ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
ตำนาน เรื่องเล่า เกร็ดความรู้ เรื่องลี้ลับ
»
กรรมของคนฆ่าตัวตาย
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 3586
ตอบกลับ: 6
กรรมของคนฆ่าตัวตาย
[คัดลอกลิงก์]
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2013-6-14 08:11
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
เรื่องเล่าจากหลวงพ่อจรัญ เรื่องกรรมของคนจีนที่ฆ่าตัวตาย
กรกฎาคม 30, 2012 โดย
ธ. ธรรมรักษ์
เหตุการณ์นี้หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโมได้เล่าเอาไว้เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ปี พ.ศ.2530 ครั้งเมื่อที่ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดพรหมบุรี อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี โดยวันนั้นเป็นวันโกนสาร์ท คือในช่วงเทศกาลทำบุญเดือนสิบ มียายแก่คนหนึ่งชื่อ ยายเภา อาศัยอยู่ที่บางสำโรง เขตสวี อำเภอ ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ได้พายเรือมาที่ตลาดปากบางเพื่อที่จะมาซื้อของไปเตรียมทำขนมกระยาสารท
ยายเภาได้เทียบเรือเข้าไปจอดริมตลิ่งที่มีต้นไม้ครึ้มทอดลงมาต้นหนึ่ง ซึ่งคุณยายเภาไม่ทราบเลยว่าต้นไม้ต้นนั้นเคยมี ชายแก่ชาวจีนคนหนึ่งมาผูกคอตายไว้ พอคุณยายทอดเรือที่ต้นไม้นั้นก็เกิดเรื่องทันที มีอาการผิดปกติดิ้นรนทุรนทุราย ปากก็พร่ำออกมาเป็นภาษาจีนทั้งที่เธอเป็นคนไทยไม่เคยรู้ภาษาจีนเลยแม้แต่คำเดียว
ชาวบ้านในตลาดพากันมามุงดูก็ทราบว่ายายเภาถูกผีเข้าก็ไม่ทราบจะทำอย่างไรจึงได้ให้คนไปนิมนต์พระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญมาช่วย ซึ่งพอทราบเรื่องท่านก็รีบมา แต่ก็ไม่สามารถสื่อสารกันได้รู้ความเพราะ ยายเภานั้นพูดแต่ภาษาจีนอยู่ตลอดเวลา หลวงพ่อจึงได้ไปตามลุงเขยของท่านที่ชื่อ เลี่ยงเกี๊ยก มาช่วยเจรจา
เมื่อคุณเลี่ยงเกี๊ยกมาช่วยเจรจาก็ทราบความว่า วิญญาณที่เข้าสิงยายเภาชื่อ “นายเล่งฮ่วย” เคยอาศัยอยู่ ณ บริเวณแถวนี้โดยอยู่กับหลานสาว ซึ่งมีอาชีพทำขนมขายโดยตัวแกนั้นมีวิสัยติดยาฝิ่นแบบงอมแงม ต้องกินยาฝิ่นทุกวัน โดยแลกกับการตักน้ำหาบน้ำมาให้หลานสาวทำขนม ถ้าวันไหนไม่ทำงานก็จะไม่มีเงินจากหลานสาวไปซื้อฝิ่นเสพ ทำให้อยากฝิ่นทรมานมาก
ด้วยวิสัยเช่นนี้จึงไม่มีใครเห็นใจ และยังเป็นที่ตำหนิถูกต่อว่าเป็นขี้ยาติดยาเสพติด ทำให้รู้สึกน้อยใจเป็นอย่างมาก เมื่อความคิดเช่นนี้สะสมเข้าอยู่ในจิตใจทุกวันจึงตัดสินใจหนีความทุกข์โดยการไปผูกคอตายที่ต้นไม้ต้นนั้นเอง เพราะหวังว่าจะได้ไปสบายเสียที
