ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
ตำนาน เรื่องเล่า เกร็ดความรู้ เรื่องลี้ลับ
»
สาเหตุที่ทำให้คนดวงตก
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 2745
ตอบกลับ: 1
สาเหตุที่ทำให้คนดวงตก
[คัดลอกลิงก์]
oustayutt
oustayutt
ออฟไลน์
เครดิต
22903
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2013-9-26 15:50
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
คนดวงตกหมายถึง อะไร
ในช่วงชีวิตของคนนั้น ตั้งแต่เกิดจนถึงตายภายใน 80-90 ปี อันนี้เป็นแบบปกติทั่วไปโดยเฉลี่ยไม่ใช่ตายเพราะอุบัติเหตุที่สาเหตุมาจากกรรมฝ่ายไม่ดีมาตัดรอนอย่างเด็ดขาด ในช่วงเวลาดังกล่าวเราคงต้องมีทั้งสุขและทุกข์และเป็นไปในระดับกลางๆ คือ ไม่ทุกข์ไม่สุข
ในห้วงแห่งความทุกข์แสนสาหัสที่กรรมฝ่ายไม่ดีกำลังส่งผล นี่แหละที่เขาเรียกว่า “คนดวงตก” ที่มีหลายกรรมฝ่ายไม่ดีที่เคยทำเข้ามาส่งผลในชีวิตพร้อมๆ กัน
ดวงตกที่ว่ามาจากความเชื่อในเรื่องของโหราศาสตร์ ทางโหรนั้นเรียกคนที่กำลังมีเรื่องราวไม่ดีที่ดึงให้ตกต่ำ ทำอะไรมักติดขัดหรือไม่สำเร็จ ประเภทจับอะไรเป็นเจ๊ง จับอะไรเป็นเรื่องทุกทีเขาว่า ดวงตกหรือดวงชะตาอ่อน
หรือที่เรียกกันติดปากว่า
“พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก”
เพราะชีวิตในช่วงนั้นมันวุ่นวายอลหม่านพอสมควรไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องเงิน เรื่องงาน หลายคน บางช่วงของชีวิต ปัญหางาน ปัญหาการเงิน ปัญหาชีวิต ปัญหาเพื่อน ก็ถั่งโถมเข้ามามากเหลือเกิน จนบางคนแทบทนไม่ไหว
ในหนังสือเล่มนี้เราจะมาพูดกันถึงสาเหตุให้ทราบเสียก่อนเพราะเหตุใด ดวงถึงตก และต้องแก้ไขรีบด่วนอย่างไรในเบื้องต้นและสุดท้ายการแก้ไขในแบบที่ถาวรกัน
เหตุที่ดวงตก
สาเหตุหลักนั้นมาจาก 2 เรื่อง ของมาจากรรมเก่าในอดีตและกรรมใหม่ที่ทำในชาตินี้ เป็นกรรมฝ่ายไม่ดี ที่มารวมกันในเวลาเดียวกันหรือใกล้เคียงกันจนทำให้ทุกอย่างติดขัดไปหมดเสียทุกเรื่อง และโดยเฉพาะเรื่องของกรรมเก่าในอดีตนั้น เราไม่มีทางทราบว่าเป็นกรรมอะไรบ้าง แต่ถึงไม่รู้ทั้งหมดแต่ก็พอจะศึกษาด้วยกฎแห่งกรรมได้ เพื่อเป็นแนวทางไม่ให้ทำกรรมแบบนั้นขึ้นมาอีกในชาตินี้ เพราะกรรมเก่าจากอดีตบางกรรม กำลังส่งผลในปัจจุบัน กรรมในปัจจุบันบางกรรมก็รอที่จะส่งผลในอนาคตอันใกล้นี้
เรื่องของกฎแห่งกรรมนั้น พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้มากมายในพระไตรปิฎก ถึงที่มาที่ไป เพราะเหตุใดถึงต้องมีชะตาชีวิตแบบนี้ การที่พระพุทธองค์นำมาแสดงไว้เพื่อให้เหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายได้ตระหนักถึงผลของกรรมหรือผลของการกระทำ จะได้ระมัดระวังในการดำรงชีวิต ไม่ไปทำผิดแบบนั้นอีก เพราะผลที่ออกมาก็ต้องทำให้ชีวิตต้องทนทุกข์ทรมานกันอีก
