ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
ตำนานพระเกจิอาจารย์แห่งแดนสยาม
»
หลวงพ่อปั้น วัดพิกุล (โสคัณธ์) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 2618
ตอบกลับ: 2
หลวงพ่อปั้น วัดพิกุล (โสคัณธ์) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
[คัดลอกลิงก์]
oustayutt
oustayutt
ออฟไลน์
เครดิต
22903
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2017-11-26 20:17
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
[size=18.6667px]หลวงพ่อปั้นเป็นเป็นพระเถระยุคเก่าที่ได้รับการยกย่องในด้านพุทธคุณว่า “ ทรงคุณวุฒิด้านกฤติคุณ ในด้านความขลัง และมีความศักดิ์สิทธิ์ตลอดกาล ” เพชรเม็ดเอกแห่งพระคณาจารย์เมืองคนดีศรีอยุธยาที่ควรได้รับการยกย่องและสดุดี ในบารมีของหลวงพ่อปั้นแห่งวัดพิกุลโสคัณธ์ หลวง พ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก และอีกหลายพระคณาจารย์ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองอยุธยา ก็ยังเป็นศิษย์หลวงพ่อปั้น วัดพิกุลโสคัณธ์ ถ้า ท่านไม่โด่งดังจริงก็คงจะไม่มีรูปหล่อของหลวงพ่อปั้นถึง 3 วัด ใน 3 จังหวัดและถ้า ท่านได้ศึกษาประวัติของท่านตั้งแต่ต้น แต่ต้นจนจบ ก็คงสรุปได้เช่นเดียวกันว่า “ หลวงพ่อปั้นควรได้รับการยกย่องเป็นพระเถระที่ทรงวิทยาคุณที่หายากยิ่ง”
[size=18.6667px]ชีวประวัติครั้งเยาว์วัย
[size=18.6667px]เมื่อครั้งท่านยังเป็นเด็ก เล่ากันว่า ... เด็กชายปั้นมีนิสัยเมตตา ไม่เบียดเบียนสัตว์ ชอบประพฤติปฏิบัติทางที่เป็นกุศล คือให้ความ ช่วยเหลือบุคคลอื่นด้วยความเมตตา ไม่ชอบกินเนื้อสัตว์ ถ้าพ่อแม่จับปลาขังไว้กินก็เป็นอันว่า ต้องผิดหวัง คือจะเหลือแต่น้ำที่ปราศจากปลา เพราะเด็กชายปั้นจะนำปลาไปปล่อย เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นเป็นที่โจษขานเลื่องลือไปทั่ว กระทั่งกล่าวขานกันว่า เด็กชายปั้นน่ากลัว จะมาเกิดเป็นชาติสุดท้าย จึงได้มีความเมตตา กรุณา และชอบธรรม มาตั้งแต่เป็นเด็กทั้งที่ไม่มีใคร สั่งสอน สมดังคำโบราณที่ว่า “หนามจะแหลมไม่ต้องมีใครเสี้ยมสอนมันก็แหลมของมันเอง” ครั้นพอโตขึ้น ก็ ชอบเข้าวัดฟังธรรม และใฝ่ใจอยู่ตลอดเวลาที่จะบรรพชา อุปสมบทฝ่ายบิดา มารดา แม้ว่าจะฐานะไม่ดีนักแต่ก็ตามใจบุตรจึงอนุญาตให้บรรพชาเป็นสามเณร ต่อมาเมื่ออายุครบ 20 ปี ก็จัดอุปสมบทให้ตามประเพณีที่วัดพิกุลโสคัณธ์ จังหวัดพระนครสรีอยุธยา