แต่ทว่าสิ่งที่ตนเองได้กระทำลงไปถือเป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงยิ่งนัก เพราะแทนที่จะได้สบายกลับต้องทนทุกข์ทรมานกว่าตอนที่มีชีวิตอยู่หลายเท่า และวันที่ต้องมาเข้าร่างของยายเภาเนื่องจากหนีมาอยู่กับคนที่ชื่อ “ฮ่วยเซียเถ้า” ที่วัดพรหมบุรี ซึ่งนายเล่งฮวยหมายความถึง “หลวงตามด” ซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดกลางพรหมนคร เหนือตลาดปากบาง
เมื่อหลวงพ่อจรัญลองสืบประวัติเรื่องหลวงตามด ก็พบว่ามีอยู่จริงที่วัดกลางพรหมนคร เคยเป็นเจ้าอาวาส ขณะที่ยังมีชีวิตก็ต้องฆ่าตัวตายทั้งที่อยู่เพศสมณะเพราะเสียใจที่เงินที่สะสมเอาไว้สร้างถาวรวัตถุของวัดถูกมัคนายกที่วัดขโมยไปเสียหมด จนขาดสติทำให้ผูกคอตายอย่างน่าอนาถ ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นมาเมื่อ 60 ปีมาแล้ว
นายเล่งฮวยและหลวงตามดที่ฆ่าตัวตายในสภาพวิญญาณต้องไปกินอาหารตามกองขยะที่เขาเอามาทิ้ง เพราะไม่มีใครอุทิศให้ต้องกินของที่เขาทิ้งแล้วจึงจะกินได้ โดยนายเล่งฮวยขอร้องให้หลวงพ่อไปบอกกับหลานสาวว่า ตนเองไม่สามารถรับบุญจากการทำทานใดๆ ได้จะสามารถรับบุญได้จากการเจริญวิปัสสนากรรมฐานเพียงอย่างเดียว
หลวงพ่อจรัญ ยังเกิดความแคลงใจในตัวของสมภารมดหรือหลวงตามด ที่เป็นพระภิกษุแต่กลับฆ่าตัวตายได้อย่างไร ซึ่งก็ทราบความภายหลังว่า หลวงตามดนั้นเมื่อบวชแล้วก็ไม่ค่อยได้เจริญกรรมฐาน ไม่ค่อยได้ปฏิบัติธรรมเลยจึงทำให้ขาดสติคิดสั้นไป และตนเองและสมภารมดก็มีความเป็นอยู่ในสถานะวิญญาณเหมือนกันคือ ต้องทำงานขุดดินทั้งวันทั้งคืน เมื่อถึงวันโกนวันพระจึงจะได้หยุด วันนี้จึงได้หนีมาบอกความประสงค์ให้รับรู้
เมื่อหลวงพ่อจรัญทราบความประสงค์แล้ว วิญญาณของนายเล่งฮวยก็ออกจากร่างยายเภาไป หลวงพ่อจรัญ จึงทำการทดสอบยายเภาดูว่าจะทราบภาษาจีนบ้างหรือไม่ โดยสอบถามเป็นภาษาจีนง่ายๆ ว่า “เจี๊ยะปึง ฮ้อ ? ” (กินข้าวดีหรือยัง) ซึ่ง ยายเภาก็ไม่เข้าใจแม้สักคำเดียวจึงเป็นอันแน่ใจว่า วิญญาณนายเล่งฮวยมาเข้าสิงจริงๆ
หลวงพ่อจรัญได้ยอมไปพบกับหลานสาวของเล่งฮวย เพื่อบอกกล่าวความเป็นอยู่ของญาติตนเองให้ทราบ แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ นางเจียผู้เป็นหลานสาวกลับไม่เชื่อหาว่าเป็นเรื่องบ้าบอคอแตกไปไม่คิดจะเจริญกรรมฐานใดๆ ให้ทั้งสิ้น ซึ่งท่านก็ต้องปล่อยวางเรื่องนี้ไปตามยถากรรมของสัตว์
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
2
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-6-14 08:13
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
นรกของคนที่ฆ่าตัวตาย
ในพระไตรปิฎกนั้นระบุกรรมของผู้ที่ฆ่าตัวตายถือเป็นกรรมที่หนักอย่างยิ่ง ต้องลงไปสู่นรกที่เรียกว่า
