หลวงปู่สรวง กล่าวเรื่องภัยพิบัติไว้ว่า ตอนนี้นางนาค (พญานาคตัวเมีย) ใช้หางกวาดน้ำเข้ามาครึ่งโลกแล้ว นางนาคจะกวาดล้างโลก คนไม่มีดีไม่มีศีลธรรมจะพากันล้มตาย คนไหนที่ทำความดี ให้ทาน รักษาศีล เข้าวัดฟังธรรม ตั้งใจปฏิบัติภาวนาจะรอด ในวันนี้คนดีคนเลวปะปน ในสังคมเห็นเป็นมิจฉาทิฐิว่าคนไม่ดีมีอำนาจวาสนา คนดีไม่มีอำนาจ ต่อไปเทวดาท่านจะตัดสินเอง ตอนนี้เป็นยุคคนชั่วเป็นใหญ่ แต่ต่อไปคนเหล่านี้จะถูกกวาดสิ้นจากแผ่นดิน เทวดามีตา ฟ้าเป็นพยาน
ท่านทั้งหลายที่อ่านอยู่โปรดไตร่ตรอง พิจารณา มหาพิจารณาเอาเถิด แม้ว่าเหตุการณ์เหล่านี้ไม่เกิด ก็เป็นเรื่องดีอย่างยิ่ง แม้ว่าเกิดก็เป็นเรื่องที่ควรปลงสังเวชว่าโลกเรานี้เป็นไปตามธรรมดาของมัน คือ มีเสื่อม มีเจริญ อันว่าโลกวิสัยนั้น ใครจะรู้ได้ว่ามันจะถึงกาลเปลี่ยนแปลงเมื่อไหร่ เป็นอย่างไร ภูเขาที่เคยสูงอาจกลายเป็นใต้ก้นทะเล ลึกสุดของบาดาลอาจกลายเป็นยอดเขาสูงเทียมฟ้า เมืองวิมานที่ว่าประเสริฐเลิศด้วยของสวยงามอาจกลายเป็นเถ้าถ่าน หรือ ธุลีดินเมื่อใดก็ได้ กล่าวไว้ดังนี้ เพื่อให้ท่านทั้งหลายอย่าตกอยู่ใต้ความประมาท
อนึ่งอันว่ามนุษย์เราท่านทั้งหลาย แม้ว่าจะไม่พบเจอกับการเปลี่ยนแปลงของโลก หรือ ภัยพิบัติก็หาได้พ้นจากความตาย หาพ้นจากทุกข์แห่งการเกิด แก่ ชรา พยาธิ จนมรณะก็หาไม่ ผู้ใดตั้งอยู่ในความประมาทก็ย่อมประสบทุกข์อันร้อนแรงเป็นทั้งนั้น ท่านทั้งหลายผู้เจริญในธรรมพึงมีสติอยู่ในความตาย ความเสื่อม เพื่อพิจารณาหาทางพ้นไปจากทุกข์ทั้งหลายในสังสารวัฏ ธรรมทั้งหลายมีข้างเกิดข้างดับ แต่คนทั้งหลายมักกล่าวแต่ข้างเกิดเพียงอย่างเดียวหาได้เฉลียวใจถึงธรรมข้างดับไม่ เมื่อกล่าวถึงก็เป็นเรื่องอัปมงคลไปเสีย ทั้งนี้เพราะใจไม่รับความจริงในความเป็นธรรมดาของโลกของชีวิต ที่กล่าวมาเสียยืดยาวนี้ก็เป็นไปเพื่อการเตือนสติแก่ท่านทั้งหลายไม่ให้ประมาท
หลวงปู่สรวงกล่าวไว้ถึงน้ำท่วมโลกจากนางนาคเอาหางกวาดน้ำล้างโลก เนื่องจากคนทุศีลมีมากกว่าคนมีศีล โลกใบนี้เร่าร้อนและสกปรกเกินกว่าเทพยาสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะทนไหวแล้ว เวรกรรมของมนุษย์รวมกันแล้วสมควรล้างเสียทีหนึ่ง พวกมนุษย์ทั้งหลายที่มีกรรมร่วมกัน จะไปรวมตัวกันเวลาตาย จะตายเป็นหมู่ เรียกว่า “ กรรมจัดสรร ”
|