ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Somchai Somchai ได้เปิดเผยถึงเรื่องราวดี ๆ ของพระชาวต่างชาติรูปหนึ่ง โดยระบุว่า พระรูปนี้คือ "พระจูเลียน" บวชมานานนับสิบปี ท่านออกบิณฑบาตอาทิตย์ละประมาณสามสี่ครั้ง เนื่องด้วยเห็นว่าชาวบ้านก็อยู่อย่างลำบากจึงไม่อยากรบกวนมากเกินไป โดยท่านใช้ชีวิตในป่าเขาด้วยความสมถะ กินแต่ผักผลไม้ เคร่งครัดในพระธรรมวินัย ตอนนี้พระจูเลียน อยู่ที่หมู่บ้านปูทา หมู่ 1 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน
หลังจากนั้น เฟซบุ๊ก ศูนย์รวมความรู้การเกษตร ได้เผยแพร่เรื่องราวความเป็นมาของพระจูเลียน ระบุว่า...
"พระจูเลียน ดีซิเลต ชาวแคนาดานักเรียนแลกเปลี่ยนวิชาเกษตรกรรม
อาตมาฝึกสมาธิมาเป็นเวลามากกว่า 20 ปี การฝึกสมาธิทำให้พบความสุขที่แท้จริงที่เกิดอยู่ภายใน การฝึกสมาธินั้น ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อหาความสุขนั่นแล อาตมาสนับสนุนให้ทุกท่านใช้การปฏิบัติสมาธิในการดำเนินชีวิต การนั่งสมาธิคือหนทางเดียวที่จะไปสู่ความอิสระที่แท้จริง
เดิมอาตมามีพื้นเพอยู่ที่ประเทศแคนาดา ซึ่งจัดได้ว่าเป็นประเทศที่ร่ำรวยพอสมควรประเทศหนึ่ง สมัยที่อาตมาเรียนหนังสือนั้น อาตมานับว่าเป็นนักเรียนที่ฉลาดเฉลียว เมื่อทำงานหาเงิน ก็หาเงินได้มาก แต่ในประเทศแคนาดานั้นก็เหมือนกับประเทศอื่นทั่วๆไปตามแบบฝรั่ง อาตมาไม่มีความสุข มีแต่ความเคร่งเครียด
หลังจากนั้นจึงได้ทิ้งทุกอย่าง และได้เข้าสู่การเป็นผ้าขาวและเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์เมื่อ 17 ปีที่แล้ว จากนั้นเป็นต้นมา ใจของอาตมาก็ได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้ อาตมาจนมาก แต่กลับมีความสุขมากอาตมาคิดว่าสิ่งนี้คือหนทางที่แท้จริงอาตมามั่นใจเกินร้อยว่า อาตมากำลังเดินอยู่บนทางที่ถูกต้องเพื่อมุ่งไปสู่หนทางการดับทุกข์
อาตมาเริ่มสนใจการทำสมาธิมาตั้งแต่เมื่อยังเป็นวัยรุ่น เริ่มศึกษาด้วยตนเองตั้งแต่สมัยที่อยู่แคนนาดา เมื่ออายุ16-17 ปี ศึกษาการนั่งสมาธิจากการอ่านหนังสือ ทั้งแบบเซนของพระญี่ปุ่น (Zen) และการฝึกโยคะ
การนั่งสมาธินั้นไม่ใช่เรื่องยากสำหรับอาตมา เมื่อตอนเริ่มต้นอาตมาก็ได้เข้าถึงสมาธิได้โดยง่าย อาจจะเป็นเพราะว่าคงจะติดมาจากชาติที่แล้วกระมัง แต่ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่อาจจะทราบได้ อาตมามีความปรารถนาที่จะมาเมืองไทย ดังนั้นอาตมาจึงมาเมืองไทยครั้งแรกเมื่อตอนอายุ 18 ปี ในโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน ในด้านการทำเกษตรกรรม เมื่อมาถึงได้ไม่นาน อาตมารู้สึกอยู่ลึกๆว่า อาตมาเคยอยู่ที่นี่มาก่อนและอาตมาจะอยู่ที่นี่ตลอดไป