“โลกันตนรก”
ซึ่งมีลักษณะของนรกที่เลวร้ายมากดังนี้ว่า
โลกันตนรกเป็นนรกขุมพิเศษที่อยู่นอกจักรวาล อยู่ระหว่างโลกจักรวาล 3 โลกคือสวรรค์ นรก และโลกมนุษย์ เปรียบเหมือนมีดอกบัว 3 ดอกมาเรียงชิดติดกันจะเกิดช่องว่างในตรงกลางโดยบริเวณช่องว่างในตรงกลางนั้นเรียกว่า “โลกันตนรก”
สัตว์ที่มาเกิดในโลกันตนรกนี้มีร่างกายใหญ่โต มีเล็บมือเล็บเท้ายาว ต้องใช้เล็บมือเล็บเท้าเกาะอยู่ตามเชิงจักรวาล ห้อยโหนโยนตัวอยู่ชั่วนิจนิรันดรเหมือนค้างคาวห้อยหัวอยู่บนกิ่งไม้ และก็จะรำพึงในใจว่า “ทำไม ตัวเราจึงมาอยู่ที่นี่ สงสัยจะมีเพียงเราผู้เดียวกระมัง”
เหตุที่รำพึงเช่นนี้เพราะว่าโลกันตนรก นั้นมืดมิด ไม่มีแสงสว่างแม้เพียงนิดเดียว ต่างห้อยโหนโยนตัวเปะปะด้วยความหิวโหย พอตะครุบไปถูกตัวสัตว์นรกซึ่งกันและกันจึงคิดว่าเป็นอาหาร ต่างปล้ำฟัดกันอยู่อย่างนี้ ไม่ช้าต่างก็พลัดตกลงไปในทะเลน้ำกรดอันเยือกเย็น เนื้อตัวร่างกายก็เปื่อยแหลกเหลว ตายไปในทันที แล้วก็กลับฟื้นขึ้นมาอีก ต้องได้รับความทุกข์ทรมานเช่นนี้ไม่มีวันสิ้นสุดชั่วพุทธันดร กัปหนึ่งจึงจะพ้นโทษจากโลกันตนรก
กรรมที่เกิดจากการฆ่าตัวตายนั้น ย่อมน้อมนำมาให้สู่นรกขุมนี้ นอกจากนั้นยังเคยทำร้ายทรมานบิดามารดา ไม่เชื่อนรก ไม่เชื่อสวรรค์ ทำบาปกรรมชั่วช้าเป็นประจำก็จะน้อมนำให้มาบังเกิดในนรกขุมนี้ได้
การฆ่าตัวตายนั้นไม่ใช่การทำให้ตนเองพ้นทุกข์แต่จะกลับเป็นการเริ่มต้นวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณใหม่ให้ทุกข์หนักกว่าเดิม พระพุทธเจ้าทรงเปรียบเปรยว่า การที่เราจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์นั้นยากแสนยากเหมือนกับมหาสมุทรที่แสนกว้างใหญ่ โดยเหนือผิวน้ำจะมีห่วงเล็กๆ ลอยฟ่องอยู่
โดยในแต่ละวินาทีที่ห่วงนี้ถูกคลื่นลมตีให้ลอยไปมาไม่มีโอกาสอยู่นิ่ง ภายใต้ท้องมหาสมุทรจะมีเต่าตาบอดตัวหนึ่งโดย เต่าตัวนี้ทุกร้อยปีจะโผล่ศีรษะมาเหนือผิวน้ำสักหนึ่งครั้ง
พระพุทธเจ้าทรงเปรียบเทียบไว้ว่า โอกาสที่เต่าตาบอดจะโผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำและเอาหัวมาสวมเข้ากับห่วงที่ว่านั้นอย่างพอเหมาะพอดีเป็นไปได้ยากแสนยาก แต่การเกิดมาเป็นมนุษย์นั้นยากกว่านั้นนับล้านเท่า เมื่อใดที่ฆ่าตัวตายก็คือการปฏิเสธความเป็นมนุษย์ จิตจะต้องตกต่ำดำมืดและกลับไปเริ่มต้นวิวัฒนาการกรรมกันใหม่ กว่าจะพัฒนาจนเกิดมาเป็นมนุษย์แล้วต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกนับภพชาติไม่ถ้วน
การฆ่าตัวตายจึงไม่ใช่หนทางที่พ้นทุกข์เลย แต่เป็นการสร้างความทุกข์อันยาวนานขึ้นมาใหม่ พระพุทธเจ้าจึงทรงตำหนิผู้ที่ฆ่าตัวตายเอาไว้มาก
