตต่อหน้ารูปหล่อท่าน ปรากฏว่าในวันนั้นพระพันโยนไม้เซ่งปวยคว่ำอันหงายอันได้ทั้ง ๓ ครั้ง ท่านจึงดีใจว่า สมเด็จโตท่านอนุญาตให้สร้างพระ  เมื่อกลับมาจึงไปกราบขออนุญาตหลวงพ่อชมอีกครั้ง และเล่าเรื่องให้หลวงพ่อฟัง หลวงพ่อท่านก็อนุญาตให้สร้าง พระพันกับเพื่อนๆที่มีฐานะก็เริ่มสร้างบล็อคเป็นพิมพ์สมเด็จวัดระฆัง จะสร้างแบบกดมือโบราณตัดขอบแบบโบราณ แต่ด้านหลังจะเป็นยันต์กดจมของหลวงพ่อชมคือ ยันต์พระศรีอริยเมตตรัย พระพันเล่าว่าหลวงพ่อชมท่านได้ให้ผงของท่านมา ๑ หลอดเท่าประมาณนี้ พี่ว่าพระพันพูดแล้วก็ชี้ไปที่หลอด พี่ว่าพี่ดูแล้วประมาณขวดยานัตถุ์หมอมี พระพันเล่าต่อว่า มีพระที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อ เมื่อทราบว่าจะมีการสร้างพระถวายก็มอบผงเจ้าคุณนร ใส่โถมา ๑ โถ อาจารย์พรหมประกาศิต ที่เป็นฆาราวาสลูกศิษย์หลวงพ่อทราบข่าวว่าจะสร้างพระถวายอาจารย์จึงมอบผงเก่าที่ท่านค่อนข้างหวง มาร่วมถวายด้วย และผงวิเศษหลายๆที่อีกเล็กๆน้อยๆอีกมาก จึงสรุปว่ามีผงหลักๆอยู่ ๓ อย่าง พระชุดนี้พระพันว่า ความตั้งใจก็กะจะสร้างไม่มาก และอยากให้มีเนื้อหาพระแบบเข้มข้น แต่พอสร้างได้ร้อยกว่าองค์ปรากฏว่า น้ำมันตั่งอิ้วหมด พระพันจึงให้เพื่อนไปซื้อมาใหม่ ปรากฎว่าเมื่อเพื่อนพระพันซื้อมาแล้ว ตั่งอิ้วใหม่นี้ความเข้มข้นไม่เหมือนเดิม ประมาณว่าสร้างพระออกมาแล้วไม่เหมือนเดิม พระพันจึงว่าสมเด็จท่านคงให้สร้างเพียงแค่นี้ เมื่อได้พระจำนวนเท่านี้ก็เท่านี้ เมื่อพระแห้งดีเรียบร้อยแล้ว จึงนำไปถวายหลวงพ่อชมกับกลุ่มเพื่อนๆ และได้เล่าเรื่องราวให้หลวงพ่อฟัง พระพันเล่าว่าปกติหลวงพ่อชมท่านเป็นพระที่ไม่ค่อยพูด แต่พอหลวงพ่อเห็นพระชุดนี้หลวงพ่อได้พูดขึ้นว่า " พระรุ่นนี้ดี เสียดายทำน้อยไปหน่อย ในวันหลังหญิงชายจะแย่งกัน " และหลวงพ่อก็สั่งให้นำไปแช่น้ำมนต์เป็นเวลา ๓ ไตรมาส พระพันว่าเมื่อน้ำมนต์แห้งก็จะมีแม่ชีที่วัด ที่ชื่อแม่ชีวงเดือนจะคอยเติมน้ำตลอดเวลา พระพันเล่าว่าพระชุดนี้สร้างในบั้นปลายชีวิตของหลวงพ่อ เหมือนหลวงพ่อจะรู้ด้วยญาณของท่านรึเปล่าก็ไม่ทราบ เมื่อหลวงพ่ออธิษฐานจิตไปได้ ๒ ไตรมาส ก็บอกพระพันว่าใช้ได้แล้ว ให้นำขึ้นมาแจกกัน พระพันเล่าว่าเพื่อนๆของพระพันแต่ละคนก็มีฐานะกันทั้งนั้น เช่นเจ้าของกิจการใหญ่ทำเสื้อยกทรง เจ้าของวัสดุก่อสร้าง เมื่อทราบว่าพระมีจำนวนน้อยร้อยกว่าองค์ และหลวงพ่อพูดด้วยว่า " พระรุ่นนี้ดี เสียดายทำน้อยไปหน่อย ในวันหลังหญิงชายจะแย่งกัน " แต่ละท่านก็เช่าบูชาทำบุญให้หลวงพ่อกันจนหมด ไม่มีเหลือให้คนภายนอกได้บูชา ไม่มีการตั้งราคา พระพันเล่าว่าแต่ในตอนนั้น ลูกศิษย์มีฐานะรุ่นใหญ่ทำบุญให้หลวงพ่อองค์ละ ๕,๐๐๐ บาทมั่ง บางคนทำบุญให้หลวงพ่อองค์ละ ๑๐,๐๐๐ บาท ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว พระชุดนี้จึงอยู่ในมือกรรมการที่ร่วมสร้างและศิษย์ที่มีฐานะในตอนนั้นทั้งหมด หลังจากนั้นไม่นานหลวงพ่อก็ละสังขาร