ระหว่างที่อยู่ในโปรแกรมของนักเรียนแลกเปลี่ยน อาตมาก็ได้ไปนั่งสมาธิตอนเย็นทุกๆวัน ที่วัดใกล้ๆหมู่บ้านที่อาตมาอาศัยอยู่ ในจังหวัดสระบุรี อาตมากลับไปยังแคนาดาและได้กลับมาประเทศไทยอีกครั้งเมื่อปี พ.ศ.2541ตอนแรกนั้นอาตมาได้อาศัยอยู่กับเพื่อนชาวไทยที่ได้พบกันในโครงการแลกเปลี่ยน ที่นอกเมืองทางภาคใต้ ทำงานบ้าง นิดๆหน่อยๆที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ จากนั้นจะได้เข้าสู่การเป็นผ้าขาว ถือศีล8 อยู่ 1 ปีในที่ต่างๆในประเทศไทย เช่น วัดสวนโมกข์ วัดอัมพวัน (จ.สิงห์บุรี) และ วัดจอมทอง
เมื่อครั้งนั้นอาตมาไม่ได้สนใจเรื่องของการบวชเรียนมากสักเท่าไหร่ สนใจแต่เพียงการนั่งวิปัสสนาสมาธิ ต่อมาอาตมามีความคิดที่จะกลับแคนาดาเพื่อเรียนวิชาฝังเข็ม แต่เนื่องจากอาตมาได้ฝึกปฏิบัติมาตลอดเวลาและทราบดีว่าอาตมากำลังทำสิ่งที่ควรทำอยู่ และสมควรที่จะบวชเป็นพระเสียที หลายๆคนถามอาตมาว่า จะบวชเพื่ออะไร อาตมาตอบไม่ได้ในชาตินี้
แต่อาตมาคิดว่า อาตมาอยู่ในระหว่างการเดินทาง ต่อจากชาติที่แล้วๆโยมพ่อโยมแม่ของอาตมาไม่สามารถที่จะเข้าใจในเรื่องนี้ พวกท่านได้ปรึกษานักจิตวิทยาและสงสัยว่าพวกท่านทำอะไรผิด อาตมาถึงอยากบวชเป็นพระในพุทธศาสนา
คนฝรั่งคิดไม่เหมือนคนไทย สำหรับฝรั่งแล้ว หากท่านต้องการที่จะทำประโยชน์ให้แก่โลกนี้ ท่านต้องไปเรียนหนังสือ ทำงานและหาอาหาร/ขนมปังมาวางไว้บนโต๊ะอาหาร มันเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากในการทำความเข้าใจสำหรับโยมพ่อ อาตมารู้สึกไม่ประสบความสำเร็จในการสื่อสารกับโยมพ่อนิดหน่อย โยมพ่อเกิดในครอบครัวที่ยากจน และมีพี่น้อง 11 คน
โยมพ่อบวชในศาสนาคริสต์เพื่อที่จะได้เรียนหนังสือ ท่านออกจากการเป็นนักบวชเมื่อพบกับโยมแม่ของอาตมา แต่ปัจจุบันท่านก็ค่อยๆทำความเข้าใจในการเดินทาง ในแบบของอาตมา โยมแม่มาเมืองไทยทุกๆ2ปี โยมพ่อไม่ได้มาเมืองไทยสัก6ปีแล้ว ท่านควรจะมาเมืองไทยในหน้าหนาวที่จะถึงนี้
อาตมาออกจากประเทศไทย เพียง 1 ครั้งใน 18 ปีนี้ หากโยมพ่อโยมแม่จากไป อาตมาคงไม่ไปจากเมืองไทยอีกเลย
ประเทศไทยได้กลายเป็นบ้านของอาตมาไปเสียแล้ว"
ที่มา http://news.sanook.com/2154958/