พระสุชาติได้รับการยืนยันอย่างแข็งขันเช่นนั้น นึกขึ้นมาได้ก็เลยชี้ให้น้องสาวดูภาพถ่ายของพระอาจารย์ต่าง ๆ ที่แขวนบ้าง ตั้งบ้างอยู่ในห้อง แล้วถามว่า องค์นี้ใช่ไหม ? น้องก็ตอบว่า ไม่ใช่ องค์นั้นล่ะ ? น้องก็บอกอีกว่า ไม่ใช่ พระสุชาติถามเกือบทุกองค์ทั้งๆ ที่บางองค์ยังมีชีวิตอยู่และบางองค์ก็มรณภาพหรือสิ้นพระชนม์ไปแล้ว น้องสาวก็ตอบว่า ไม่ใช่ทั้งสิ้น แต่ครั้นพระสุชาติชี้ไปที่พระรูปของ "สมเด็จกรมหลวงวชิรญาณวงศ์" น้องก็รีบบอกทันทีว่า "องค์นี้แหละ องค์นี้แหละหนูจำได้แน่นอน แก้มของท่านยุ้ยๆ หน้าตาท่านยิ้มๆ เหมือนคนใจดี" เมื่อพระสุชาติทราบเช่นนี้นก็ไม่ได้ถามอะไรต่อไปอีกและไม่ได้บอกกับน้องด้วยว่า พระรูปนั้นเป็นใครเพราะเกรงว่าน้องจะกลัว คุณสนิท ธนรักษ์ บอกว่า เมื่อพระสุชาติเล่าจนจบก็ทำให้ท่านคิดว่า พระหลวงตาแก่ๆ ที่ไปอบรมโยมแม่ของสามเณรหน่วยที่ตึกพักตรพิมลพรรณ นั้นน่าจะเป็นพระวิญญาณของ "สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ฯ" เพราะโดยปกติพระองค์ท่านประทับอยู่ที่ตึกบัญจบเบญจมา ซึ่งถ้าไม่สังเกตให้ดี มักจะเข้าใจว่าเป็นตึกหลังเดียวกัน (กับตึกพักตรพิมลพรรณ) แต่ที่แท้เป็นคนละหลัง และสร้างคนละคราว หากแต่ทางวัดได้ต่อเฉลียงชั้นบนให้ถึงกันได้ในภายหลัง
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ เป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราชเมื่อปี พ.ศ๒๔๘๘ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ทรงดำรงตำแหน่งอยู่ ๑๔ พรรษา สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๐๑ สิริพระชนมายุ ๘๖ พรรษา สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๐๑ เวลา ๐๑.๐๘ น. พระศพตั้งบำเพ็ญกุศล ณ ตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร คณะปฏิวัติให้สถานที่ราชการทุกแห่งลดธงลงครึ่งเสา ๓ วัน และให้ข้าราชการไว้ทุกข์ ๑๕ วันเพื่อถวายความอาลัยและได้รับพระราชทานเพลิงพระศพ ณ พระเมรุวัดเทพศิรินราวาส เมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน พ.ศ.๒๕๐๓
เรียบเรียงโดย เสาวลักษณ์ แสงสุวรรณ
|