ทำอย่างไรจะหนีนรกจากการฆ่าตัวตายได้พ้น
นรกของคนที่จะฆ่าตัวตายนั้นเกิดขึ้นแล้วตั้งแต่ในจิตใจคือ ความน้อยเนื้อต่ำใจ ไม่ได้ดั่งใจ ความพลัดพรากจากของที่รัก ดังเช่นกรณีของนายเล่งฮวยที่ต้องฆ่าตัวตายเพราะทนซึ่งคำดูถูกเหยียดหยามจากคนอื่นไม่ได้จึงตัดสินใจคิดสั้น
การจะหนีกรรมหนีนรกฆ่าตัวตายให้พ้น ในทางพระพุทธศาสนาก็มีหลักธรรมสอนเอาไว้ที่ชื่อ
“ไตรลักษณ์”
อันหมายถึงความเป็น สามัญในทุกสรรพสิ่งที่ว่า ไม่แน่ ไม่ได้ดั่งใจ ไม่มีอะไรสมบูรณ์คำว่าไม่แน่ก็คือความเปลี่ยนแปลงทั้งหลาย (อนิจจัง) ทุกๆ ชีวิตต้องพบพานกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นรอบตัวอยู่เสมอ
ประการต่อมาก็คือ ต้องเจอ “ความทุกข์” (ทุกขัง)ไม่ว่าใครในโลกนี้ก็ต้องเจอทุกข์เหมือนกันทั้งหมดทั้งสิ้น และสุดท้ายก็ต้องพบกับ ความไม่สมบูรณ์ (อนัตตา) เกิดขึ้นแล้วก็ย่อมเสื่อมสลายไปไม่มีอะไรเป็นของเราเลยแม้แต่น้อย
ภาวะที่เป็นไตรลักษณ์นั้นไม่ได้เกิดขึ้นกับใครคนใดคนหนึ่งแต่เกิดกับทุกคนอย่างเสมอภาคเท่าเทียม เพราะฉะนั้นการจะหนีนรกให้พ้นจากการฆ่าตัวตายได้ก็ต้องหัดทำใจให้มองเห็นเรื่องทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเป็นเรื่อง “ธรรมดา” คนที่เข้าใจความเป็นธรรมดาของโลกว่า ทุกข์ทั้งหลาย การติฉินนินทา การเสื่อมลาภ เสื่อมยศ เป็นเรื่องปกติก็จะเข้าใจโลกได้มากขึ้นและมีความเห็นที่ตรง
เมื่อบุคคลใดก็ตามที่มีความเห็นที่ถูกต้องตรงกับความเป็นจริงแล้วเขาผู้นั้นก็จะไม่กระทำกรรมหนักที่เป็นบาปเช่นนี้โดยเด็ดขาด หากจะมีก็มีแต่ในผู้บรรลุธรรมแล้วเท่านั้น
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
3
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-6-14 08:17
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
การฆ่าตัวตายที่ไม่ตกนรกมีอยู่หรือไม่
?
ในพระพุทธศาสนานั้นพระพุทธเจ้ากล่าวถึงการฆ่าตัวตายชนิดหนึ่งที่
“ไม่ถือเป็นบาป”
กรณี พระฉันนะ (ซึ่งเป็นคนละรูปกับพระฉันนะ อดีตคนสนิทของพระพุทธองค์) ว่า
พระฉันนะนั้นก่อนที่ท่านจะฆ่าตัวตาย ท่านมีอาการอาพาธหนัก จึงได้ปลงสังขารและคิดจะฆ่าตัวตายด้วยศาสตราวุธเพื่อให้พ้นทุกข์ พระสารีบุตรได้เทศนาสั่งสอนและห้ามปรามไว้ แต่ในที่สุดพระฉันนะก็ฆ่าตัวตายจนได้ ทำให้ได้รับคำตำหนิติเตียนจากญาติมิตรและผู้คนเป็นอันมาก
พระสารีบุตรจึงทูลถามพระพุทธเจ้าถึงเรื่องนี้ว่า พระพุทธองค์ทรงมีทรรศนะเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายของเหล่าภิกษุนี้ว่าอย่างไร
พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า..