[size=18.6667px]ประมาณพรรษาที่ 3 พระ ปั้นได้ออกธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพร ยังความเป็นทุกข์ร้อนให้กับพ่อแม่ที่เป็นห่วง ครั้นใกล้ถึงพรรษาพระปั้นจึงเดินทางกลับวัดพิกุล ปรากฏว่าโยมบิดามารดา
[size=18.6667px]รู้สึกดีใจเป็นยิ่งนัก พระปั้นเป็นพระที่เคร่งในพระธรรมวินัย ลงอุโบสถสวดมนต์ไม่ขาดและแทบทุกปีจะต้อง ธุดงค์วัตรไปตามสถานที่ต่าง ๆ สุด แท้แต่ท่านปรารถนาจะไป
[size=18.6667px]ประมาณพรรษาที่ 5 ได้มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น คือโยมบิดาพาพระปั้นไปวัดหน้าต่างนอก เมื่อถึงวัดหน้าต่างนอก หลวงปู่เฒ่าพระชราจึงถามดยมบิดาพระปั้นว่า มีธุระอะไรหรือโยมบิดาพระปั้นจึงบอกวัตถุประสงค์ว่า “อยากให้หลวงปู่เฒ่ารดน้ำมนต์ให้พระปั้นสักหน่อย เพราะดูแล้วพระปั้นจะผิดปกติ”พระปั้นท่านก็ไม่พูดอะไร หลวงปู่เฒ่าท่านเพ่งพินิจดูพระปั้นแล้วกล่าวทำนองว่า
[size=18.6667px]“ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ มาเสียเวลาเปล่า”แต่โยมบิดาพระปั้นก็พยายามอ้อนวอน ในที่สุด หลวงปู่เฒ่าทนอ้อนวอนไม่ไหวก็บอกว่า“เอ้า ! จะรดน้ำมนต์ก็จะทำให้”พอเสร็จพิธีแล้ว หลวงปู่เฒ่าก็กล่าวทำนองว่า“ไม่รู้ว่าผู้ถูกรดน้ำมนต์หรือผู้รดน้ำมนต์ จะสติไม่ดีแน่” แล้วชมพระปั้นว่า“เป็นพระมีวิชา และมีความกตัญญูดี”
[size=18.6667px]หลวงพ่อปั้นผจญภัยในป่าใหญ่
[size=18.6667px]ดังที่ไม่กล่าวมาแล้วพระปั้นท่านยึดธุดงค์วัตรทุกปี ดังนั้นเมื่อท่านมีพรรษามาก กิตติศัพท์ชื่อเสียงของหลวงพ่อจึงขจรขยายไปทั่ว ได้มีพระมาฝากตัวเป็นศิษย์ ขอร่วมธุดงค์ไปกับท่านทุกปี ครั้ง หนึ่ง พระปั้นพาพระธุดงค์ไปทางเหนือ แล้วจึงปักกลดท่ามกลางป่าดงพงไพรก่อนค่ำนั้น ได้มีชาวบ้านถือดอกไม้มานมัสการคณะพระธุดงค์ แล้วขอนิมนต์คณะพระธุดงค์ไปปักกลดใกล้หมู่บ้าน โดยบอกว่า “ ละแวกนั้นมีเสือดุร้ายมาชุมนุมและหาอาหาร อาจเป็นภัยอันตรายเหมือนพระธุดงค์บางองค์ซึ่งเคยเสียชีวิตไปแล้ว ” หลวงพ่อปั้นท่านก็ซักถามเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น แล้วกล่าวว่า “ พระธุดงค์เมื่อปักกลดแล้วจะถอนกลดนั้นไม่ได้ ” จากนั้นท่านก็เทศน์โปรดโยมที่มาบอกข่าว พร้อมกับบอกโยมทั้งหลายที่มาว่า
[size=18.6667px]“ ธรรมดาของชีวิต เมื่อเกิดก็ต้องมีตาย ไม่มีใครลุล่วงความไม่ตายไปได้การที่ท่าน ทั้งหลายแนะนำและปรารถนาดีก็เป็นบุญกุศลแล้ว ท่านทั้งหลายจงสบายใจได้ว่าหลวงพ่อและคณะพระธุดงค์ไม่ได้เบียดเบียนใคร สัตว์ อยู่อย่างสัตว์ เราต่างคนต่างอยู่ก็คงไม่มีภัยอันตรายแต่ประการใด และขอท่านที่มาไม่ต้องเป็นห่วงเพราะท่านอุทิศร่างกายเพื่อ ศาสนา อำนาจคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์คุ้มภัยได้แน่ ”
