พ่อผมมีความสนิทกับ หลวงพ่อสุข วัดกิ่งแก้ว อดีตเจ้าอาวาส วัดกิ่งแก้ว ต่อจากหลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว หลวงพ่อสุข องค์นี้แหละ เป็นผู้แกะพิมพ์ ช่วยหลวงปู่เผือก เมื่อครั้ง สร้างพระผงรุ่นขุดสระ คุณพ่อผมมีความสนิทกับท่านมาก ๆ ย้อมไปเมื่อ 30 ปีก่อน ขณะกำลังกินน้ำชา กับหลวงพ่อสุขอยู่ หลวงพ่อบอกว่าจะให้ชมอะไร เป็นของสูงค่ามาก ๆ ๆ สำหรับท่าน เป็นอัฏฐิของหลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว และอัฐิของหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา ประกอบกับคุณพ่อผมเป็นคนซื่อๆ แต่เป็นคนดี หลวงพ่อสุข บอกว่า ให้ไปซื้อเจดีย์ เล็ก สำหรับใส่พระธาตุมาและจะแบ่งอัฏฐิ ให้พ่อผมแต่มีข้อแม้ว่า จะต้องเก็บรักษาไว้อย่างดี ใส่บูชาให้สูง ๆ พ่อผมนำมาใส่เจดีย์ไม้จันทร์ เก็บไว้ที่บ้าน ผมมีโอกาสเห็นหลายครั้ง เวลาพ่อผมเปิดให้ดู ขนลุกซู่เพราะ เป็นอัฏฐิของยอดพระเกจิ ที่ไม่น่าจะมีให้เห็นกันง่าย ๆ อัฏฐิของหลวงปู่ทอง เป็นก้อนคล้ายพระธาตุ ใสแจ๋ว แวววาวสวยงามมาก ส่วนของหลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว เป็นช่วงไหปลาร้า มีหนึ่งชิ้น เชื้อไหมครับ อัฏฐิชิ้นนี้ขาวมาก ๆ ขาวโพลน เหมือนกับคำว่าเผือก ของที่เป็นชื่อของหลวงปู่จริง ๆ เป็นความปลาบปลื้มใจมากที่ผมได้เห็น ปัจจุบันก็ยังคงเก็บไว้ในห้องพระ ถ้าไปเล่าให้ใครฟังไม่มีใครเชื่อ คงนึกว่าไปเอากระดูกใครมาเก็บมาบูชาไว้ แต่คุณพ่อผมสนิทกับหลวงพ่อสุข วัดกิ่งแก้ว มากครับ ถ้าพูดถึงพระหลวงพ่อสุข ที่มีชื่อรุ่นว่า พระสมเด็จสุคโต โสรฬ สิบหกชั้น สิบเก้ารัศมี นักนิยมพระวัดกิ่นแก้วคงรู้ดี ว่าท่านสร้างพระรุ่นนี้น้อยไม่มาก และเป็นพระรุ่น แรก ๆ ของหลวงพ่อสุข
นอกจากนี้หลวงปู่ทอง ยังมีอภินิหารด้าน ล่องหนหายตัว การเดินร่นระยะทาง อันเป็นสุดยอดวิชาของเกจิสมัยก่อน เหมือนมีเครื่องถ่ายโอนสะสาร แบบเรื่องไอ้แมลงวัน แต่อันนี้เกิดจากการบำเพ็ญบุญ และวิชาอาคมที่ได้ศึกษามา ด้วยความยากลำบาก ปัจจุบันลูกศิษย์ ที่สืบทองหลวงปู่หลายคนหลายสาขาอาชีพ มีการไหว้ครูกันที่วัด ลูกศิษย์หลวงปู่หลายคน มีการสักอักขระเลขยันต์ ต่าง ๆ โดยอาจารย์ที่สืบทอดวิชาจากหลวงปู่ คุณพ่อผมคนจีนที่บ้าน อากงห้ามสักต่าง ๆ แกก็ยังอุตสาสักบนกระหม่อม เพื่อไม่ให้อากงเห็น แกสัก ตัวนะ ตัวเดียวเป็นสักน้ำมัน หลายครั้งที่แกไปต่างจังหวัด ตอนบวชพระ ไม่ได้พกพระอะไร มีเพียงยันต์ตัวเดียวที่สักอยู่ พบเหตุเจออะไรแปลก ๆ พวกผี พวกเปรต อสุรกาย ร่างทรง พวกเล่นของต่าง ๆ เล่นวิชาอาคม ไม่กล้าเข้ามาทำอะไร เพราะยันต์นะ ตัวเดียวที่สักอยู่บนกะหม่อม ปกป้องคุ้มครองจากสิ่งชั่วร้าย ตัวนะ ที่มาจากหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา ยอดเกจิอาจารย์องค์หนึ่งในประเทศไทย