เรื่องของกฎแห่งกรรมไม่ได้นำมาแสดงให้กลัวจนยอมจำนนต่อกรรมแต่เพื่อให้เราเปลี่ยนแปลงไปในทางดีขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพและเพื่อเปลี่ยนโชคชะตาชีวิตให้ดีขึ้นด้วยมือตัวเอง
หลักการสำคัญที่เราชาวพุทธทั้งหลายควรตะหนักก็คือ การอยู่ในกาลปัจจุบัน อยู่กับกรรมในปัจจุบันมิใช่ไปยืดติดกับกรรมเก่าในอดีต ไปยอมจำนนต่อกรรมเก่าจนไม่กล้า ไม่คิดที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือเปลี่ยนกรรมในปัจจุบันให้ดีขึ้น พร้อมรู้จักระงับกรรมไม่ดีมากมายที่ไม่ควรทำ
อันชีวิตของเรานั้นมาจากกรรมลิขิตทั้งสิ้น ไม่ได้มาจากอำนาจอื่นใด ไม่ว่าจะเป็นพระเจ้า เทพเจ้าองค์ใด ไม่ได้มาจากดวงดาว ดาวพระเคราะห์หรืออะไรเป็นผู้กำหนด การกระทำหรือกรรมของเราเองนั่นแหละเป็นผู้กำหนดทั้งสิ้น
ใครทำอะไรไว้เมื่อถึงเวลาก็ต้องรับผลที่ทำเอาไว้ตามนั้น ไม่มีอะไรมาเบี่ยงเบนหรือเปลี่ยนผลลัพธ์ไปได้ ทำดีต้องได้ ทำชั่วต้องได้ชั่ว ผลต้องเป็นไปตามนั้นปลูกหรือหว่านอะไรไว้ก็ต้องได้รับผลตามนั้น ปลุกข้าวก็ต้องได้ข้าว ปลุกกล้วยก็ต้องได้กล้วย ไม่ใช่ปลุกกล้วยแล้วผลออกมาเป็นรวงข้าว มันเป็นไปไม่ได้
ที่เราเรียกว่า “
ดวงตก
” นั้นอย่างที่บอกว่าเป็นเรื่องของโหราศาสตร์ จริงๆ แล้วน่าจะเรียกว่า “
วิบากกรรมไม่ดีเข้า
” มากกว่า เพราะเป็นช่วงที่ผลของกรรมไม่ดีที่ทำมากำลังส่งผล อาจจะมีหลายๆ กรรมมาพร้อมๆ กัน อาจจะหนักบ้างเบาบ้าง แต่ก็ทำให้ชีวิตวุ่นวายพอสมควร
เป็นช่วงที่ผลของบุญที่เคยทำมานั้นอาจจะส่งผลน้อยมากหรือกำลังไม่พอกับกรรมไม่ดีที่กำลังส่งผล ทำให้มีแต่ความทุกข์มากกว่าความสุข คนเรานั้นยิ่งทุกข์อยู่แล้ว มีเรื่องทุกข์เข้ามาเพิ่มแม้จะน้อยนิดเบาเท่าขนนุ่นหรือขนนก ถ้าขาดสติ ขาดความเข้าใจที่ถูกต้องและวิธีการแก้ไขอาจทำให้ชีวิตนั้นพังทลายได้เหมือนกัน
นอกจากกรรมเก่าที่เราไม่รู้แล้วยังมีกรรมใหม่ในชาตินี้ที่เราทำ ที่เรารู้ตัวดีอยู่แล้วหรือเจตนาหรือไม่เจตนาแต่ผลมันก็เกิดขึ้นแล้ว เช่น ให้เงินคนกินเหล้า เราอาจจะไม่ตั้งใจหรือทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาต้องเอาเงินไปใช้ในทางที่ไม่ดีแน่แต่ก็ให้ไป คนที่ได้เงินนั้นไปซื้อเหล้ากิน พอเมามายเต็มที่ไปก่อคดีขึ้นมา ก่อกรรมขึ้นมาเพราะเหล้าที่มาจากเงินของเรา ถ้าไม่มีเงินของเราที่ให้ไปเขาก็ไม่มีเงินไปซื้อเหล้ามากินแล้วก่อกรรมขึ้นมา ก็กลายเป็นว่าเรามีส่วนในกรรมนั้นแน่นอน