[size=18.6667px]เมื่อชาวบ้านกลับไปหมดแล้ว หลวงพ่อปั้นก็บอกพระธุดงค์ทุกองค์ว่า“ ไม่ต้องหวาดกลัวภัยอันตรายใดๆ ถ้าหวาดกลัวภัยขอให้มีสมาชิกจิตภาวนา พุทโธ ธัมโม สังโฆ ”จาก นั้นท่านก็เข้ากลดทำวัตรสวดมนต์แผ่เมตตา แล้วเข้าฌาณสมาธิเหมือนเหตุการณ์ปกติครั้นเวลาประมาณ 5 ทุ่มเศษ ได้ยินเสียงเจ้าพยัคฆ์ร้ายส่งเสียงคำรามมาแต่ไกล ท่านก็นั่งนิ่งแผ่เมตตา ด้วยพลังจิตอันบริสุทธิ์ เจ้าพยัคฆ์ร้ายตัวนั้นมันยังคำรามและเข้ามา ป้วนเปี้ยนใกล้ๆ กลดพระธุดงค์ แต่พอใกล้กลดหลวงพ่อปั้นมันหยุดคำราม หมอบสงบนิ่งเหมือนผู้มาฝากตัวเป็นศิษย์ พอใกล้สว่างเสือร้ายก็จากไปบรรดา ชาวบ้านรีบมาดูพระธุดงค์ แต่เช้าว่ายังอยู่ครบหรือเปล่า เมื่อเห็นว่าอยู่ครบก็พากันกลับไปนำอาหารมาถวายพระ แล้วสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
[size=18.6667px]หลวงพ่อปั้นท่านก็เล่าให้ฟัง
[size=18.6667px]ชาว บ้านและแวกนั้นก็รู้สึกศรัทธาคณะพระธุดงค์เป็นอย่างมาก ครั้นรู้ว่าหลวงพ่อปั้นจะพาพระธุดงค์ออกเดินทางต่อก็รู้สึกเสียดายเป็นยิ่ง นัก
[size=18.6667px]สำหรับเหตุการณ์พิเศษที่ควรจะได้กล่าวไว้ก็คือ
[size=18.6667px]1.ครั้งหนึ่งหลวงพ่อปั้นออกบิณฑบาตกลางป่า ในขณะที่ พระธุดงค์องค์อื่นบิณฑบาตไม่ได้ข้าวและกลับข้าวเลย เพราะอยู่กลางป่าและไกลจากหมู่บ้านมาก จึงกลับที่ปักกลดสำหรับหลวงพ่อปั้นนั้น ท่านบิณฑบาตได้ข้าวและอาหารมาเต็มบาตรพอที่จะแบ่งให้ พระธุดงค์ได้ฉันประทังชีวิตไปได้ และนอกจากนั้นยังกลับถึงที่ปักกลดก่อนพระธุดงค์องค์อื่นอีกด้วยเหตุการณ์ ครั้งนั้นเป็นโจษขานเล่าลือกันว่า หลวงพ่อปั้นสำเร็จและบรรลุธรรมชั้นสูงแล้วจึงได้ มีเทวดา
[size=18.6667px]
นางฟ้า
[size=18.6667px] เจ้าฟ้า เจ้าป่ามาตักบาตร หรือไม่ก็ช่วยย่นระยะทางที่ไปบิณฑบาตเป็นแน่ซึ่งเป็นที่สงสัย ของพระธุดงค์ด้วยกัน แต่ก็ไม่มีใครกล้าเรียนถาม2. หลวงพ่อปั้นสร้างวัดเนินกุ่ม เพราะ กตัญญูต่อพุทธศาสนา ครั้งหนึ่งเมื่อหลวงพ่อปั้นธุดงค์ มาองค์เดียว ปักกลดในป่าแห่งหนึ่งมีชื่อว่า ป่าดงหมี ( เข้าใจว่าคงจะไม่ไกลจากหมู่บ้านเนินกุ่มมากนัก ) รอบๆที่ปักกลดของหลวงพ่อเต็มไปด้วยป่าดูวังเวงตก ดึกคืนนั้น ไม่รู้ว่าเหตุอันใดไฟป่าได้ลุกลามเข้ามารอบด้น เป็นผลทำให้ละแวกที่หลวงพ่อ ปักกลดอยู่ในเขตอันตราย ไฟเข้ามารอบทิศของกลด