ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
ตำนาน เรื่องเล่า เกร็ดความรู้ เรื่องลี้ลับ
»
ผีก็อยู่ส่วนผี คนก็อยู่ส่วนคน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 1841
ตอบกลับ: 3
ผีก็อยู่ส่วนผี คนก็อยู่ส่วนคน
[คัดลอกลิงก์]
oustayutt
oustayutt
ออฟไลน์
เครดิต
22903
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2017-9-24 22:08
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
เรื่องของความเฮี้ยนไม่เลิกรานี้ว่ากันว่าในครั้งนั้นไม่มีใครกล้าเฉียดกรายไปใกล้บ้านร้างนั้นเลยเพราะหลายคนที่เจอมาเล่าตรงกันว่า
เวลาเดินผ่านบ้านแม่พวยมักจะได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้โหยหวนอย่างน่าสงสารดังลอดมาจากภายในบ้านร้างนั้นคล้ายกำลังร้องเรียกหาลูกและสามีที่ทอดทิ้งไปอยู่ไกล
กิตติศัพท์ของผีแม่พวยที่บ้านร้างยังปรากฏให้คนเห็นอยู่เนืองๆมีเรื่องเล่าถึงแม่ค้าพายเรือขายขนมหวานอยู่คนหนึ่ง…ซึ่งแกเพิ่งมาอยู่ที่บางปลาม้าใหม่ๆก็ยังไม่รู้ถึงกิตติศัพท์ความเฮี้ยนของผีแม่พวยที่บ้านร้าง
ทุกวันป้าแกก็พายเรือผ่านบ้านแม่พวยเพื่อไปขายขนม พอตกค่ำก็พายเรือกลับบ้าน วันหนึ่งขณะพายเรือมาใกล้สะพานท่าน้ำบ้านแม่พวยแกก็เห็นผู้หญิงผมยาวผิวขาวท้องแก่ มายืนกวักมือเรียกที่หัวสะพานเพื่อซื้อขนม แกก็ดีใจรีบเอาเรือเข้าไปเทียบ ถามว่า…
“จะรับขนมอะไรจ้ะ” ผู้หญิงคนนั้นก็ว่า “มีอะไรก็ห่อมาเถอะ ฉันไม่ได้กินขนมหวานมานานแล้ว” แม่ค้าขนมก็จัดแจงห่อขนมให้
แล้วยังได้ยินเสียงผู้หญิงคนนั้นบอกอีกว่า”วางขนมไว้ที่ชันบันไดนั่นแหล่ะ เดี๋ยวจะลงไปเอา ”
“ป้าแม่ค้าขนมหันไปห่อขนมเรียบร้อยจัดวางเรียบไว้บนชั้นบันไดเสร็จจึงเงยหน้ามอง แต่กลับไม่เห็นมีใครอยู่บนหัวสะพาน แกก็ตะโกนเรียกให้มาเอาขนมแต่ก็เงียบ ผิดสังเกตเข้าแกจึงขึ้นบันไดไปดู พอเห็นสภาพบริเวณบ้านแกก็รู้สึกชาวูบไปทั้งตัว
เพราะบ้านหลังใหญ่นั้นส่อว่าเป็นบ้านร้างที่ไม่มีคนอยู่มานาน มีหญ้าขึ้นรกแน่นขนัดบิดทางเดิน แล้วผู้หญิงท้องแก่ที่มายืนเรียกอยู่ที่ท่าน้ำนั้นจะอยู่ได้อย่างไร แล้วไม่รู้ว่าจู่ๆหายไปไหน คิดได้แล้วก็ขนหัวลุกตั้งรีบลนลานลงบันได จ้ำผีพายอ้าว ทิ้งขนมหวานซึ่งห่ออย่างเรียบร้อยไว้ตรงนั้น
หนักเข้าผีเฮี้ยนจากบ้านร้างก็อาละวาดในตอนกลางวัน เช่น บางวันบ้านร้างที่ถูกปิดตายมานานจะถูกเปิดอ้ารับลม บางครั้งมีผู้หญิงโผล่ออกมาทำความสะอาดให้เห็น ในมือถือไม้กวาดเดินปัดกวาดพื้น แถมยังร้องเพลงอย่างสบายอารมณ์ !!!