หรือเป็นคนขับรถพาคนไปทำแท้ง คนแนะนำสถานที่ให้คนไปทำแท้งหรือพูดจาส่งเดช แบบคนเขาทุกข์มาปรึกษาก็พูดส่งๆ ไปว่า เลี้ยงไม่ไหวก็ไปทำแท้งเสียดีกว่า แล้วเขาก็ไปทำแท้งจริงๆ คนที่พูดนี่ก่อกรรมขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวเลยนะ หลายคนชีวิตนั้นต้องทนทุกข์ทรมานทำอะไรก็ไม่ขึ้นเพราะมีส่วนร่วมในกรรมนี้ ในการฆ่าคนตาย ร่วมฆ่าเด็กตายโดยไม่เจตนา
แม้แต่การกระทำหรือกรรมในชาตินี้ ทั้งๆ ที่รู้แต่ก็ยังทำ เช่น เป็นคนขี้เกียจ จับจดทำอะไรก็ไม่เอาจริง คิดแต่คอยคดโกงคนอื่น หรือพูดจาโกหกพกลมไปวันๆ พอมีความจำเป็นไปขอความช่วยเหลือคนอื่น ใครเขาก็จะช่วยเพราะเป็นคนแบบนั้น ทำกรรมขึ้นมาเองหรือเป็นคนที่ทำให้ตัวเองดวงตกด้วยมือ ด้วยการกระทำของตัวเองแท้ๆ ไม่มีใครเขาไปทำให้
หลายเมื่อชีวิตตกต่ำ ทำอะไรก็ไม่สำเร็จจับอะไรเป็นพัง ค้าขายอะไรเป็นเจ๊ง ก่อนที่จะไปโทษคนอื่น ไปโทษเจ้ากรรมนายเวร โทษฟ้าโทษดิน ควรจะโทษตัวเองพิจารณาสิ่งที่ตัวเองทำมาเสียก่อน
สำรวจตนเองว่าทำกรรมดีอะไรมาบ้างในชีวิต ถ้าคิดว่ายังน้อยก็จงรีบทำให้มากเสีย บุญนั้นเป็นที่พึ่งได้จริงทั้งสร้างใจให้เป็นสุข หนุนนำชีวิตให้ดีขึ้นและเป็นเสบียงไปเลี้ยงตัวในภพชาติต่อไป
กรรมไม่ดีหรือกรรมชั่วนั้นต้องลด ละ เลิกเสียอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อะไรไม่ดีต่อตนเองและต่อผู้อื่นแม้เพียงน้อยนิดก็ถือว่าเป็นกรรมไม่ดี ยิ่งสะสมมากขึ้นเท่าใด เมื่อถึงเวลาส่งผลเราอาจจะรับมือไม่ไหว
ขอให้เชื่อและมั่นใจเถิดว่า การทำกรรมดีหมั่นสร้างบุญกุศลนั้น ช่วยได้จริงสำหรับคนที่ดวงตก ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตได้จริงทั้งแบบช่วยเหลือเร่งด่วนและแบบถาวร บุญนั้นจะช่วยคลายทุกข์จากหนักให้เป็นเบาหรือเบาให้หายไปได้
ครูบาอาจารย์คนสำคัญตั้งแต่โบราณกาลทั้งที่เป็นพระอริยสงฆ์และฆราวาสผู้ปฏิบัติธรรม ท่านได้เมตตาสอนไว้ว่า กรรมชั่วนั้นเหมือนกับยาพิษ ถ้าเรากินเข้าไปทันทีเราอาจจะตายได้ถ้าเราเอายาพิษนั้นไปใส่ไว้ในตุ่มแล้วเอาน้ำสะอาดใส่เข้าไปให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ยาพิษนั้นก็เจือจางจนแทบไม่มีผลอะไรอีกแล้ว กรรมดีนั้นเหมือนน้ำสะอาดบริสุทธิ์ที่เราเติมเข้าไปในตุ่ม ที่ยิ่งมีมากเท่าใด ยาพาหรือกรรมชั่วนั้นก็แทบไม่มีพิษสงอะไรอีก
กรรมที่ติดตามเรามานั้นเหมือนหมาไล่เนื้อ เมื่อมันวิ่งทันเหยื่อหรือตัวเราเมื่อใดมันจะกัดกินทันที ยิ่งเมื่อเหยื่ออ่อนแรงหรือบุญนั้นน้อยไม่มีกำลังพอ มันก็วิ่งมาทันและมากัดกินได้ง่ายดาย แต่ถ้าเหยื่อนั้นมีกำลังหรือมีบุญมากกว่า มีแรงวิ่งแบบไม่หยุดและเร็ว หมาไล่เนื้อมันก็วิ่งตามไม่ทัน
แต่ถ้าเหยื่อนั้นประมาทหรือหลงทางคือ ทำกรรมชั่วมากขึ้นไปอีกยิ่งไปตัดทอนกำลังที่จะวิ่งหนีหรือถึงขั้นวิ่งมาหมาไล่เนื้อเอง ชีวิตของเหยื่อคงต้องทุกข์ทรมานมากขึ้นและเร็วขึ้นแน่นอนอุปมาทั้ง 2 เรื่องที่ยกมานั้นคือเรื่องของกรรมดีและกรรมชั่วโดยเฉพาะ
