ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 2458
ตอบกลับ: 6
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด!! เปิด..ตำนาน ไม้เท้าคู่กายของหลวงปู่โง่น โสรโย เผย..ท้าวหิรัญพนาสูร มอบให้..ไว้ป้องกันอันตราย ขณะไปธุดงค์ในป่าลึก !!

[คัดลอกลิงก์]
  จากหนังสือ เรื่องราวที่หลวงปู่โง่นบันทึกไว้ด้วยตัวของท่านเอง ถึง รอยกรรมตำนานพระสุพรรณกัลยา ที่ก่อนหน้านั้นไม่มีใครรู้จัก  หลวงปู่เลย แล้วท่านได้ ถูกแรงกรรม ดลบันดาลใจให้ท่าน ไปอยู่เมืองพม่า และได้สัมผัส ดวงวิญญาณของ พระสุพรรณกัลยา แบบไม่ได้ตั้งใจ  หลวงปู่ท่านได้ ปลดปล่อย พันธนาการแห่งอาคมหมอผีพม่า ที่ได้กักขัง ดวงวิญญาณพระสุพรรณกัลยา ตั้งแต่ เสด็จสวรรคต ก่อนที่พระนเรศวรเจ้า ท่านจะกอบกู้กรุงศรีอยุธยาครั้งนั้น ซึ่งระหว่างเดินทางท่านได้พบกับ อทิสมารกาย ชื่อ หิรัญพนาสูร ที่อยู่ในป่าแถบด่านเจดีย์สามองค์เนื้อความมีว่า




  เวลาอัสดงของวันนั้น เรากำลังเดินจงกรม อยู่ด้วยความสงบ เดินไปเดินมาอย่างช้า ได้ยินแต่เสียงวิหค นกกามาส่งเสียงเจื้อยแจ้ว หาที่นอนตามธรรมชาติของมัน ในขณะนั้นเอง เราเห็นนายพรานป่า ที่น่าสะพรึงกลัว เพราะบนหัว แกโพกผ้าสีแดง มือทั้งสองถือปืนยาว แบกปืนโบราณ ใช้เหล็กนกนับหิน คงเป็นปืนที่ใช้ล่าเนื้อ สะพายย่ามใบใหญ่ ด้านหลังมีมีดเล่มใหญ่ ใส่ฝัก ออกปากทักคำเดียวว่า พระคุณท่าน




2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-9-22 20:51 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้



แล้วแกก็คุกเข่า เอาปืนวางไว้ข้างๆ ถอดมีดอีโต้ ออกมาจากเอวข้างหลัง แล้วยกมือไหว้แบบโบราณ คือ ยกมือขึ้นใส่เกล้าบนหัว แล้วกราบลงสามครั้ง แล้วออกปากว่า พระคุณท่าน ผมชื่อ "หิรัญพนาสูร" ผมมาตามคำสั่ง ของเจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่ ให้มาเป็นอารักขา พาเป็นมัคคุเทศก์ ช่วยป้องกันเหตุร้าย ที่จะมากล้ำกลาย ทำร้ายท่าน ในขณะที่ท่าน จะเดินทางสู่แดนอันตราย และเรียบผ่านป่าเขาลำเนาไพร ไปทางทิศตะวันตก แล้ววกขึ้นไปทางเหนือ ที่ท่าน จะต้องลัดเลาะ เข้าไปในเขตทุรกันดาร ผ่านมนุษย์หลายเผ่า หลายชาติ หลายศาสนา แม้แต่พวกคนเงาะ คนป่าก็มีไม่น้อย เจ้าเหนือหัวให้ข้าไปด้วย ดูแลเพื่อจะได้ช่วยแก้ไข ภาวะวิกฤตที่พี่น้องของพระองค์ท่าน ยังตกติดค้างอยู่ต่างแดนเป็นเชลยยังติดอยู่ ท่านจะต้องใช้เวลาเดินทางอย่างน้อย ๑ เดือน ผมจะไปด้วย เพื่อช่วยนำบอกทางและป้องกันอันตราย ไม่ไปไม่ได้ คอขาดแน่ เจ้าเหนือหัวสั่งมา ผมจะรับอาสาไปส่งและกลับพร้อมท่าน ข้าพเจ้าจึงถามแกว่า โยมจะพาฉันไปไหนหละ ก็ไปตามทาง ที่เจ้าเหนือหัวสั่งนั่นแหละ ผมจะนำพาท่านไปเอง

