ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 4712
ตอบกลับ: 8
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

พระปรอทสุดยอดวัตถุมงคลหลวงพ่อซวง วัดชีปะขาว

[คัดลอกลิงก์]


หลวงพ่อซวง อภโย วัดชีปะขาว ต.พระงาม อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี เป็นพระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคม มั่นคงในพระธรรมวินัย เน้นการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน มีฌานอันบริสุทธิ์และพลังจิตอันแก่กล้า จนสำเร็จอภิญญาสมาบัติ สามารถแสดงฤทธิ์ต่างๆ ได้ เช่น การห้ามฝน การย่นระยะทาง การรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า นอกจากนี้ท่านยังมีพลังอำนาจเมตตาบารมีอันสูงส่ง แม้แต่อีกาตาแวว ท่านยังเลี้ยงจนเชื่อง และรู้ภาษาของมันด้วย
หลวงพ่อซวง ได้สร้างวัตถุมงคลไว้หลายประเภท ทั้งเนื้อโลหะ เนื้อผง รูปถ่าย เครื่องราง ฯลฯ แต่ละประเภทมีจำนวนสร้างน้อย จึงค่อนข้างหายาก อาทิ พระลีลาหล่อ รูปหล่อ เหรียญหล่อ พระปรอท ล็อกเกต พระผงกลีบบัว ตะกรุด แหวน ฯลฯ เป็นต้น
วัตถุมงคลของท่านมีพุทธคุณเปี่ยมล้นในทุกๆ ด้าน เป็นที่ต้องการของนักสะสมพระเครื่องยิ่งนัก และมีการเช่าหากันในราคาที่ค่อนข้างสูง
ในบรรดาวัตถุมงคลของหลวงพ่อซวงทั้งหมด ถ้าจะกำหนดว่าวัตถุมงคลใดที่ถือว่าเป็น “สุดยอดวัตถุมงคลของหลวงพ่อซวง” โดยไม่เอาราคาเช่าหาในวงการพระเครื่องเป็นตัวกำหนด ผู้เขียนไม่ลังเลใจเลยที่จะยกให้ “พระปรอท เป็นสุดยอดวัตถุมงคลของหลวงพ่อซวง”
เนื่องจากมีวิธีการสร้างที่ยุ่งยากซับซ้อนและมีพุทธคุณครอบจักรวาล ที่สำคัญ คือ พระคณาจารย์ที่จะสร้างพระปรอทได้จะต้องมีบารมีธรรมสูง สำเร็จวิชาเล่นแร่แปรธาตุ สามารถแปลงโละธรรมดาให้เป็นทองคำได้ ซึ่งมีอยู่ไม่มากนัก และหลวงพ่อซวงก็เป็นหนึ่งในพระคณาจารย์เหล่านั้น
พระคณาจารย์ที่จะสำเร็จวิชาเล่นแร่แปรธาตุนั้น จะต้องเป็นพระคณาจารย์ที่ทรงอภิญญาสมาบัติ ได้ฌาน ๘ และมีวาสนาบุญญาธิการเกื้อกูลมา จึงจะสามารถสำเร็จวิชาเล่นแร่แปรธาตุได้
เท่าที่สืบค้นมาก็มี ขรัวคลุมโปง วัดดีดวด ธนบุรี, หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท, หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์, หลวงพ่อสัมฤทธิ์ วัดบ้านสวน จ.สุโขทัย, หลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด ธนบุรี, หลวงปู่เชย วัดราษฎร์บำรุง จ.ชลบุรี, หลวงพ่อซวง วัดชีปะขาว จ.สิงห์บุรี, หลวงพ่อภัทร วัดโคกสูง จ.สงขลา, พระปลัดทองดี วัดกลางวรวิหาร จ.สมุทรปราการ, หลวงปู่ลือ วัดป่านาทามวนาวาส จ.มุกดาหาร ฯลฯ
สำหรับหลวงพ่อซวงนั้น ท่านสำเร็จวิชาเล่นแร่แปรธาตุ โดยศึกษามาจากพระอาจารย์ของท่าน คือ หลวงพ่อสัมฤทธิ์ วัดบ้านสวน (หรือวัดฤทธิ์ศิริราษฎร์เจริญธรรม) จ.สุโขทัย ซึ่งหลวงพ่อสัมฤทธิ์รูปนี้ท่านเป็นศิษย์สายตรงของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังโฆสิตาราม ธนบุรี