“ ดูก่อน สารีบุตร พระฉันนะยังมีสกุลมิตร สกุลสหายและสกุลที่คอยตำหนิอยู่ก็จริง
แต่เราหาเรียกบุคคลว่า ควรถูกตำหนิด้วยเหตุเพียงเท่านี้ไม่ บุคคลใดแลทิ้งกายนี้
และยึดมั่นกายอื่น บุคคลนั้นเราเรียกว่า ควรถูกตำหนิ ฉันนะภิกษุหามีลักษณะนี้ไม่
ฉันนะภิกษุหาศาสตรามาฆ่าตัว อย่างไม่ควรถูกตำหนิ..”
พระพุทธองค์หมายความว่า พระฉันนะนั้นขณะที่จิตสุดท้ายก่อนจะฆ่าตัวตาย จิตของเธอได้บรรลุเป็นพระอรหันต์แล้ว ไม่ถือยึดเอาร่างใดเพื่อการเกิดใหม่อีกเมื่อตายแล้วจึงเข้าสู่นิพพานเลย เมื่อจิตสุดท้ายบริสุทธิ์ก็กลายเป็นผู้ที่หมดบุญหมดบาปแล้วท่านจึงไม่ต้องเกิดอีกต่อไป เป็นการฆ่าตัวตายที่พระพุทธองค์ไม่ได้ทรงตำหนิ
การฆ่าตัวตายของพระอรหันต์นั้นเรียกอีกประการหนึ่งว่าเป็นการ
“ปลดเปลื้องขันธ์”
หมายความว่าต้องอยู่ในความเหมาะสมกับกาลเวลาที่จะสละขันธ์ของร่างกาย ความเหมาะสมนี้ไม่สามารถจะบอกกล่าวได้ว่า จะต้องสละขันธ์เมื่อใด และก็จะสละขันธ์กันอย่างไร
ในกรณีการใช้อาวุธฆ่าตัวตายของพระฉันนะเป็นวิธีหนึ่งที่ปรากฏใช้ในพุทธกาล หากมองว่าเป็นการทำร้ายร่างกายตนเองเพื่อฆ่าตัวตายได้ถ้ามองในมุมของปุถุชน แต่การสละขันธ์ด้วยวิธีนี้เป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้ท่านถึงนิพพานเป็นเพียงกระบวนการ “ทำให้สิ้นไปซึ่งขันธ์ 5”
การปลดเปลื้องขันธ์เพื่อเข้าถึงนิพพานนี้ก็ยังใช้วิธีอื่นด้วย เช่น
กรณีของพระอานนท์
ก่อนที่ท่านจะเข้าถึงนิพพานก็มีข้อถกเถียงกันในเรื่องของอัฐิธาตุของท่านนั้นเองว่าจะถูกแบ่งไปให้พระญาติทั้งสองฝั่งแม่น้ำโหริณีอย่างไรดี เพราะพระญาติทั้งสองฝั่งต่างก็ไม่ยอมให้กัน
พระอานนท์เห็นว่าหากปล่อยไปเช่นนี้จะเกิดการทะเลาะกันขึ้น จึงได้ตัดสินใจเข้าเตโชธาตุ (ไฟ) ท่านจัดการแยกร่างกลางอากาศแล้วเผาร่างกายแตกออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งให้ตกอยู่ที่ฝั่งกบิลพัสดุ์ อีกส่วนให้ตกที่ฝั่งเทวทหะ เพื่อให้พระญาติทั้งสองฝั่งแบ่งอัฐิธาตุนำไปสักการบูชา
ดังนั้นการปลดเปลื้องขันธ์แบบพระอรหันต์ไม่ได้หมายความว่า เป็นการกระทำที่เป็นการฆ่าตัวตายโดยมีพื้นฐานของ “วิภวตัณหา” คือความไม่อยากที่จะมีชีวิตอยู่ หรือแม้แต่ไม่อยากที่ได้รับการเป็นอยู่ในสภาพนั้นๆ
