ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
ตำนาน เรื่องเล่า เกร็ดความรู้ เรื่องลี้ลับ
»
ถ้ำนางสิบสอง' อเมซิ่งเมืองรองที่พนัสนิคม
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 1995
ตอบกลับ: 2
ถ้ำนางสิบสอง' อเมซิ่งเมืองรองที่พนัสนิคม
[คัดลอกลิงก์]
oustayutt
oustayutt
ออฟไลน์
เครดิต
22903
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2018-7-17 22:34
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
“ถ้ำนางสิบสอง” เป็นที่ท่องเที่ยวที่ลองมาเที่ยวดู แล้วก็แปลกใจ เคยได้ยินชื่อ “ถ้ำนางสิบสอง” มานานตั้งแต่สมัยยังเด็กแม่เล่าให้ฟังว่า...
เด็กหญิงสิบสองคน ถูกพ่อกับแม่ออกอุบายนำตัวไปปล่อยทิ้งไว้ในป่า เพราะหาได้ไม่พอกิน ปล่อยครั้งแรกเด็กหญิงสิบสองคนก็หาทางกลับมาได้ ต้องนำกลับไปปล่อยอีก 2 ครั้งถึงหาทางกลับบ้านไม่ได้ พากันร้องกระจองงอแง เสียงร้องของเด็กๆ ได้ยินมาถึง “นางยักษ์” ที่ชื่อ “สนธมาล” นางยักษ์พอเห็นเข้าเกิดเอ็นดูรักใคร่นำไปเลี้ยงเป็นลูกอุ้มชูอย่างดี ทั้งยังกำชับห้ามคนของตัวเปิดเผยร่างยักษ์ แต่ความลับไม่มีในโลกเด็กๆ ไปรู้ไปเห็นหลักฐานกองกระดูกมนุษย์มากมายจึงพากันหนี จนไปเจอ “ท้าวรถสิทธิ์” ก็เกิดพอใจกันอีก
“ท้าวรถสิทธิ์” เลยโชคดีมีภรรยาทีเดียวสิบสองคน แต่นางทั้งสิบสองหรือคนทั่วไปเรียกว่า “นางสิบสอง” โชคดีไม่นาน เพราะ “นางสนธมาล” มีแรงแค้นว่าถูกทรยศหลอกให้รักแล้วหนี สืบจนรู้ว่าอยู่ไหนก็ตามมาเอาคืน ใช้เล่ห์จน “ท้าวรถสิทธิ์” หลงงมงาย ออกคำสั่งจับนางทั้งสิบสองควักลูกนัยน์ตา ตอนนี้ค่อนข้างสยดสยอง
ตัวละครเอกของเรื่องมีนางสิบสอง พระรถลูกชายของนางเภากับท้าวรถสิทธิ์ และนางเมรี ลูกสาวบุญธรรมของนางยักษ์สนทมาล และตัวของนางยักษ์สนทมาลเอง ประวัตินางสิบสองนี้เดิมทีหลายคนเข้าใจว่าเป็นเพียงเรื่องเล่าต่อกันมา แต่ “ชาวพนัสนิคม” บอกว่าเป็นเรื่องจริงมีสถานที่จริง
ถ้ำที่ท้าวรถสิทธิ์จับนางทั้งสิบสองมาขังไว้ยังปรากฏปากทางเข้าถ้ำให้เห็น ปัจจุบันชื่อ “ตำบลหมอนนาง” ก็มีที่มาจากก้อนหินรูปร่างคล้ายหมอน 12 ก้อนที่อยู่หน้าถ้ำ “นางสิบสอง” เดี๋ยวนี้กระจัดกระจายไปอยู่ตามวัดต่างๆ ในเมืองพนัสนิคม
“ถ้ำนางสิบสอง” พบครั้งแรกมีสภาพเป็นป่าค่อนไปทางทึบ บรรจง คนที่เฝ้าสถานที่บอกว่าเดิมกินพื้นที่ถึง 80 ไร่ ปัจจุบันมีเพียง 4 ไร่ ถ้ำนางสิบสองในวันนี้อยู่ระหว่างฟื้นความหลังให้นักท่องเที่ยวมองเห็นภาพอดีต ลงทุนจำลองรูปนางทั้งสิบสองขึ้นมาในงานปั้น กำหนดจัดวางให้นั่งในศาลาที่เปิดโล่ง ความขลังและน่าค้นหาในวันนี้น่าจะเป็นป้ายปักบอกสถานที่ว่า “ถ้ำนางสิบสอง” และเกร็ดปาฏิหารย์สำหรับคนฝากความหวังไว้กับตัวเลข
ไปพนัสนิคมเที่ยวนี้ไม่เสียเปล่าได้เที่ยว “ถ้ำนางสิบสอง” ตำนานเมืองพระรถเมรี หนึ่งในตำนานเรื่องเล่าพระรถเสนชาดกในคัมภีร์พระเจ้า 50 ชาติของไทยล้านนา ที่เขียนและบอกเล่าโดยพระภิกษุชาวล้านนา ในปี พ.ศ.2000 จากบันทึกระบุถึงพื้นที่ทางประวัติศาสตร์เมืองพระรถเสน ครอบคลุมพื้นที่ถึง 4 อำเภอ คือ พนัสนิคม อำเภอพานทอง อำเภอบ่อทอง และอำเภอเกาะจันทร์