หลวงพ่อสัมฤทธิ์สามารถแปลงโลหะตะกั่วให้เป็นทองคำได้ ซึ่งท่านจะทำเป็นครั้งคราวเพื่อหาปัจจัยบูรณะสร้างศาสนสถานภายในวัดบ้านสวน
ขณะที่หลวงพ่อซวง ศึกษาวิชาเล่นแร่แปรธาตุกับ หลวงพ่อสัมฤทธิ์ ท่านจะสอนเป็นขั้นตอน โดยในขั้นตอนสุดท้าย จะบอกวิธีเป็นข้อความกำกวมปริศนา ๑ บท แล้วให้หลวงพ่อซวง ไปขบคิดตีความเอาเอง ถ้ามีวาสนาบุญญาธิการก็จะตีความได้ ซึ่งหลวงพ่อซวงใช้เวลาไม่นานก็สามารถตีความได้ ทำให้ท่านสำเร็จวิชาเล่นแร่แปรธาตุในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ช่วงระยะเวลาที่หลวงพ่อซวงไปศึกษาวิชาไสยเวทกับหลวงพ่อสัมฤทธิ์นั้น หลวงพ่อห้อม วัดคูหาสวรรค์ จ.สุโขทัย ก็ได้ไปศึกษาวิชาไสยเวทกับหลวงพ่อฤทธิ์ด้วยเช่นกัน ซึ่งกว่าหลวงพ่อห้อมจะตีความข้อความกำกวมปริศนา ๑ บทดังกล่าวได้สำเร็จ ต้องใช้เวลาถึง ๑๐ ปี เลยทีเดียว เป็นช่วงภายหลังจากหลวงพ่อสัมฤทธิ์ ได้ถึงแก่กาลมรณภาพไปแล้ว
หลังจากหลวงพ่อซวง สำเร็จวิชาเล่นแร่แปรธาตุ แล้ว ท่านได้ศึกษาวิชา “การทำปรอทสำเร็จ” และวิชา “การหุงปรอท” จากหลวงพ่อสัมฤทธิ์ต่อจนสำเร็จอีกเช่นกัน
อนึ่ง ต้องเข้าใจว่า “ปรอท” ที่นำมาสร้างพระเครื่องไม่ใช่ปรอทวิทยาศาสตร์ที่มีขายอยู่ทั่วไปตามท้องตลาด แต่ต้องเป็น “ปรอท” ที่ได้มาจากแหล่งธรรมชาติในหลายๆ ทาง อาทิ ดักจากน้ำครำ โดยใช้ไข่ทิ้งไว้ในน้ำครำ ดักจากยอดหญ้าที่มีน้ำค้าง หาจากดอกลำโพง หาจากใต้พื้นดิน หาจากใต้ทะเล ฯลฯ เป็นต้น
“ปรอท” ที่ได้มาจากธรรมชาติ เป็นธาตุอ่อน อยู่ในรูปของเหลว ที่สามารถเคลื่อนตัวกลิ้งไปมาได้
ความมหัศจรรย์ของมัน คือ จะไม่รวมกับธาตุใดๆ ทั้งสิ้น ถือเป็นธาตุที่บริสุทธิ์ เมื่อนำไปผ่านกรรมวิธีเล่นแร่แปรธาตุ ซึ่งยุ่งยากและซับซ้อนมาก จนเกิดเป็นธาตุแข็ง เรียกว่า “ปรอทสำเร็จ” และเรียกผู้ทำปรอทสำเร็จว่า “ผู้สำเร็จวิชาปรอท”
แต่โดยที่คุณสมบัติของปรอทจะชอบดูดสารพิษเข้าตัว ดังนั้นปรอทเหลวก่อนที่จะนำมาผ่านกรรมวิธีเล่นแร่แปรธาตุ จะต้องผ่านกรรมวิธีฆ่าพิษเสียก่อน โดยใช้ว่านยาและคาถาอาคมซึ่งทำได้ยากยิ่ง
อนึ่ง มีผู้กล่าวกันว่า ถ้าทำให้ปรอทเหลวผ่านกรรมวิธีเล่นแร่แปรธาตุกลับไปมาได้ถึง ๓ ครั้ง จะทำให้ปรอทสำเร็จในขั้นตอนสุดท้ายที่ได้มีความขลังศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้นไปอีก ถึงขนาดทำให้ผู้ที่ได้ครอบครองสามารถอธิษฐานขอให้เหาะเหินเดินอากาศได้เลยทีเดียว
“ปรอทสำเร็จ” สามารถเก็บไว้ในรูปของปรอทแข็ง เมื่อต้องการสร้างเป็นรูปแบบอะไร ก็นำมาทำให้เหลวเรียกว่า “การหุงปรอท” โดยใช้วิชากสิณไฟ
จากนั้นนำไปเข้าแบบที่กำหนดไว้จนแข็งตัวก็จะได้ปรอทในรูปแบบต่างๆ ตามต้องการ อาทิ ลูกสะกด ลูกอม พระพิมพ์ ฯลฯ เป็นต้น
