ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 11248
ตอบกลับ: 2
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

พระอินทร์ ผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์

[คัดลอกลิงก์]



พระอินทร์หรือที่รู้จักกันอีกหลายๆชื่อ เช่น ท้าวสหัสมนัยน์ ท้าวโกสีย์ ท้าวสักกะ เทวราช อมรินทร์ ศักรินทร์ มัฆวาน หรือเพรชรปาณี เป็นต้น
พระอินทร์มีลักษณะคล้ายพระนารายณ์ มีรูปกายที่สวยงาม และมีผิวสีเขียว แต่ในบางครั้งจะเปลี่ยนเป็นสีทองจนถึงขาวนวล ตามแต่โอกาส พระหัตถ์ของพระอินทร์จะถือวัชระเพื่อใช้ปราบ พฤตาสูร หรือ ผีร้ายแห่งความแห้งแล้ง นอกจากนี้ยังมีศาสตราวุธอื่นๆอีก เช่น ศรศักรธนู พระขรรค์ ปรัญชะ ขอ และร่างแห
พาหนะของพระอินทร์ คือ รถเทียมม้าสีแดง และม้าแก้วทรงสีขาว ชื่อว่า อุจไฉศรพ  ซึ่งเกิดจากเกษียรสมุทร อีกทั้งยังมีช้างทรง 3 เศียร (แต่เดิมมีถึง 33 เศียร) นามว่า คชาเอราวัณ หรือซึ่งปกติจะเป็นเทพบุตรผู้หล่อเหลา และชอบดื่มเหล้า และจะแปลงกายเป็นช้างเอราวัณเมื่อพระอินทร์จะไปไหน
พระอินทร์ มีมเหสีหลายคน ไม่ว่าจะเป็น นางสุธรรมา สุชาดา สุนันทา สุจิตรา และยังมีนางฟ้าเป็นชายาอีกเก้าสิบสองนาง รวมถึงมีนางบำเรออีกยี่สิบสี่ล้านนาง โดยในสมัยพระพุทธเจ้าพระอินทร์ได้ทรงดีดพิณสามสายถวายพระสติพระโพธิสัตว์ในการทำทุกขกิริยา
ตั้งแต่ในสมัยโบราณ ศาสนาพราหมณ์ หรือ ศาสนาฮินดู จะนับถือให้พระอินทร์เป็นใหญ่สูงสุด โดยศาสนาพราหมณ์ฮินดูถือว่าพระอินทร์ถือเป็นเทพเจ้าองค์แรกสุดของจวบจนถึงปัจจุบัน การบูชาพระอินทร์ก็ยังคงมีอยู่ในหมู่ผู้ศรัทธาทั่วไป เพียงแต่ในศาสนาฮินดูอาจถูกลดบทบาทลง และยกย่องพระพรหม พระวิษณุ (พระนารายณ์) และ พระศิวะ (พระอิศวร) ขึ้นมาเป็นใหญ่แทน
เมื่อครั้งสมัยโบราณ พระอินทร์ถือเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่มีอานุภาพสูงที่สุดในเหล่าบรรดาเทพ พระองค์สามารถดลบันดาลให้เกิดฝนตกต้องตามฤดูกาล บันดาลให้พืชพรรณงดงาม และบันดาลให้เกิดภัยทางธรรมชาติที่เป็นภัยอันร้ายแรงได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นพายุ ฝนตก น้ำท่วม ฟ้าร้อง หรือฟ้าผ่า เป็นต้น ทั้งนี้ก็เพราะพระอินทร์มีวัชระหรือสายฟ้าเป็นศาสตราวุธคู่กาย ซึ่งอาวุธนี้สามารถสร้างสายฝน ฟ้าผ่า หรือฟ้าร้องตามที่ต้องการได้ วัชระเป็นศาสตราวุธที่มีอำนาจทรงพลังเป็นอย่างมาก สามารถผ่ามหาสมุทร ผ่าภูเขาได้ หรือผ่าท้องฟ้าได้ดั่งใจนึก
เมื่อกล่าวถึงพระวรกายของพระอินทร์ ก็มีตำรากล่าวว่าพระอินทร์มีกายสีเหลืองทองสดใส ส่วนอีกตำรากล่าวว่าพระอินทร์มีผิวสีแดงเข้ม สวมอาภรณ์สะอาดสะอ้าน สวยสดงดงาม  มีเครื่องประดับเป็นเพชรนิลจินดามากมาย เช่น สร้อยคอ กำไลข้อมือ แหวน มงกุฎอันตระการตา เป็นต้น และมีสร้อยเป็นงู  เชื่อกันว่าศิลปินผู้ใดที่วาดรูปพระอินทร์ได้งดงามจะถือกันว่าเป็นมหากุศลอย่างยิ่งของบุคคลคนนั้น