“ถ้ำนางสิบสอง” สถานที่ท่องเที่ยวอ้างอิงทางประวัติศาสตร์ที่อัดแน่นในเมืองเล็กๆ ส่วน “หมอนนางสิบสอง” ที่กลายเป็นหิน แม่เคยพาไปดูมีไว้ให้เห็นอยู่ที่วัดโคก หรือวัดเนินหลังเต่า ตำบลหมอนนาง แม่เล่าว่ามีวัดไตรทองตั้งอยู่ ไม่มีหลักฐานว่ามีโบสถ์อยู่ตรงไหน มีแต่ปากถ้ำกว้างไม่เกินวา มีเครื่องใช้ไม้สอยของวัดเก็บไว้
บ้านไหนทำบุญก็จะมาจุดธูป 3 ดอก ตะโกนเสียงดังยืมของที่ต้องการ จุดธูปเช้าได้บ่าย จุดบ่ายได้เย็น ไม่มีใครเห็นว่าพระหรือเณรนำของมาวางให้ยืม แต่ที่แน่ๆ คนมายืมไม่ค่อยคืนของ เดี๋ยวนี้เลยไม่มีของให้ยืมอีกต่อไป จุดธูปหมดห่อก็อย่าได้หวังมีของมาให้ยืม
พระเครื่องดินเผาและพระพุทธรูปอยุธยาหลายสิบองค์ถูกขุดพบโดยบังเอิญในปี พ.ศ.2530 เป็นที่มาของพระเครื่องสมัยอยุธยามาจนทุกวันนี้
นโยบายของรัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬา “วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หนุนให้เที่ยวเมืองรอง พนัสนิคมไม่ใช่เมืองรองแต่ลองมาเที่ยวดู วันที่มาเช็งเม้งปีนี้เลยได้กำไร เที่ยวตามแนวคิดเจาะเมืองรองเที่ยวเมืองเล็ก ในทางเศรษฐกิจแล้วถือว่าคุ้มได้ทั้งไหว้บรรพบุรุษและเที่ยวไม่ไกล
ปัญหาการกระจุกตัวของนักท่องเที่ยวในที่เที่ยวหลักๆ มีทั้งปัญหาแย่งกันกินแย่งกันอยู่ ที่จอดรถไม่พอ เกิดมาเฟียในพื้นที่ เพราะผลประโยชน์สูง กระจายที่เที่ยวแบบนี้ ผลดีเกิดขึ้นเต็มๆ กับนักเที่ยวและท้องถิ่น เป็นทฤษฎีแห่งความสุขแบบไอน์สไตน์ เมื่อแหล่งเที่ยวถูกกระจายผู้คนก็ไม่ต้องแย่งกันพักผ่อน ไม่ต้องแย่งกินของอร่อย
เพราะของอร่อยที่ไม่เคยกินยังมีอีกมากที่เราไม่เคยรู้ อย่าง เมืองพนัสนิคม ที่มี “ถ้ำนางสิบสอง” มีก๋วยเตี๋ยวเป็ดตำรับพนัสนิคมที่อร่อยมาก กล้วยทอดที่นี่ก็ไม่เหมือนที่อื่นเป็นยังไงต้องหาโอกาสไปชิมกันเอง
ทฤษฎีกระจายความสุขของ “วีระศักดิ์ โค้วสุรัตน์” จึงสอดคล้องกันดีกับนโยบายรัฐบาล คืนความสุขให้ประชาชน ธุรกิจท่องเที่ยวปรับแนวเข้าหาอดีต หยิบประวัติศาสตร์มาช่วยดึงคนให้เที่ยวให้ใช้จ่าย “สงกรานต์” ปีนี้ความสุขจึงกระจายไปทั่วถึงคนขายชุดไทยย้อนยุค นโยบายเที่ยวเมืองรองของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจึงเปรี้ยงปร้าง เป็นการสร้างธีมท่องเที่ยวได้เหนือชั้นจริงๆ ยิงนกทีเดียวได้หลายตัว.
…............................................
คอลัมน์ : ชำเลืองเมือง
โดย “แรมทาง”... อ่านต่อที่ :
https://www.dailynews.co.th/article/637214
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
oustayutt
oustayutt
ออฟไลน์
เครดิต
22903
2
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2018-7-17 22:44
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
3
#
โพสต์ 2019-8-16 06:58
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...