         เราก็ตอบเขาว่า มันจะเหมาะหรือ คุณโยม ฉันเป็นนักบวช เป็นพระภิกษุสงฆ์ จะไปด้วยกันกับท่าน ที่เป็นนายพรานป่า ผู้มีอาวุธอยู่ในมือ ในพระวินัยสงฆ์ ก็ห้ามพูดคุยกับบุคคล ผู้มีศัสตราวุธในมือนะโยม ถ้าฝ่าฝืน อาตมาก็เป็นอาบัติ และฉันเองบวชเข้ามา ก็มิใช่เป็นพระนักรบอย่างคนอื่นๆ เขาพอแกได้ฟังแล้ว ก็ท่างงๆ แล้วออกปากถามว่า พระนักรบ เป็นอย่างไร พระคุณท่าน
          เออคุณโยม พระนักรบก็คือ พวกรบกวนชาวบ้านนะซิโยม ได้แก่ นักบวชที่ชอบขอ ที่ชอบเรี่ยไรไม่รู้จักพอ ขอตะบันยันเต คือเมื่อหลายวันมาแล้ว ฉันเดินธุดงค์ มาหยุดพักตามห้างไร่ห้างนา ได้อาศัยเอาเป็นที่บรรเทาความร้อน ได้ถามชาวบ้านเขาว่า เป็นอย่างไรบ้างโยม ข้าวนาข้าวไร่ มีพอใช้พอกินตลอดปีหรือเปล่า เขาตอบว่า เออถ้าปีไหน หนูไม่กัด วัดไม่ขูด ก็พอกินเจ้าข้า พออาตมาได้ฟังเขาตอบอย่างนั้น แล้วก็รู้สึก อายตัวเอง และอายแทนพระนักรบ คือรบกวนชาวบ้านด้วย ดังนั้น จึงไม่อยากจะรบกวนใคร คราวนี้ถ้าคุณโยมไปกับฉัน ครอบครัวโยมจะลำบากอีก อาตมากับโยมไปด้วยกันได้ แต่จะพูดด้วยกันไม่ได้ ถ้าหาไม่ อาตมาก็เป็นอาบัติ อาตมาขอทีเถอะ คุณโยมอย่าไปเลย ถึงเจ้าเหนือหัว ท่านตรัสถาม หรือ ทำโทษโยม ก็ต้องกราบเรียนท่าน อย่างที่อาตมากล่าวมานี้ ขอบใจนะคุณโยม เราคุยสนทนากัน จนตะวันลับขอบฟ้า แล้วแกก็อำลาไป ก่อนไปนายพราน ยกสองมือขึ้น แบบประนมมือขึ้นเหนือศีรษะ กราบ ๓ ครั้ง แล้วบอกว่า ผมขอถวายหัวกับพระคุณเจ้า เอามือทั้งสองถอดผ้าแดง ที่พันหัวแกอยู่ถวายให้ แล้วบอกว่าเอาไว้ป้องกันตัว


3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-9-22 20:52 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้


           เมื่อนายพรานจากไปแล้ว เราเอาผ้านั้นมาคลี่ดู เห็นเป็นผ้ายันต์ เขียนด้วยอักษรไทยเหนือ ในคำนำบอกว่า เป็นพระคาถา ที่พระพลรัตน์ วัดป่าแก้ว ได้ประสิทธิ์ประสาทให้ พระนเรศวร กับพระเอกาทศรถ พร้อมด้วยทหารหาญ ในการกู้บ้านกู้เมือง เป็นคาถาที่ศักดิ์สิทธิ์มาก ภาวนาบ่อยๆ เนืองนิจจะพิชิตหมู่ไพรี ไล่ความอัปรีย์ จัญไรได้หมด ข้าพเจ้าอ่านแล้ว ก็พับเอาไว้อย่างเดิม เพราะคาถานี้ ข้าพเจ้าเองสวดทุกเช้าเย็น และตอนกลางคืน คือ วันศุกร์ที่ ๓๐ เมษายนนั่นเอง นายพรานคนนั้น ก็กลับมาอีก

            มาคราวนี้แกนำเอาแท่งเงิน แท่งทองคำ มาให้จำนวนมาก บอกว่า กลัวท่านจะลำบาก ในการเดินทาง เมื่อท่านอดอยาก ก็ขายเงินแท้ๆ ทองคำแท้ๆ เพื่อประทังชีพในการเดินทาง เพราะทางเปลี่ยว ต้องข้ามเขา ลงห้วย ลำบาก ก็ปฏิเสธแกไปว่า ไม่หรอกโยม ขอบใจมากที่เป็นห่วง ขอให้คุณโยมเอากลับไปเถิด อาตมาไม่เอาติดตัวไป ไม่ว่าทรัพย์สมบัติชนิดใด ที่เขา สมมุติว่ามีค่า สิ่งนั้นจะนำทุกข์มาให้ทุกอย่าง อาตมาเอง มาแสวงหาทรัพย์ภายใน คือ อริยทรัพย์ ส่วนทรัพย์ภายนอกคือ ข้าวของเงินทอง ที่จะต้อง ใช้จ่าย เพื่อความสุขของชีวิตทางโลกนั้น อาตมาไม่ถือเงินทองไปด้วยเลย มีก็แต่เสื้อผ้า ที่จะนำไปให้คนจน อาตมาจึงขอขอบใจ เจตนาดีของคุณโยม อย่างมาก
             เมื่อเราไม่ยอมรับ แกก็กลับไป และก่อนไปแกถวายไม้เท้าไว้หนึ่งท่อน แกบอกว่าป้องกันได้สารพัด อันตัวหนอน ตัวทาก มันชุกชุม มันรุมกัน ไต่ขึ้นขา มาดูดกินเลือด ตัวมันคล้ายตัวปลิง ปลิงบกเราเรียกทาก หากมันเกาะ เอาไม้นี้แตะเข้า มันจะหลุดไป และกันภัยได้ทุกอย่างเลย

                  อันไม้เท้าที่แกให้นั้น บัดนี้เรายังรักษา และถือประจำอยู่ จึงนึกในใจว่า ผู้ชายนายพรานคนนี้ เป็นใครกันแน่ แต่ที่แกบอกว่า ชื่อหิรัญพนาสูรนั้น คือใครกันแน่ และแกอยู่ที่ไหน เราก็ลืมถามแกด้วย เมื่อพิเคราะห์ดู ก็คงจะเป็นเจ้าป่า คือท้าวหิรัญ ซึ่งมีรูปปั้นหล่อ อยู่ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎนั้นเอง จึงมาเชื่อมั่นว่า คิดดี พูดดี ทำดี ผีช่วย เราจึงมีรูปท้าวหิรัญ ไว้ดูเป็นขวัญตามาทุกวันนี้



ขอบคุณข้อมูลจาก : http://board.palungjit.org
                           http://topicstock.pantip.com


5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2018-6-9 23:57 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ได้กลับมาอ่านอีกตรั้ง
6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2019-4-7 01:19 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้