สักครู่ลป.ก็สวดอะไรสักอย่าง พี่เค้าว่าน่าจะเป็นภาษาเขมรแต่ที่พอรู้ก็มีคำไทยที่ปนอยู่ก็คือ ตัวผู้-ตัวเมีย พอท่านสวดจบ ที่ผนังถ้ำก็มี ของเหลวดำๆไหลออกมาพอถึงหน้าลป.ก็ไหลย้อยออกมาประมาณ 1 ศอก 2 อัน ลป.ก็เลยบอกว่านี่ไงเหล็กไหลไม่อยากได้เหรอพี่เค้าว่าตกใจมากๆ สักครู่ ลป.สรวงก็บอกว่าจับดู พอจับด็ต้องดึงมือกลับเพราะว่าเย็นมากๆนุ่มๆแต่สากๆเหมือนงวงช้างพี่เค้าว่างั้นนะครับ)ลป.สรวงก็ถามครั้งที่ 3 ว่า"ไม่อยากได้เหรอ" พี่เค้าด้วยความไม่รู้และกลัวก็เลยบอกว่า "กลัวไม่อยากได้"
ลป.สรวงก็เลยพอเดินขึ้นตลิ่ง พอถึงริมตลิ่งพี่เค้าก็หันกลับไปดูที่ถ้ำอีกที ก็ปรากฎว่าถ้ำหาย และบริเวณนั้นก็กลายเป็นน้ำโขงหมด
พี่เค้าถึงกับบอกลป.สรวง ว่า "หลวงตาเล่นกลอะไรอีกละเนี๊ยะ แถมเล่นเก่งอีกต่างหาก"
ลป.สรวงหันกลับมาถามว่าแล้วอยากได้อะไร (ตอนนั้นพี่เค้าเคยได้ยินเพื่อนพูดว่ากาฝากไม้รัก/มะยม/มะรุม/ไม้มะขามเป็นของดี)
จึงบอกลป.สรวงไปว่าอยากได้ไม้กาฝากทั้ง 4 ลป.จึงบอกว่าอีก 4 ปีมึงจะได้ครบ
(และก็ได้จริงๆพิเศษคือไม้กาฝากทุกอัน จะมีเหมือนน้ำมันหอมเคลือบเองโดยพี่เค้าไม่ได้ทาเลย และหากวันไหนกลิ่นหอมแรงขึ้นก็จะมีโชคครับ)
แล้วลป.สรวงก็บอกกับพี่เค้าว่า "กูกับมึงไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่ถ่ายรูปกูไว้ซะ"
ที่แปลกก็คือพี่เค้าพกกล้องถ่ายรูปมาด้วยซึ่งปกติไม่เคยพก จึงนำกล้องมาถ่ายภาพ ลป.ไว้
พี่เค้าบอกว่าลป.ท่านเล่นกล(แสดงปาฏิหาริย์อีกรอบ) โดยนั่งลงไปในอากาศแต่อยู่ๆก็มีหินไปรองรับก้นท่าน และมีต้นไม้ประหลาดๆออกมาด้านหลังตรงที่ท่านนั่ง....
ที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ท่านพี่ท่านนี้จำหลวงปู่ได้ดีก็คือแผลเป็นรูตรงเอ็นร้อยหวาย พี่เค้าได้ถามว่าไปโดนอะไรมา ท่านตอบว่า "โจรมันจับกูเจาะ" ก่อนลป.จะไปก็บอกพี่คนนี้ว่า "เดือดร้อนอะไรให้บอกกูนะ กูชื่อสรวง" พอดีกับรถของธนาคารกลับมาใกล้ถึง(พี่เค้าเห็น) ก็หันไปมองหันกลับมา อ้าวลป.สรวงหายไปอย่างไร้ร่องรอย พี่เค้าว่าตกใจมากๆรีบวิ่งไปที่ถนนทันทีครับเพื่อรอรถ พอรถมาถึงจึงได้ถามคนขับว่าเห็นพระแก่ๆไหม คนรถก็บอกว่า"ไม่เห็น"
...รุ่งขึ้นจึงเอาฟิล์มไปล้าง ปรากฎว่ารูปถ่ายดีรูปหลวงปู่รูปเดียว ภาพอื่นหายหมด พี่เค้าจึงล้างไว้ 4 ใบ ใบใหญ่ 1 เล็กอีก 3 ใบ พอจะล้างเพิ่มภาพจางหายไปหมดเลยครับ
...ผมกับเพื่อนอีก 3 คนก็ฟังๆพี่เค้าเล่าในใจก็คิดว่าโม้มากกว่า ไอ้เพื่อนคนหนึ่งจึงขอรูปใบเล็กๆนั้นไปแสกน แสกนเท่าไหร่ก็ไม่ติดก็ชักเอ็ดใจจึงจุดธูปบอกกล่าว 3 ดอกก็แล้ว 9 ดอกก็แล้ว 36 ดอกก็แล้วยังไม่ติดจนต้องจุดถึง108 ดอกถึงสแกนติด ที่นี้เริ่มเชื่อครับ
...ที่ทำให้ผมเชื่อสนิทใจที่สุดก็คือ ไฟใหม้พานพลาสติกในห้องพระครับรีบดับไป ปรากฎว่าไหม้เรียบวุดครับพระ และของในพาน แต่ถึงกับขนลุกเพราะภาพหลวงปู่สรวงซึ่งเป็นแค่กระดาษ เอ4เคลือบพลาสติกไฟไม่ยอมไหม้ครับ ผมรีบเก็บมาใส่หัวเลยที่เดียวตั้งแต่นั้นมา จึงเชื่อหลวงปู่ และให้หลวงปู่เป็นผู้ที่ผมเคารพสูงสุดในชีวิตอีกคนหนึ่งครับ
...ทั้งหมดที่เล่านี้เป็นเรื่องจริงที่อยู่ในความทรงจำของผมมาตลอด 10 ปี.....และเมื่อมีปัญหาผมมักจะบอลป.เสมอและก็จะมีทางออกทุกครั้งไป..
....ลป.สรวงผู้เป็นดังประทีปในดวงใจของผมเสมอ และตลอดไป.....
...ตฤณ...
เรียบเรียงโดย
ศักดิ์ศรี บุญรังศรี : สำนักข่าวทีนิวส์
|