วัตถุมงคลที่สร้างจาก “ปรอทสำเร็จ” ถือได้ว่าเป็นสุดยอดวัตถุมงคล เนื่องจากปรอทมีคุณสมบัติพิเศษ มีพลังในตัวเอง มีอานุภาพทางอยู่ยงคงกระพันชาตรี คุ้มครองป้องกัน การเตือนภัย ป้องกันภูตผีปีศาจ คุณไสย มนต์ดำ แก้อาถรรพณ์ ป้องกันไข้ป่า เป็นมหาระงับดับพิษไฟ อมไว้ในปากเวลาเดินทางไกลทำให้ไม่กระหายน้ำ อีกทั้งเป็นเมตตามหานิยม เกิดความเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไป
นอกจากนั้นยังใช้ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้ด้วย อาทิ ปวดหลัง ปวดเอว เนื้องอก เคล็ดขัดยอก ถอนพิษจากแมลง หรือสัตว์กัดต่อย
จะเห็นได้ว่ามีพุทธคุณยอดเยี่ยมในทุกๆ ด้านแบบครอบจักรวาลเลยทีเดียว จนพระคณาจารย์ยุคโบราณได้กล่าวไว้ว่า
“วัตถุมงคลที่สร้างจากปรอทสำเร็จ และได้รับการปลุกเสกจากผู้สำเร็จวิชาปรอท สามารถใช้แทนเหล็กไหลได้”
แต่ปรอทมีคุณสมบัติที่เหนือกว่า เหล็กไหล ก็คือ สามารถรักษาโรคได้ และสามารถฆ่าเชื้อโรคได้ทุกชนิดนั่นเอง
“พระปรอท” ของ หลวงพ่อซวง เป็นวัตถุมงคลขนาดเล็ก ที่ท่านได้จัดสร้างขึ้นในยุคก่อนกึ่งพุทธกาล ประมาณ พ.ศ.๒๔๙๘ โดยจัดสร้างขึ้นตามตำรับโบราณที่ได้กล่าวไว้ และท่านได้ศึกษามาทุกประการ โดยมีจำนวนสร้างน้อยมาก ประมาณ ๒๐๐ องค์เท่านั้น
“พระปรอท” ของ หลวงพ่อซวง มีลักษณะรูปร่างเหมือนกลีบบัว ด้านหน้าเป็นพระพุทธรูปในท่านั่งสมาธิเต็มองค์ อยู่บนบัวคว่ำบัวหงาย ด้านหลังเรียบ ไม่มีอักขระใดๆ และมีอยู่พิมพ์เดียวเท่านั้น
ในด้านมวลสาร เป็น ปรอทสำเร็จ ที่ผ่านการหุงมาแล้ว และยังได้รับการปลุกเสกเดี่ยวจากหลวงพ่อซวงอีกด้วย เรื่องพุทธคุณจึงครอบจักรวาล ดุจแก้วสารพัดนึก เหนือคำบรรยายใดๆ
หลวงพ่อซวงมักจะแจก “พระปรอท” ของท่านให้ผู้ประกอบอาชีพในป่า หรือหาของป่ามาขาย และเวลาท่านได้รับกิจนิมนต์ไปงานทำบุญบ้าน หรืองานมงคลสมรส ท่านจะแจก “พระปรอท” ให้เจ้าของบ้าน หรือคู่สมรสไว้สักการบูชา
ส่วนที่เหลือท่านได้นำมาแจกในงานฌาปนกิจโยมมารดา (อ่ำ) ของท่านจนหมด ปัจจุบัน “พระปรอท” ของหลวงพ่อซวง ถือเป็นสุดยอดวัตถุมงคลของท่านที่ค่อนข้างหายาก พบเห็นน้อย ใครที่ได้ครอบครองไว้ถือว่าโชคดีเป็นที่สุด
สำหรับการใช้ “พระปรอท” ของหลวงพ่อซวง ให้ว่านะโม ๓ จบ แล้วให้ภาวนาต่อด้วยพระคาถาหัวใจปรอท “พุทโธ วะโมตุ ทันตานัง สัมปจิตมิ”
จากนั้นให้อธิษฐานขอพรจากหลวงพ่อซวง ตามที่ใจปรารถนา
ที่มา : คอลัมน์ปกิณกะพระเครื่อง โดยคุณไพศาล ถิระศุภะ
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : คมชัดลึก
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-7-1 21:46 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ยังตามหาม่ายเจอ
อยากให้อาจารย์ทำพระปรอทซะรุ่นนึง องค์จิ๋วๆ ก็พอ โอวว
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-7-25 21:44 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ดีดีดีเลยครับ
majoy ตอบกลับเมื่อ 2017-7-18 08:03
อยากให้อาจารย์ทำพระปรอทซะรุ่นนึง องค์จิ๋วๆ ก็พอ โอวว

8#
 เจ้าของ| โพสต์ 2018-3-29 21:48 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้