ช่วงที่ชีวิตตกต่ำ ถ้าเราทราบจากเหตุดังที่กล่าวมาแล้วว่า เป็นเพราะกรรมไม่ดีที่เราทำนั้นส่งผลก็จึงมีอยู่ 2 ทางที่เร่งด่วนที่จะแก้ไข ก็คือ ลด ละ เลิกอย่าทำกรรมชั่วเพิ่มขึ้นมาอีกที่มาซ้ำเติมชีวิตของตนเอง และเร่งทำกรรมดีพาตัวเองให้รอดจากกรรมชั่วที่กำลังส่งผลนั้นเสีย
เรื่องของกฎแห่งกรรมนั้นเป็นเรื่องซับซ้อนละเอียดมาก หลายคนจึงยากที่จะเข้าใจว่ากรรมใดจะเกิดก่อนหรือเกิดทีหลัง เป็นเพราะความหนักเบา ที่ขึ้นอยู่กับ
วัตถุ ประโยค
หรือความพยายามและ
เจตนา
แต่ดูได้ง่ายๆ จากผลที่เกิดขึ้นนั้นดีหรือร้ายแรงกระทบออกไปเพียงใดทั้งต่อตนเอง ต่อคนอื่นและคนหมู่มากแค่ไหน
คนที่โกงเงินคนอื่นเพียงคนเดียว ย่อมได้ผลแห่งกรรมนั้นน้อยกว่าคนที่คดโกงเงินของชาติบ้านเมือง ที่มาจากหยาดเหงื่อเลือดเนื้อของคน 60 ล้านคน คนที่ก่อคดีเดียวย่อมได้รับโทษน้อยกว่าคนที่ก่อคดีมาเป็นสิบ เจ้าทุกข์หรือเจ้ากรรมนายเวรก็มากกว่า ผลที่ทำมาก็มากกว่าเช่นกัน
คนที่ฆ่าสัตว์แบบครั้งเดียวไม่เจตนาเช่น เดินเหยียบหอยทากตายกับคนที่ฆ่าช้างแบบเฝ้ากันเป็น 10 วัน 10 คืน กว่าจะฆ่ามันได้ต้องใช้ลูกปืนเป็นร้อยนัด สร้างความเจ็บปวดทรมานแสนสาหัสให้ช้าง ย่อมจะได้รับกรรมที่หนักกว่า
คนที่เพียรพยายามทำงานด้วยความสุจริต ทำกรรมดีมาเป็นเวลา 10-20 ปีหรือชั่วชีวิตย่อมได้รับผลจากที่ทำมาได้รับการนับถือยกย่องมากกว่าคนที่พยายามทำดีเพียงวัน 2 วัน
อันคนเรานั้นเวียนว่าย ตาย เกิดมานับไม่ถ้วนย่อมก่อกรรมทั้งดีและร้ายมามากมายเหลือคณานับ ลองคิดแค่ชาติเดียวที่เกิดมานี้ ลองนั่งทำใจให้นิ่ง นึกย้อนหลังไปก็จะพบว่าเรากระทำอะไรมามากมาย นี่แค่ชาติเดียว และถ้าหลายร้อยชาติ พันชาติ เราสร้างกรรม สร้างเจ้ากรรมนายเวรมามากมาย นึกเปรียบเทียบดูว่าเราไปยืมเงินคนมาสัก 10 คน เมื่อถึงวันหนึ่งเจ้าหนี้ทั้ง 10 คนเขามาทวงหนี้พร้อมๆ กันในวันเดียว แล้วเราจะทำอย่างไร
คนที่มีเงินกักตุนไว้หรือมีบุญกักตุนไว้เยอะก็คงพอจะรอดไปได้ แต่คนที่ไม่มีเงินหรือเงินน้อยหรือบุญน้อยจะทำอย่างไรดี ช่วงเวลาที่เขามาทวงพร้อมกันนั่นแหละที่เขาเรียกกันจนชินปากว่า”ดวงตก” เพราะเป็นช่วงที่แย่สุดสุด เป็นช่วงที่ทั้งกรรมเก่าจากอดีตชาติและกรรมใหม่เขามายืนทวงพร้อมกัน ชีวิตของเราคงแย่แน่นอน
ครูบาอาจารย์ท่านเมตตาสอนวิธีแก้ไขมาให้จึงอยากจะนำมาเผยแพร่ให้รับทราบ ลองพิจารณาดูถ้าเห็นว่าดีกับชีวิตจึงค่อยทำ แต่ถ้าไม่เชื่อและไม่คิดว่ามันจะดีกับชีวิตก็ขอให้อย่าทำ ขอให้เรื่องนี้ผ่านไปเสีย
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
2
#
โพสต์ 2019-11-21 08:38
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...