หลวงพ่อปั้นพระธุดงค์ผู้เรืองวิชากำลังจะหมดหวัง เพราะไม่ได้เรียนวิชาเรียกฝนดับไฟหลวง พ่อปั้นท่านเล่าให้ชาวบ้านในละแวกนั้นฟังว่า ท่านเองก็คิดว่าครั้งนี้คงจะต้องมรณภาพที่ป่าดงหมีเป็นแน่แล้ว ท่านก็สงบจิต นั่งสมาธิ และแล้วเมื่อจิตเข้าสมาธิท่านได้ยินเสียงลอยมาว่า “สุกโกปัญจะ” ท่านภาวนาเช่นนั้น ต่อมาท่านเห็นคาถาลอยมาว่า “พระโส นามะยักโข เมตะทันตะ ปะริวาสะโก อสุณีทะเต ชะยะมัง คะลานิ สุกโกปัญจะ อากาเสจะ พุทธิมังกะโร นะโม พุทธายะ” ท่านจึงกำหนดจิตว่าตามพระคาถาเหล่านั้นจนจบ 3 ครั้ง ปรากฏการณ์มหัศจรรย์ก็บังเกิดขึ้น ไฟป่ารอบ ๆ กลดดับหมดเมื่อ ท่านรอดชีวิตจากไฟป่าครั้งนั้น ต่อมาได้พบชาวบ้านเนินกุ่ม ครั้นสอบถามจึงรู้ว่าบ้านเนินกุ่มเป็นหมู่บ้านที่ใกล้จากเหตุการณ์ไฟไหม้ป่า มากที่สุดฝ่าย ชาวบ้านเนินกุ่มเมื่อพบหลวงพ่อก็เกิดศรัทธา จึง นิมนต์หลวงพ่อไปปักกลดละแวกหมู่บ้าน ซึ่งมีจำนวนไม่กี่หลังคาเรือน หลวงพ่อปั้นท่านรับนิมนต์ ต่อมาท่านได้สร้างวัดเนินกุ่มในปัจจุบันนี้นั้นเอง ตั้งอยู่ที่ตำบลเนินกุ่ม อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก ชาวบ้านเนินกุ่มเคารพศรัทธาหลวงพ่อมาก เพราะประจักษ์ในความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อดังเรื่องที่เล่าพอสังเขป ดังนี้
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
oustayutt
oustayutt
ออฟไลน์
เครดิต
22903
2
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2017-11-26 20:19
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
[size=18.6667px]1. หลวงพ่อปั้นบังตาได้
[size=18.6667px]ครั้งหนึ่งในอดีต เมื่อประมาณ 70 ปีมาแล้ว ปีนั้นเกิดอุทกภัย น้ำท่วมไร่นาเสียหายเป็นจำนวนมาก น้ำป่าท่วมมีสีแดง ชาวบ้านเนินกุ่มเรียกปีนั้นว่าปีน้ำแดง บรรดาสัตว์ป่าจะละทิ้งป่าไปอยู่ตาม ที่ดอนเพื่อเอาชีวิตรอด อาชีพใหม่ของชาวบ้านคือล่าเนื้อสัตว์เป็นอาหารและขายแทบจะทุกวัน หลวงพ่อปั้นท่านมีความเมตตาจึงพาพระลูกวัดขึ้นไปทางเหนือบ้านเนินกุ่ม แล้วท่านก็หยุดกลางทุ่งนา หันหน้าไปทางทิศตะวันออกยืนยกมือ ซึ่งทิศที่หลวงพ่อหันไปนั้นมีบรรดาสัตว์ต่างๆ ไปหลบภัยเป็นจำนวนมากเมื่อหลวงพ่อทำพิธีเสร็จกลับวัดเนินกุ่ม
[size=18.6667px]ฝ่าย ชาวบ้านที่นิยมลาสัตว์เป็นอาหาร ไม่ได้ฉงนใจ จึงออกล่าสัตว์ตามปกติก็ไม่พบสัตว์จึงนึก แปลกประหลาดใจว่า สัตว์จำนวนมากไม่รู้หายไหนหมด จึงต้องเลิกล่าสัตว์ทิศนั้นเปลี่ยนทิศไป ทางอื่นจึงได้สัตว์ฝ่าย หลวงพ่อปั้นท่านรู้เหตุ ท่านจึงออกช่วยสัตว์ในลักษณะเดิม ชาวบ้านจึงรู้ว่าหลวงพ่อปั้น ท่านศักดิ์สิทธิ์บังตาได้ จึงโจษขานเลื่องลือไปทั่วถึงความเมตตาของหลวงพ่อ
