“มันเป็นนรกครับอา นรกที่ใครไม่มีโอกาสได้เข้าไปจะไม่รู้เลยว่าข้างในมันเป็นอย่างไรกันแน่ ได้แต่บอกว่าดี ไอ้พวกนักโทษเดนตายถูกกักไว้ข้างในสมน้ำหน้า ให้มันตายโหงตายห่าไปให้หมดเรื่อง” “เอาละๆ มาแล้วก็ไปอยู่กระท่อมท้ายไร่ข้าวโพดโน่น สะดวกสบายทุกอย่าง ข้าปลูกไว้เอง เอาไว้นอนเปลี่ยนอิริยาบถอีกอย่างก็เพื่อดักจั่นห้าวหมูป่ามันชุมโว้ย เวลามันยกโขยงมากินข้าวโพดเสียหายเป็นไร่ๆต้องเอาจั่นห้าวดักได้เนื้อมากินได้มันมาเจียวน้ำมัน เดินตามทางที่เป็นทางเดิน อย่าผ่าเดินสุ่มสี่สุ่มห้าสะดุดจั่นห้าวจะกลายเป็นหมูป่าไป” ไพฑูรย์อาศัยอยู่ในกระท่อมปลายไร่ข้าวโพด มีอาหารส่งมาให้กินสองมื้อ เช้ากับเย็น มีข้าวเหนียวเป็นพื้นกับข้าวก็เป็นแบบท้องถิ่นไพฑูรย์บอกว่ากินอร่อย ทำไมจะไม่อร่อยเล่าก็ในคุกมีแต่ข้าวแดงกินฝืดคอ แกงส้มมีแต่ผักแต่ไม่เคยเห็นปลาเป็นชิ้น ผู้คุมบอกว่ามีให้เลือกสองอย่างคือ แดกกับไม่แดก ไม่แดกก็ทนหิวไปจนถึงเย็นไม่แดกอีกก็ช่างไรเล่า ป่วยก็หามไปเรือนพยาบาลรักษา รักษาไม่ได้จะตายขึ้นมาก็ส่งไปโรงพยาบาล เอาโซ่ล่ามติดไว้กับเตียง หายแล้วก็กลับคุก คืนนั้นได้ยินเสียงปืนยิงต่อสู้กันแล้วเงียบไป ไพฑูรย์พร้อมปืนพกสองกระบอกออกจากกระท่อมมาซ่อนตัวในป่าข้าวโพด เสียงปืนเงียบแล้วไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังสองนัด จากนั้นก็เงียบไปถึงสว่าง ไพฑูรย์กลับเข้ากระท่อมเมื่อฟ้าสาง พอสายหน่อยอาสมจิตก็มาพร้อมกับคนส่งอาหาร พอไพฑูรย์กินอาหารเสร็จแล้วก็เอ่ยถามว่า “เมื่อคืนอาเป็นห่วง เสือมายขุนโจรร้อยศพมันหนีตำรวจเข้ามาในไร่ เมื่อคืนตำรวจไล่ล่ามันเข้าไป อาเตือนตำรวจแล้วว่าอาดักจั่นห้าวไว้ อย่าตามเข้าไปแต่ไม่เป็นผล เมื่อเช้าอาไปดูก็พบตำรวจถูกจั่นห้าวสาหัสไปสองนาย ตอนบ่ายอาต้องไปให้ปากคำ ส่วนเสือมายอาว่ามันคงจะวนเวียนอยู่แถวไร่นี่แหละ เพราะตำรวจเขาปิดทางเข้าออกไว้หมดแล้ว ถ้าเปียเจอมันก็เอ่ยชื่ออาก็แล้วกันจะได้เป็นเพื่อนกันไว้” ตอนกลางวันไพฑูรย์ก็ไปซุ่มอยู่ในไร่ข้าวโพด เพราตำรวจเข้ามาตรวจไปทั่วไร่ข้าวโพดด้วยกลางคืนเกรงจั่นห้าวของอาสมจิต ทั้งๆที่อาสมจิตได้ให้ความร่วมมือกับตำรวจด้วยการปลดจั่นห้าวในไร่ วันแห่งการพบกันระหว่างไพฑูรย์กับเสือมายก็มาถึง ขณะที่ไพฑูรย์ซุ่มอยู่ในไร่ข้าวโพดก็ได้ยินเสียงผิดปกติจึงชักปืนออกมาเตรียมพร้อม ต้นข้าวโพดสั่นไหวตรงมาทางที่ไพฑูรย์ซ่อนอยู่ พลันร่างของชายแก้มซ้ายบากตาเหล่ก็โผล่ออกมา พร้อมปากกระบอกปืนที่จ้องตรงมาไม่ต้องพูดจากไพฑูรย์ก็ยิงสามทันที ชายหน้าบากก็ยิงเหมือนกัน “แป๊ก แชะ แป๊ก แชะ” ไม่ลั่นทั้งสองฝ่าย ไพฑูรย์เฉลียวใจร้องบอกอีกฝ่ายหนึ่งว่า “เสือมายใช่มั้ยกูไพฑูรย์หรืออ้ายเปียหลานอาสมจิต” “พวกเดียวกันโว้ย กูเสือมายเป็นเสือลำบากโว้ย ไอ้พวกกระนั้นมันปิดทางออกเลยหนีมาทางนี้ไปคุยกันที่กระท่อมดีกว่า” เสือมายพูดจบก็นำหน้าพาไพฑูรย์ไปที่กระท่อม ไพฑูรย์จุดบุหรี่ตราฆ้องส่งให้เสือมายสูบ เสือมายรับไปอัดไม่กี่พรืดก็หมดมวนเพราะไม่ได้สูบมาหลายวัน “พี่สมจิตเคยเล่าให้ฟังเหมือนกันว่า มีหลานชื่อไพฑูรย์ เป็นนักโทษอยู่เรือนจำบางขวางแหกคุกเป็นว่าเล่น นี่มึงคงแหกคุกออกมาอีกละซีถ้า” “เรื่องธรรมดา กูสาบานไว้ว่าหากลมหายใจกูยังมี กูก็จะแหกคุกตลอดไป ขังได้ก็แหกได้ไม่เห็นแปลก” ขณะนั่งคุยกัน เสือมายขอตัวไปปล่อยทุกข์หนักในป่าอ้อย พอหันหลังเดินออกไปจากกระท่อมไพฑูรย์เล่าว่า
“ศีรษะของเสือมายที่เห็นอยู่กลับเลือนหายไป โบราณท่าบอกว่าคนๆนั้นชะตาขาด หากมองเห็นเช่นนี้แล้วให้ทำพิธีต่อศีรษะ ผ่อนหนักเป็นเบาได้ จึงเรียกเสือมายด้วยเสียงอันดัง”
|