ลูกศิษย์หลวงปู่จะมีเยอะ แต่จะเก็บตัว แต่ทุกคนจะพกรูปหลวงปู่ แม้ตำรวจที่ผมรู้จัก ผมคุยเรื่องหลวงปู่ให้ฟัง เดี่ยวนี้เป็นลูกศิษย์หลวงปู่เหมือนกัน เก็บพระหลวงปู่ไว้ก็มาก เพราะศรัทธาในความศักสิทธิ์ มีเรื่องเล่าว่าครั้งหนึ่งมีชาย ต่างถิ่นไปกินข้าวในร้านอาหาร มีเรื่องกับนักเลงในร้าน โดนรุมตี ข้าง ๆ โต๊ะ ก็มีอีกกลุ่มหนี่งนั่งอยู่เป็นลูกศิษย์หลวงปู่เหมือนกัน แต่คนที่โดนรุนนั้นทำท่าจะไม่ไหม เพราะ 1 ต่อ 3 ชกออกไปหมัดหนึ่ง มันตอกกลับมา 3 หมัด ก็ไม่ไหวแล้ว ขณะชุลมุน กันสร้อยที่คล้องคอหนุ่มต่างถิ่น เผอิญ แลบออกมานอกเสี้อ เป็นรูปหลวงปู่ทองตอนลงกระได ถ่ายไม่ติด นั้นละ กลุ่มลูกศิษย์หลวงปู่เห็นรูปเท่านั้น ตะโกนถามว่า เป็นลูกศิษย์ปู่ทอง หรือเปล่า ชายแปลกถิ่นโดนยำเละอยู่ก็บอกว่าใช้ครับพี่ ผมลูกศิษย์ เท่านั้น แหละ ชายอีกกลุ่มที่นั่งอยู่นานแต่ไม่กล้าเข้าช่วยเพราะไม่รู้จักกัน แต่พอเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ทอง เกจิอาจารย์ องค์เดียวกัน ลุกพรวดเข้าช่วยชายคนนั้น ยุทธการ 3 ต่อ 1 จึงจบลง กลายเป็น 5 ต่อ 3 แทน รอดตายราวปาฏิหาริย์ ( ดีนะที่รูปโพล่ออกมาเร็ว ไม่รอให้หามเข้าโรงพยาบาลก่อน แล้วค่อยโพล่ออกมา ฮ่า ฮ่า ) แสดงว่าลูกศิษย์หลวงปู่ส่วนใหญ่ มีผู้มีน้ำใจ และนับถือในความดีของหลวงปู่ ทั้งสิ้น
ถ้าท่านเคยไปวัดราชโยธา สังเกตเห็นกุฏิเก่า สมัยหลวงปู่ กุฏินี้ไม่มีใครกล้าเข้าไปแต่ะต้อง แม้แต่เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันต้องยกให้ อยู่อย่างเดิมไม่กล้ารื้อถอน เคยมีคนคิดพิเรนท์ ไปยืนฉี่อยู่ใกล้ ๆ กุฏินี้ ผลก็คือ ติงต๊อง บ้า ๆ บอ พูดจาเลอะเลือน สติไปอยู่นอกโลก กู่ไม่กลับ ปัจจุบันที่วัดยังคงเก็บเรือหลวงปู่เอาไว้บูชา เป็นเรือที่สมัยก่อนท่านใช้บิณฑบาต ทางน้ำให้กับญาติโยม
อีกหนึ่งเรื่อง ที่ผมได้ยินมา ถึงความขลังของตัวเลขยันต์ของหลวงปู่ ที่จะเขียน หรือจารในองค์พระ และในรูปถ่าย บางรูปจะมีการจารหลังด้วยดินสอ ด้วยอักขระต่าง ๆ งดงาม คงความศักดิ์สิทธิ์ มาก ที่พูดเพราะมีตัวอย่างที่เพื่อนเล่าให้ฟังว่า เพื่อนเขาก็นับถือหลวงปู่ทอง ได้รูปถ่าย หลังมีจารดินสอ ธรรมดานี้แหละ เลยเอาไปให้ลูกชายพกติดตัว ลูกชายไม่รู้เรื่อง คิดพิเรนท์ หรือไม่เข้าใจ อย่างไรไม่ทราบ ลบยันต์จารดินสอหลังรูปออก จนเกลี้ยง หลังจากนั้นก็มีอาการ ต๊อง ๆ เลอะเลือน พูดจาไม่รู้เรื่อง คล้าย ๆ จะตามคนแรกที่ไปยืนฉี่ข้าง ๆ กุฏิหลวงปู่ สติทำท่าจะออกนอกโลกเหมือนกัน พ่อเห็นอาการไม่ดี เลยถาม ว่าทำอะไรมา พอรู้ว่าลูกชายซน ไปลบยันต์หลังรูปออก รีบขอขมา ที่ความรู้เท่าไม่ถึงการ จุดธูปบอกหลวงปู่ ก็หายจากอาการต๊อง สติกลับมาอยู่บนโลก เหมือนเดิม ฮ่า ฮ่า ฮ่า ดีที่สติกลับมาไม่งั้นอาจไปเจอกับไอ้เจ้าคนแรก ที่ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว
ปัจจุบันผมมีพระหลวงปู่ทอง ที่เป็นของผมองค์เดียว (ที่เหลือให้น้องหมด ) แปลกมาก ในขณะที่ผมสนทนากับ คุณลุงท่านที่รู้จักกับคุณพ่อผม ปู่แกเป็นศิษย์หลวงปู่ คุยผมถามถึงเรื่องของหลวงปู่ในอีกแง่มุม ที่เรา ๆ ท่าน ๆ อาจยังไม่เคยได้ยินในหนังสือ เล่มใดก็ตาม คุณลุงคนนั้นตอบว่า เออ ไอ้หนูนี่คุยถูกคอดีแฮะ (ตอนนี้ไม่หนูแล้ว นะ หนุ่มแล้ว) พรุ่งนี้ลุงเอาพระหลวงปู่มาให้องค์หนึ่ง ผมดีใจที่แกจะให้เป็นพระพิมพ์อะไร เนื้ออะไร ต้องรอดู ตอนเช้า ตื่นขึ้นมา (ผมตื่นสาย ) ลงไปก็ถามพ่อว่า ลุงแกเอาพระมาให้หรือเปล่า พ่อผมก็บอกนู้นอยู่ในกล่อง ผมเปิดดูเป็นพิมพ์ข้างอุ สวยมาก หลังจาร เนื้อจัดจ้านมาก ๆ ราคา 1500 บ. ผมคิดในใจทำไมบอกว่าจะให้หรือ ให้ (เช่า) แต่ไม่เป็นไรเช่าก็เช่าพระทุกองค์มีราคา ค่าเช่ามา ผมอยากได้ก็ต้องบูชาต่อ พ่อผมถามเป็นไง สวยไหม ผมบอก “ เนื้อจัดมาก ๆ จัดกว่าทุกองค์ที่เคยได้มา “ เออ แล้วมีอีกองค์ แกว่า แกให้เอ็งนะ อยู่ในตู้ ผมดีใจที่แกเป็นคนรักษาคำพูด และก็ตื่นเต้นด้วย อยากรู้ว่าแกให้พระพิมพ์อะไร เพราะเป็นลูกศิษย์หลวงปู่แกต้องรักษาสัจจะ “ ผมรีบมาดูองค์นี้พอเห็น ก็รู้สึกประหลาดใจ พระองค์นี้พิมพ์ทรงไม่สวย ไม่มีเลยก็ว่าได้ เห็นแล้วถ้าไม่สังเกตไม่รู้ว่าพระด้วยซ้ำ เป็นพระที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน พระพิมพ์ลักษณะแปลกมาก เหมือนพระพุทธนั่งอยู่บนตัวสัตว์ คล้ายวัว หรือ หมู อะไรซักอย่าง หลังอูม ๆ แต่เนื้อไม่เหมือนเนื้อดินจอมปลวก อย่างที่เคยเห็น เป็นเนื้อเหมือนเอาดินร่วน ๆ มากด พิมพ์ มีลงรักเก่า รักเริ่มร่อน พิจารณาจากรัก ที่ติดอยู่นี้เก่าจริงแน่นอน
ถามพ่อผมว่า แล้วแกบอกอะไรอีกบ้าง พ่อผมบอก “ ไม่มีอะไรนี่ แกบอกว่าฝากให้หลานชาย เห็นสนใจพระหลวงปู่ เก็บไว้ให้ดี พระองค์นี้หายากมาก ทำจากดินขี้ควาย แกเก็บมานานแล้ว ยกให้เอ็ง “ ดินขี้ควาย ฟังตอนแรกแล้ว โอ้โห แทบไม่อยากจะห้อยคอ แต่นึกดูในเนื้อมีเศษเหมือนกากอาหาร เหมือนหญ้าแห้ง จริง ๆ นั้นแหละ นี่อาจเป็นสุดยอดของแกก็ได้ หลวงปู่สร้างพระจาก วัสดุ วัตถุดิบจากพื้นที่ ในระแวกวัดนั้น อีกนัยหนึ่งอาจเป็นปริศนาธรรม ไม่ให้ยึดติดในรูปลักษณ์ ของดีก็คือของดี ส่วนตัวสัตว์มีนัยให้เราคิด ว่าวัวเป็นสัตว์มีคุณค่ากับมนุษย์ และสุดท้ายคนเราก็เหลือสังขารที่ไม่เที่ยง กลายเป็นกาก เป็นขี้เถ้าแบบนี้ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าสัตว์ที่อยู่ในพระคือ สัตว์อะไร เขาคือ วัว หรือ ควาย ตามชื่อพระดินขี้ควายนะครับ ผมไม่พบเจอคุณลุงท่านนี้อีกเลย ระยะ เวลา 10 กว่าปี ไม่ทราบบ้านแกเพราะย้ายไปนานแล้ว ไม่มีเบอร์ แต่ผมก็นำความรู้ที่แกถ่ายทอดให้ฟัง เกี่ยวกับเกจิอาจารย์ ยอดอาจารย์ ยุคเก่า องค์นี้เพื่อเป็นความรู้กับเพื่อน ๆ ต่อ
|