[size=18.6667px]2. หลวงพ่อปั้นมีวาจาศักดิ์สิทธิ์
[size=18.6667px]เมื่อ ครั้งหลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ปรากฏว่า ชาวบ้านเนินกุ่ม เคารพศรัทธาหลวงพ่อมากถ้าหลวงพ่อจะก่อสร้างปูชนียสถานวัตถุสิ่งใดก็จะสำเร็จ ลุล่วงด้วยดีดัง นั้นวัดเนินกุ่มจึงมีถาวรวัตถุหลายอย่างเกิดขึ้น เช่น อุโบสถ หลังแรกของวัดเนินกุ่มเมื่อสร้างเสร็จแล้วทางวัดได้งานฉลองพระอุโบสถ พร้อมกับมีการจัดอาหารเลี้ยง ผู้มาช่วยงานและผู้มาเที่ยวงาน โดยมีป้าผันเป็นแม่ครัว หลวงพ่อปั้นท่านเป็นห่วงกลัวว่าอาหารจะไม่พอเลี้ยงผู้คน จึงมาสอบถามแม่ครัว ครั้นท่านเห็นว่าถ้วยชามจำนวนมากค่อย ๆ ล้างทีละใบมันช้าจะไม่ทันการ ท่านจึงบอกป้าผัน และคนล้างชามว่าให้ใส่ตะกร้าละหลาย ๆ ใบเขย่าในคลองจะได้เร็วขึ้น
[size=18.6667px]ป้าผันพูดว่า “ ถ้าทำตามหลวงพ่อว่า ถ้วยชามคงจะแตกหมด ”หลวงพ่อตอบว่า “ฉันรับรองไม่แตกจ้ะ ทำไปเถอะ”
[size=18.6667px]ป้า ผันและคนล้างชามไม่อยากจะเชื่อ จึงลองไปทำดู ปรากฏว่าล้างชามได้รวดเร็วทันใจและไม่มีชามแตกแม้แต่ใบเดียว ดังนั้นจึงเชื่อว่าท่านมีวาจาศักดิ์สิทธิ์แทบ ทุกปีที่งานวัดเนินกุ่มมักมีเหตุการณ์ไม่สู้ดีเกิดขึ้น ดังเช่นนายโต นักเลงชื่อดังละแวกบ้านเนินกุ่มมักจะก่อเหตุรบกวนคนอื่นคืนหนึ่งมีคนมาบอก หลวงพ่อปั้นว่า นายโตมาดูลิเกที่วัด กลัวว่าจะมีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้นเพราะนายโตชอบออกลวดลายทางนักเลง
[size=18.6667px]หลวงพ่อท่านก็พูดว่า “เขาอยู่ตรงหน้าโรงลิเกไม่เกะกะใครแน่ ”ครั้น ลิเกเลิกแล้ว นายโตก็นั่งอยู่ตรงนั้นไม่ยอมกลับบ้าน ทำให้ผิดสังเกต ลูกศิษย์ของหลวงพ่อ คนที่มาบอกครั้งแรกซึ่งเฝ้าสังเกตนายโตอยู่เห็นผิดปกติที่ลิเกเลิกตั้งนาน นายโตยังนั่งอยู่ทำไม จึงไป บอกหลวงพ่อท่านก็พูดว่า “เดี๋ยวนายโตก็กลับแล้ว” พอหลวงพ่อพูดจบนายโตก็ลุกจากหน้าโรงลิเกกลับบ้าน โดยเหตุการณ์ปกติผู้สร้างรูปหล่อหลวงพ่อปั้น คือ เจ๊กพงษ์ นางเขียว เพ็งผล สองสามีภรรยาซึ่ง แต่เดิมไม่ร่ำรวยอะไรมีอาชีพเลี้ยงหมูแล้วฆ่าขาย ต่อมาได้นำอาหารมาถวายหลวงพ่อปั้น หลวงพ่อมีความเมตตาจึงกล่าวว่า อยากรวยไหม สองสามีภรรยาจึงบอกว่า อยากรวย หลวงพ่อจึงบอกว่า “จะถือเป็นคำสัตย์ได้ไหมว่า ถ้าแนะนำแล้วจะต้องปฏิบัติตาม หากผิดสัญญาจะต้องมีอันเป็นไป ” สองสามีภรรยาตอบรับคำ หลวงพ่อว่าจะทำตามทุกอย่าง จากนั้นหลวงพ่อจึงบอกว่า “ ถ้าเลิกเลี้ยงหมู แล้วทำมาค้าขายอะไรก็จะ รวย แต่รวยแล้วอย่าโกงใคร ถ้าโกงหรือทำให้ใครได้รับทุกข์จะต้องมีอันเป็นไป อาทิ ตายไม่ดี ”และอีกเรื่องหนึ่งที่สองสามีภรรยาไม่ปฏิบัติตามสัจจะวาจาที่ให้ไว้กับหลวงพ่อภัยพิบัติจึงมาถึง ในบั้นปลาย เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อ บุตรสาวสองสามีภรรยาคู่นี้โตขึ้นพอจะมีคู่ครอง ปรากฏว่ามีหนุ่มที่มีฐานะดีมาชอบ แต่บุตรสาวไม่ชอบกลับไปชอบพระองค์หนึ่ง ชื่อ เปรื่อง ฐานะยากจนครั้นพระ เปรื่องลาสิกขาแล้ว พ่อแม่ฝ่ายหญิงกลัวว่าบุตรสาวจะได้กับทิดเปรื่องไม่สมกับฐานะ จึงวางแผนกำจัดคู่รักของบุตรสาว คือ ทิดเปรื่อง โดยตั้งข้อหาว่าทิดเปรื่องฆ่าคนในหมู่บ้าน ผลสุดท้ายทิดเปรื่องผู้บริสุทธิ์ต้องเข้าคุก ติดคุกอยู่นานถึง 11 ปีก่อนที่จะตายนับว่าสามีภรรยาคู่นี้กระทำผิด ฆ่าคนตายโดยไม่นึกถึงคำสัจจะที่ให้ไว้กับหลวงพ่อปั้นดังนั้นภัยร้ายได้มาถึง คือ สามีเป็นบ้าได้ลุยน้ำ ตายไปก่อนที่ฝ่ายภรรยาจะถูกลูกสาวยิงตายเพราะลูกสาวนั้นโรคประสาทกำเริบและ ตายอย่างน่าสมเพช
[size=18.6667px]3. หลวงพ่อปั้นมีจริยวัตรคล้ายกับสมเด็จพุฒาจารย์ ( โต ) พรหมรังสี วัดระฆัง
[size=18.6667px]เช่น ชอบอนุเคราะห์ช่วยเหลือคนยากจนช่วยเหลือผู้ที่มีภัย และท่านได้สร้างปูชนียวัตถุตามสถานที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับท่าน เช่น การบูรณะวัดเนินกุ่ม การสร้างพระประธานด้วยปูนปั้นการสร้างพระนอนที่วัดพิกุล ฯลฯ ถึงคราวหน้าออกพรรษาชาวเนินกุ่มจะหาเรือแจว ขนาดลำใหญ่พากหน้า 5 พายหลัง 3 ไปรับหลวงพ่อ โดยมีหลวงพ่อ โดยมีตาแจ่มกับตาโต๊ะศิษย์ผู้ใกล้ชิดเป็นผู้พายเรือไปรับหลวงพ่อที่วัดพิกุล ปี นั้นหลวงพ่อท่านอาพาธ แต่ท่านก็มาวัดเนินกุ่ม ครั้นเลยวัดน้ำทางผ่านพระตีกลองเพล ปรากฏว่า หลวงพ่อท่านจำวัด ตาแจ่มกับตาโต๊ะลืมปลุก อีกครู่หนึ่งท่านก็ตื่นจึงถามว่า “ เพลหรือยัง ” ตาแจ่มกับตาโต๊ะตอบว่า “ เพลไป แล้วขอรับหลวงพ่อ” ท่านมองดูพระอาทิตย์แล้วกล่าวว่า “ เพลที่ใดพายเรือกลับไปที่จุดจุดเพลนั้น” เมื่อ ถึงจุดเพลนั้นแล้ว ตาแจ่มกับตาโต๊ะจึงถวายอาหารเพล ท่านฉันอาหารนิดหน่อยก็ให้พรในลักษณะเรื่องที่เล่าก็คล้ายคลึงกับเหตุการณ์ ครั้งหนนึ่งของสมเด็จพุฒาจารย์ ( โต ) พรหมรังสีวัดระฆัง
[size=18.6667px]4. หลวงพ่อปั้นท่านรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า