เหล่าปุถุชนไม่อาจหยั่งทราบภาวะของพระอรหันต์ได้ว่า เหตุใดท่านจึงทำเช่นนั้น และไม่ทำเช่นนั้น เพราะบางครั้งทำในเรื่องเดียวกันลักษณะเดียวกัน แต่การทำของปุถุชนนำไปสู่ทุคติ แต่การทำของพระอรหันต์นั้นจะไม่มีผลใดให้เกิดผลต่ออีก เพราะการกระทำของพระอรหันต์เป็นเพียงกิริยาอาการเท่านั้น
ส่วนการฆ่าตัวตายโดยทั่วไปของสัตว์โลกและเป็นการฆ่าตัวตายที่พระพุทธองค์ทรงตำหนิมาก ก็เพราะ จิตของเขาต้องอยู่ในสภาพที่เศร้าหมองอย่างยิ่งและเต็มไปด้วย “วิภวตัณหา” คือไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อเพราะไม่สามารถรับมือกับความทุกข์ได้ เขาจึงจะฆ่าตัวตาย ดังนั้นทันทีที่เขาตาย จิตเศร้าหมองทุคติ จะนำไปเกิดในที่อื่นไม่ได้เลย นอกจากนรกหรืออบายภูมิเพียงอย่างเดียว
การฆ่าตัวตายที่พระพุทธองค์ตำหนิในตามประวัติสมัยพุทธกาล โดยสมัยหนึ่ง พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงวิธีการเจริญกรรมฐานแก่เหล่าภิกษุทั้งหลาย โดยแสดงการเจริญ “อสุภกรรมฐาน” คือให้พิจารณาร่างกายเป็นของไม่สวยไม่งามเสียเพื่อที่จะได้ปลงสังเวชแก่ร่างกายไม่ยึดติดเอาความสวยงามน่าหลงใหลต่างๆ มาเป็นอารมณ์
จากนั้นพระพุทธองค์ก็ทรงหลีกเร้นไปอยู่ในป่ามหาวันเพียงรูปเดียวตลอดครึ่งเดือนเพื่อทำการพักผ่อนจิตโดยใช้หลักอานาปานสติ โดยทรงอนุญาตให้ภิกษุเฉพาะรูปที่ส่งอาหารบิณฑบาตเท่านั้นเข้าเฝ้าได้ รูปอื่นห้ามเข้าเฝ้า
ส่วนบรรดาภิกษุทั้งหลายได้พากันเจริญอสุภกรรมฐาน จนบางรูปเกิดความเบื่อหน่ายในชีวิต เพราะเห็นว่าร่างกายเต็มไปด้วยมูตรคูถต่างๆ จึงได้ฆ่าตัวเองตายไปบ้าง บางรูปก็วานให้ภิกษุอื่นช่วยฆ่าตนเองบ้าง ส่วนภิกษุอีกเหล่าหนึ่งได้จ้างวานให้คฤหัสถ์ให้ช่วยฆ่าตัวเองให้ตาย โดยให้บาตรและจีวรเป็นรางวัล ซึ่งก็ได้มีการฆ่าพระตายไปเป็นจำนวนมาก
เมื่อพระพุทธเจ้าทรงออกจากกรรมฐานพบเห็นว่ามีภิกษุเหลือน้อยลงไปเป็นอันมากจึงสอบถามก็ทราบความว่าภิกษุที่ตายไปเพราะเกิดความเบื่อหน่ายในร่างกายตนเองจึงได้พากันฆ่าตัวตายบ้าง หรือให้ผู้อื่นช่วยฆ่าตนเองบ้าง พระพุทธเจ้าทรงตำหนิการกระทำเช่นนี้เป็นอย่างยิ่งจึงบัญญัติวินัยการฆ่าผู้อื่นเป็นอาบัติปาราชิก ส่วนการฆ่าตัวเองตายเองเป็นอาบัติทุกกฎ
กรรมที่ฆ่าตัวตายด้วยจิตที่ยังเจือด้วยกิเลสถือเป็นกรรมหนักมาก และต้องมีนรก อบายภูมิเป็นที่ไปแน่นอน
ที่มา..
