ในขณะที่บัฟเฟตต์ ได้ชื่อว่าเป็นต้นแบบของการลงทุนแบบเน้นคุณค่าที่มองหากิจการที่มีคุณภาพสูงแต่โซรอสนั้นโด่งดังเป็นอย่างมากในฐานะนักเก็งกำไรระดับโลก ด้านปรัชญาการลงทุนนั้น โซรอสได้นำเสนอทฤษฏี “Reflexivity” (การสะท้อนกลับ) ที่ได้สร้างผลกระทบต่อวงการลงทุนอย่างมหาศาล ไว้โดยมีใจความสำคัญคือ “อคติของคนหมู่มากกระทบต่อราคาหุ้น และกระทบต่อไปยังพื้นฐานของหุ้น การเปลี่ยนแปลงของราคาตลาดก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของราคาตลาดอย่างต่อเนื่อง” ฟังดูงงๆใช่ไหม? การที่ราคาหุ้นเปลี่ยนทำให้ราคาหุ้นเปลี่ยนต่อไป มันคืออะไร? ลองมาดูตัวอย่างกัน ในขณะที่ราคาหุ้นกำลังพุ่งสูงขึ้น โดยทั่วไปนักลงทุนจะรู้สึกว่าตัวเองรวยขึ้นทำให้ใช้จ่ายมากขึ้น บริษัททั่วไปจึงมียอดขายและกำไรเพิ่มขึ้น ต่อมาตลาดจึงสรุปว่า “พื้นฐานของบริษัทดีขึ้น” ส่งผลให้ราคาหุ้นขึ้นต่อไปอีก เมื่อวงจรนี้ดำเนินไปเรื่อยๆ หุ้นก็มีแนวโน้มที่จะขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง ในทางกลับกัน
แนวโน้มนี้อาจเกิดขึ้นกับการตกลงของราคาก็ได้เช่นกัน มาดูตัวอย่างจริงๆกันอีกสักที ช่วงก่อนวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540 หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศลอยตัวค่าเงินบาท บริษัทมีหนี้เพิ่มมหาศาล หลายกิจการปิดตัวลง นักลงทุนทิ้งหุ้นไทย ตลาดหุ้นตกระเนระนาด ต่างชาติขายเงินบาท เงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง บริษัทไทยที่เหลือรอด จัดการลดต้นทุน ปลดคนงาน อัตราว่างงานเพิ่ม คนไม่มีเงินใช้ คนที่มีก็ไม่ใช้ ตลาดหุ้นยังตกต่อเนื่อง วนลูปไปเรื่อยๆ โซรอสนั้นเฝ้าดูมาตลอดว่าค่าเงินบาทไทยต้องอ่อนค่า กองทุน Quantum Fund ของเขาได้ทำการชอร์ต (การทำกำไรจากขาลง) เงินบาทอย่างมหาศาล ผลคือเงินบาทที่ร่วงอยู่แล้วถูกซ้ำเติมให้ร่วงเข้าไปอีก ที่น่าสนใจคือ สำหรับบางคน โซรอส เปรียบเสมือนอาชญากรทางการเงิน ในขณะที่บางคนในวงการเก็งกำไรเปรียบเขาดั่งศาสดาเลยทีเดียว ถ้าทฤษฎีของ โซรอส เป็นจริง การที่ตลาดหุ้นขึ้น ALL TIME HIGH แบบนี้ อาจจะส่งผลให้คนกำไรหุ้นกล้าใช้จ่ายมากขึ้น และทำให้ผลประกอบการบริษัทดีขึ้น เป็นลูปแห่งความรุ่งโรจน์ก็เป็นได้..
———————-
<ad> ถ้าพอร์ตการลงทุนเรายังไม่ประสบความสำเร็จเหมือนโซรอส ลองมาทำความรู้จัก MARTY กองทุนเปิด AI จาก Think Algo จุดเด่นของกองทุนนี้คือการวิเคราะห์สถิติจาก BIG DATA ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.think-algo.com/ทำความรู้จักกับ-marty-กองทุน/
———————-
|