พี่เล่าว่าพระชุดนี้เราหมดสิทธิ์ที่จะพบเห็น พบเห็นได้ยาก เพราะแต่ละคนที่จะบูชาพระชุดนี้ไปในตอนนั้น ล้วนแต่เป็นมีฐานะทั้งนั้น เฮียเหล่านั้นสักการะอยู่ยากที่เขาจะออกมาปล่อย องค์นี้เฮียได้มาจากกลุ่มเพื่อนพระพันที่ชื่อ... (ผมขอไม่เอ่ยนามเพราะยังไม่ได้อนุญาต) เป็นกรรมการใหญ่ในกลุ่มพระพันที่รู้จักกับเฮีย เขาเมตตาให้เฮียมาสักการะ เฮียสะสมพระมาจนป่านนี้ยังพบแค่องค์เดียวนี้แหละยังไม่เห็นองค์ที่ ๒ เลย ก่อนหน้านี้ก็ได้ยินแต่เรื่องเล่า ลื้อก็รู้นิสัยเฮียว่า เฮียชอบฟังเรื่องจากปากผู้สร้างเอง เฮียก็ยังยืนยันคำเดิม เราบูชาสักการะให้น้องๆลูกหลานไม่กี่องค์ แต่ต้องให้สวยๆสมบูรณ์ๆแบบองค์เดียวจบไม่อายใคร ฉนั้นพระที่เฮียเก็บไว้ให้น้องๆ จึงชอบแบบส่วนตัวเฮียนะ คือแบบประเภทมีที่มาดีประเภทพระบ้าน หรือพระที่ได้จากลูกศิษย์ใกล้ชิด เท่านั้นยังไม่พอถ้าเป็นไปได้ก็อยากทราบประวัติจากผู้สร้างเองด้วย ผมก็ถามว่าที่เฮียบอกว่าบริษัทยกทรงที่เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อชื่อบริษัทอะไร (เฮียก็บอกชื่อมา) ผมก็ว่า เฮ้ยเฮียบริษัทนี้เคยจ้างผมพิมพ์กล่องยกทรง มีพนักงานหลายพันคน เฮียก็ว่าถ้างั้นลื้อลองคุยกับเถ้าแก่เขาดูเผื่อเถ้าแก่เขาจะเมตตาลื้อ ผมก็บอกว่า เฮียเขาใหญ่ขนาดนี้ผมไม่มีทางพบเถ้าแก่เขาได้หรอก ได้ติดต่อถึงแค่ผู้จัดการจัดซื้อเท่านั้นก็หรูแล้ว

ผมจึงบอกเฮียต่อว่า เออ..เฮียถ้าลื้อมีมาตรฐานแบบนี้ถึงขนาดนี้ อั้วคิดว่าต่อไปอั้วคงไม่ได้พระเพิ่มจากเฮียอีกแล้วละ เพราะลื้อคงหาไม่ได้อีกแล้วมาตรฐานขนาดนี้ของลื้อ สองคนพี่น้องก็หัวเราะและจบการสนทนากัน......

ข้อความจาก...คนตลาดพลู



สมเด็จแช่น้ำมนต์ หลวงปู่ชม อนํคโณ สำนักสงฆ์เขานันทาพาสุภาพ (วัดทุ่งยาว) ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตาคามจ.ปราจีนบุรี พระสมเด็จรุ่นนี้สร้างไม่เยอะครับจำนวนแค่หลักร้อยต้นๆหลังโรยแร่เหล็กเปียกจากยอดพระธาตุพนม จ.นครพนม เป็นแร่ที่มีความสักศิทธ์เทียบเท่าเหล็กไหล คุณสมบัติป้องกันฟ้าผ่า นำมาโรยด้านหลังพระสมเด็จรุ่นแช่น้ำมนต์ หลวงปู่ชมได้อธิษฐานจิต และแช่น้ำมนต์ตลอด2พรรษา

Sornpraram

Sornpraram