[size=18.6667px]ครั้ง หนึ่งในสมัยของหลวงพ่อ ใน ปีนั้นเล่ากันว่าหลวงพ่อปั้นได้มาจำพรรษาที่ วัดเนินกุ่มในพรรษานั้นได้จัดงานพิเศษ และเป็นธรรมดาที่จะต้องมีผู้คนมาเที่ยวงาน เป็นจำนวนมากก่อน จะพลบค่ำ ท่านเรียกลูกศิษย์ของท่านมาประชุมเพื่อช่วยดูแลงานวัด พร้อมกันนั้นท่านก็สอนให้ศิษย์ของท่านอยู่ในความสงบไม่ต้องสู้รบปรบมือกับ ใครก็ปล่อยไม่ต้องทำการโต้ตอบท่าน ได้นำปูนแดงที่ปลูกเสกแล้วมากราบคอให้ศิษย์ของท่านทุกคน แล้วกำชับว่าไม่ต้องกลัวภัยใดๆ ใครจะทำอะไรก็ปล่อยเขา จากคำที่ท่านกล่าวไว้กับศิษย์ปรากฏว่าพวกโจรเขมร (ชาวบ้าน เรียกว่าโจรขมุ) ได้มาเที่ยวงานไนวัด และเกิดมีการทะเลาะวิวาทกับลูกศิษย์ของหลวงพ่อ พวกโจรชักปืนออกมายิงใส่ศิษย์ของหลวงพ่อ ปรากฏว่า มีแต่เสียงดัง “ แชะ แชะ” ทำให้พวกโจรตกใจกลัว จึงสั่งหมุนหนีเร็ว
[size=18.6667px]การที่ท่านอบรมและนำปูนแดงปลุกเสกมากรานคอให้กับศิษย์ก็เพราะว่าท่านรู้ว่าคืนนี้ต้อง
[size=18.6667px]มี เหตุการณ์เกิดขึ้นแน่ และ ท่านไม่อยากให้ศิษย์ของท่านบาปกรรมจึงขอศิษย์ไม่ให้ใช้กำลัง เว้นแต่ จะป้องกันตัวเมื่อภัยมาถึงตัวในระยะใกล้ ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้บรรดาศิษย์ของหลวงพ่อ และชาวบ้านเนินกุ่มต่างประจักษ์ในความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อปั้นกันถ้วน หน้า 5. รูปหล่อหลวงพ่อปั้นวัดเนินกุ่มศักดิ์สิทธิ์ มีเรื่องเล่ากันว่า รถขายยามาจอดขายยาโดยไม่บอกกล่าวกับหลวงพ่อในวัด ปรากฏว่าไฟฟ้าขัดข้องแก้อย่างไรก็ไม่ติดคนที่มารอดูหนังเก้อ เพราะ ช่างแก้ไฟฟ้าหมดปัญญา ต่อมามีศิษย์หลวงพ่อปั้นมาถามว่ามาตั้งโรงฉายหนังบอกกับท่าน จากนั้นจึงไปนมัสการรูปหล่อหลวงพ่อปั้นพร้อมขออนุญาตท่านปรากฎว่าไฟฟ้าที่ ขัดข้องก็สามารถแก้ไขได้โดยง่าย แทบไม่น่าเชื่อ คุณ ลุงนวล ชาวบ้านเนินกุ่มเล่าว่า เคยป่วยเป็นโรคท้องร่วงอย่างแรงเกือบหมดสติถึงกับคิดว่าครั้งนี้ต้องตายแน่ พอเคลิ้มหลับได้เกิดมีนิมิตถึงหลวงพ่อให้เอาน้ำมนต์มากินจึงจะหายป่วย นอก จากทั้งสองเรื่องนี้แล้ว ยังมีเรื่องอื่นๆ อีกจำนวนมากที่แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์ของรูปหล่อของหลวงพ่อปั้น เช่น ชาวเนินกุ่มมาขอให้ท่านช่วยเหลือสิ่งใดในสิ่งที่ไม่ผิดกฏหมายก็มักสัมฤทธิ์ ผล ดังนั้น เรื่องหนัง ลิเก จึงมีผู้นำมาถวายแก้บนกันอยู่เป็นประจำ
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
3
#
โพสต์ 2017-11-27 07:31
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...