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
oustayutt
oustayutt
ออฟไลน์
เครดิต
22903
2
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2017-9-24 22:08
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ผีแม่พวยยังเที่ยวหลอกหลอนผู้คนไปทั่วจนบางรายถึงกับจับไข้หัวโกร๋นชาวบ้านจึงชักจะทนไม่ไหว ปรึกษาหารือกันว่าต้องหาใครมาจัดการให้วิญญาณสงบ ไม่เช่นนั้นคงต้องมีใครตายกันบ้าง ดังนั้นชาวบ้านบางปลาม้ากลุ่มหนึ่งจึงพากันไปหาหลวงปู่ไข่ วัดบางเลนซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ทางไสยเวทผู้เก่งกาจรูปหนึ่งมาปราบ แต่หลวงปู่ไข่ไม่รับนิมนต์ ท่านบอกว่า
“ผีก็อยู่ส่วนผี คนก็อยู่ส่วนคน ในเมื่อคนไปรุกรานถึงบ้านเขาแล้วยังจะให้อาตมาไปปราบอีกมันถูกต้องแล้วรึ ถ้ามีคนมาไล่พวกโยมออกจากบ้านบ้าง โยมจะรู้สึกอย่างไรล่ะ”
ชาวบ้านจึงต้องลาหลวงปู่ไข่กลับเพราะจนปัญญาที่จะตอบจึงปล่อยให้ผีแม่พวยปรากฏตัวแสดงฤทธิ์ต่างๆนานาต่อไป
จนข่าวดังขนาดหนังสือพิมพ์บางกอกไทม์สมัยนั้นต้องส่งนักข่าวมาทำข่าว ทั้งยังชาวบ้านต่างจังหวัดไกลๆถึงกับดั้นด้นเดินทางมาดูบ้านร้างผีสิงกันอยู่เสมอๆความดังของผีแม่พวยล่วงรู้ไปถึงหูสามีของแม่พวยที่สมุทรสาคร จึงคิดที่จะขายบ้านร้างหลังนี้ในราคาถูกๆให้กับคหบดีคนหนึ่งเพื่อที่เรื่องวุ่นๆจะได้ยุติเสียที ซึ่งคหบดีรายนี้ก็สนใจแต่ขอดูบ้านก่อน คหบดีจึงเดินทางมาที่บ้านร้างพร้อมลูกน้อง
ระหว่างที่กำลังเดินสำรวจอยู่บนบ้านกลางวันเสกๆคหบดีกับลูกน้องก็ถึงกับตกตะลึงตัวแข็งทื่อเพราะรู้สึกว่าเรือนโยกทั้งหลังเหมือนเกิดแผ่นดินไหว พร้อมกับได้ยินเสียงผู้หญิงร้องครวญครางคล้ายว่ากำลังได้รับความเจ็บปวดสาหัส เสียงดังออกมาจากที่ปิดประตูใส่กุญแจและมีฝุ่นละอองอยากไย่จับเต็มไปหมด
เจอกับเหตุการณ์เช่นนี้ทั้งคหบดีและลูกน้องจึงต้องวิ่งกลับมาอย่างไม่คิดชีวิต รีบลงเรือกลับอย่างรวดเร็วและไม่หวนกลับไปอีกเลย บ้านแม่พวยจึงถูกปล่อยให้ทิ้งร้างลงไปอีกกว่า ๑๐ ปี จนกระทั่งนายชัยยุทธ์บุตรชายนางพวยเติบโตเป็นหนุ่ม กลับมาเยี่ยมบ้านเกิดของแม่
เห็นสภาพบ้านที่เคยอยู่อาศัยในวัยเด็ก ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา จึงนึกสังเวชใจประกอบกับนางพวยผู้เป็นแม่ได้เสียชีวิตลง ยังไม่เคยทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ ในที่สุด ได้ตัดสินใจยกบ้านหลังนี้ให้กับวัดบ้านด่าน เพื่อเป็นกุฏิให้พระภิกษุจำพรรษา บางทีกุศลผลบุญครั้งนี้ อาจส่งผลให้วิญญาณแม่ไปภพภูมิที่ดีขึ้น
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
oustayutt
oustayutt
ออฟไลน์
เครดิต
22903
3
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2017-9-24 22:09
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เมื่อได้รื้อเรือนนางพวยมาสร้างเป็นกุฏิแล้ว ก็มีพระภิกษุสงฆ์มาจำพรรษาหลายรูป แต่ละรูปอยู่ได้ไม่นานก็อพยพไปอยู่ที่อื่น ด้วยสาเหตุต่างๆนาน