http://torthammarak.wordpress.com
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
4
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-6-14 08:21
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ความเกิดน่ากลัวนัก น่ากลัวกว่าความตายแน่นอน
แต่ส่วนมากพากันกลัวความตาย โดยไม่ได้นึกถึงความเกิดเลย
พากันไปเกิดลำบากยากเย็นก็เพราะเหตุนี้
เมื่อไม่นึกถึงความเกิดก็ย่อมไม่เตรียมสร้างภพภูมิใหม่ให้งดงามสำหรับความเกิดใหม่
ผู้ใจกล้าบางคนทำลายชีวิตได้ทั้งที่เป็นการกระทำที่น่ากลัวอย่างยิ่ง
คนฆ่าตัวตายนั้นท่านว่าไว้ว่าจะต้องไปฆ่าตัวตายอีก ๕๐๐ ชาติ
นั่นก็คือจะต้องไปมีสภาพที่ทุกข์ทรมานจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปถึง ๕๐๐ ชาติ
ถ้าชาตินี้จะเป็นการฆ่าตัวตายครั้งแรก
ถ้าเป็นการฆ่าตัวตายชาติที่ ๔๙๙ แล้วก็คงเหลือต้องลำบากยากเข็ญอีกเพียงชาติหน้าชาติเดียว
อย่างไรก็ตามอย่าคิดว่าการฆ่าตัวตายชาตินี้เป็นชาติที่ ๔๙๙ จะดีกว่า
คิดว่าเป็นชาติแรกของการฆ่าตัวตายเถิด
ขืนฆ่าตัวตายชาตินี้เพื่อหนีอะไรก็ตามที่รู้สึกว่ารับไม่ได้ตายเสียดีกว่า จะสบายกว่า
ขืนคิดผิด ก็จะเสี่ยงกับการต้องไปรับผลของบาปกรรม
ต้องทุกข์ร้อนแสนสาหัสจนทนไม่ได้ ต้องฆ่าตัวตายอีกต่อไปและต่อไป จนครบ ๕๐๐ ชาติ
น่ากลัวที่สุด จะฆ่าตัวตายชาตินี้เพื่อหนีความทุกข์
ดูก็น่าทำเพราะดูเหมือนความตายจะพาให้หนีทุกข์ได้
แต่อย่าลืมความเกิดที่จะตามความตายมาทันที ดังที่กล่าวแล้ว
จะเกิดพบผลแห่งกรรมของการฆ่าตัวตาย ต้องทุกข์ทรมานจนต้องคิดฆ่าตัวตายอีกจนได้
ตรงนี้ที่ว่าควรกลัวความเกิดมากกว่าความตาย ตายไม่ยาก วินาทีเดียวก็ตายได้
แต่ไม่ได้ตายอยู่นาน วินาทีเดียวก็ไปเกิดใหม่แล้วความตายจะมีประโยชน์อะไร
มีแต่จะนำทุกข์โทษตามมาเท่านั้นแม้ไม่เตรียมการเกิดหลังการตายใจภพภูมินี้ให้ดี
: วิสาขบูชา ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๔๓
: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
morntanti
morntanti
ออฟไลน์
เครดิต
10113
5
#
โพสต์ 2013-6-14 10:04
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
รู้แค่จะกลับมาทำสิ่งนั้นซ้ำๆจนกว่าจะถึงอายุไขจริงที่ผู้นั้นจะต้องไป...
การฆ่าตัวตายอาจเป็นการจบปัญหาขอตัวเอง...แต่เป็นการเพิ่มปัญหาให้ผู้ที่ยังอยู่...
ชีวิตคนเราคงไม่อยู่ถึงร้อยปี...ไม่นานวันนั้นก็มาถึงจะรีบไปทำไม...
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Nujeab
Nujeab
ออฟไลน์
เครดิต
27800
6
#
โพสต์ 2013-6-14 14:27
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
น่ากลัวมากๆ
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
7
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2018-6-12 05:36
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...