เรือนร้างของแม่พวยหลังนั้นถูกสร้างขึ้นเป็นกุฏิหลังหนึ่งสำหรับพระภิกษุจำพรรษา ที่วัดบ้านด่าน วัดเล็กๆในอำเภอบางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี และหลังจากถวายบ้านร้างให้วัดแล้ววิญญาณแม่พวยก็ไม่เคยปรากฏหลอกหลอนใครอีกเลย จึงคิดว่าแม่พวยคงจะได้รับกุศลผลบุญที่ลูกชายอุทิศให้ไปอยู่ในภาพภูมิที่ดีแล้วก็ได้ สำหรับกุฏิที่สร้างจากเรือนร้างของแม่พวยนั้นปัจจุบันถูกปิดตายเพราะไม่มีพระสงฆ์เข้าไปอยู่ บรรยากาศจึงดูเงียบเหงาวังเวง และอาจจะเป็นเพราะกลิ่นไอแห่งอาถรรพณ์ในอดีตที่ยังคงหลงเหลืออยู่เลยทำให้พระในวัดขยาดไม่กล้าที่จะเข้าไปอยู่ในเรือนหลังนั้นก็เป็นได้
การที่วิญญาณของ “แม่พวย” ยังคงวนเวียนยึดติดอยู่กับโลกมนุษย์โดยไม่ยอมไปสู่ที่ชอบหรือสถานที่ที่เหมาะสมกับเวรกรรมของตนนั้นอาจเป็นเพราะว่ามีวิบากกรรมที่ทำให้สลัดกิเลสไม่หลุดคือยังปลงไม่ตกกับคนข้างหลัง ยังห่วงใยทั้งลูกและสามี จึงต้องใช้หนี้กรรมให้เบาบางลง ความยึดติดถึงหมดไป
เรื่องวิญญาณที่ยังคงวนเวียนปรากฏร่างให้คนเห็นนี้ยังคงมีเรื่องเล่าอีกที่วัดบางซอ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เป็นวิญญาณของหญิงสาวและเด็กที่เสียชีวิตจากเรือล่มจนจมน้ำหายไปแล้วมาปรากฏตัวเป็นรูปร่างชัดเจนให้คนรักซึ่งบวชเป็นพระที่วัดบางซอนี้เห็น และไม่ใช่เห็นแค่พระรูปนั้นรูปเดียวแต่เด็กวัด พระและเณรหลายๆรูปก็เห็นกันหมด โดยวิญญาณตนนี้มาปรากฏร่างและก้มหน้านิ่งอยู่พักใหญ่แล้วจู่ๆก็หายวับไปต่อหน้าต่อตา
นอกจากนั้นแล้วในบางคืนเมื่อพระ เณรจำวัดกันหมดแล้วก็จะได้ยินเสียงคนเดินไปเดินมาอยู่ใต้ถุนกุฏิ บางครั้งก็ใช้ไม้เคาะกุฏิหลังโน้นหลังนี้เล่น ทำเอาทั้งพระทั้งเณรไม่ได้หลับไม่ได้นอนเพราะมีวิญญาณของผีสาวมาหลอกหลอน ชาวบ้านเล่าว่าผีสาวตนนี้พอหลอกพระในวัดได้สักพักก็คงจะเบื่อเลยไปหลอกคนนอกวัดบ้าง โดยวันดีคืนดีในยามดึกถ้าใครพายเรือผ่านหน้าวัดก็จะเห็นผู้หญิงกับเด็กกระโดดน้ำเล่นเป็นที่สนุกสนานแล้วชั่วพริบตาก็จะหายวับไป ทำเอาชาวบ้านที่ใช้เส้นทางสัญจรไปมายามดึกประสาทผวากันเป็นแถว
มีการเล่าต่อๆกันมาว่าต่อมาพระที่เป็นอดีตคนรักของผีสาวตนนั้นท่านได้บวชต่อโดยไม่สึกและได้ย้ายหนีไปจำพรรษาอยู่ที่วัดแถวๆ จ.นนทบุรีแล้ว
ปัจจุบันมีภิกษุรูปหนึ่งมาจำพรรษาอยู่ จากการสอบถามความรู้สึกที่ได้มาอยู่กุฏิที่เคยเป็นเรือนผีดุมาก่อน เคยได้พบกับเหตุการณ์อะไร
ท่านก็เล่าให้ฟังว่า ท่านเคยได้ยินได้ฟังเรื่องนี้มาก่อน ตอนแรกก็มีความกลัวเหมือนกัน พอมาคิดได้ตนถวายตัวเป็นศิษย์ตถาคตแล้ว สมควรที่จะภาวนาและแผ่เมตตาให้กับวิญญาณที่ทนทุกข์ทรมานมานาน ให้ไปผุดไปเกิดเสียที
หลังจากนั้นไม่นานท่านก็ฝันเห็นวิญญาณหญิงสาวตนหนึ่งมาปรากฏและบอกท่านว่า ถ้าจะอยู่ที่กุฏิหลังนี้อย่างสงบสุข ก็ขอให้ประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ในวินัย ตนจะช่วยคุ้มครองเพทภัยให้ ท่านก็รับปากและก็อยู่มาจนถึงทุกวันนี้
เรื่อง “ผี” ที่เล่ามาทั้งหมดเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงของผู้ที่เคยสัมผัสจนเป็นเรื่องที่ถูกเล่าต่อๆกันมา โดยสถานที่เกิดเหตุก็ยังมีอยู่จึงพอจะเป็นสิ่งยืนยันได้ว่า “วิญญาณ…แม้จะเป็นเรื่องเร้นลับ แต่ก็มีอยู่จริงแน่นอน”
นำเสนอโดย :
แอพเกจิ – AppGeji
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
4
#
โพสต์ 2017-9-25 06:31
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
“แม่พวย” ตำนานแม่นาค 2
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...