พระอินทร์มีความสามารถในการแปลงกายได้สารพัด อีกทั้งยังล่องหนไปไหนมาไหนก็ได้ พระอินทร์สามารถเนรมิตให้ร่างกายเล็กเท่ามด หรือเนรมิตให้ร่างกายยิ่งใหญ่มโหฬารดั่งภูเขาก็ได้ตามที่ใจปรารถนา
พระอินทร์จึงถือเป็นมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่เหนือชีวิตของสรรพสัตว์และมนุษย์ทั้งหลาย พระอินทร์จึงเป็นเทพที่จิตใจประเสริฐ พระองค์มีหน้าที่คอยคุ้มครองผู้ที่กระทำความดีอยู่เสมอ ปกป้องดูแลโลกให้พ้นจากสิ่งอันตรายเลวร้ายต่างๆ  และยังเป็นผู้นำเหล่าเทพเจ้าให้ไปกำจัดอสูรร้ายที่ตั้งใจเข้ามาสร้างความเดือดร้อนให้แก่โลกมนุษย์
นอกเหนือจากศาสนาพราหมณ์แล้ว ศาสนาพุทธก็นับถือให้พระอินทร์เป็นเทพผู้รักษาพระพุทธศาสนาให้อยู่ยงถึง 5,000 ปี เช่นกัน ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากพระอินทร์เป็นถือเทวกษัตริย์ ซึ่งหมายความว่า เป็นราชาแห่งเหล่าทวยเทพ ผู้มีอำนาจในการทำลายมารที่คอยนำพาพระพุทธศาสนาไปในทางเสื่อมเสีย
เมื่อพระอินทร์ได้ทรงสร้างอาณาจักรอันยิ่งใหญ่บนสรวงสวรรค์แล้ว พระองค์ก็ทรงเนรมิตให้เกิดเป็นเหล่าเทวดาที่อยู่บนสรวงสวรรค์อย่างมีความสุข และปราศจากความทุกข์เศร้าใดๆ
อย่างไรก็ตาม พระอินทร์มีศัตรูคู่อาฆาตที่สำคัญที่สุดคือ งูยักษ์วริตรา ทั้งสองได้ทำสงครามกันหลายครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งก็กินระยะเวลาอันแสนยาวนาน แต่ในทุกๆครั้ง พระอินทร์ก็จะเป็นฝ่ายได้รับชนะเสมอ ทำให้พระอินทร์กลายเป็นสัญลักษณ์แห่ง “ธรรมะ” ส่วนงูยักษ์เป็นสัญลักษณ์ของ “อธรรม” ซึ่งอยู่คู่กันอย่างไม่มีวันดับสูญได้เลย
ตำรากล่าวถึงท้าวสักกะเทวราช ซึ่งเป็นอีกพระนามหนึ่งของพระอินทร์ ไว้ว่า พระอินทร์เป็นผู้ที่เกิดมาจากผู้มีจิตใจเมตตาที่ได้ร่วมกันสร้างเส้นทางและศาลาเพื่อถวายเป็นทานจำนวน 33 คน  เมื่อผู้ใจเมตตาเหล่านั้นเสียชีวิตไปก็ไปเกิดเป็นเทวดา พระอินทร์จึงเกิดจากการที่เทวดาเหล่านี้ได้รวมร่างกัน ในขณะที่ ช้างทรง 33 เศียรของพระอินทร์ ก็ใช้เพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงผู้กระทำคุณความดีทั้ง 33 คนนั่นเอง
กล่าวกันว่าพระอาสน์ หรือพระที่นั่งของพระอินทร์จะมีคุณสมบัติพิเศษบางอย่าง กล่าวคือ เมื่อใดที่พระอาสน์ร้อนขึ้นมา แสดงว่า ขณะนั้นโลกมนุษย์กำลังเกิดเหตุร้าย หรือมีอสูรออกอาละวาด เมื่อนั้น พระอินทร์ก็จะเสร็จออกจากสรวงสวรรค์ และแปลงกายเป็นสัตว์ใหญ่ที่มีร่างกายแข็งแรงกำยำ เพื่อลงมาปราบอสูรให้หมดสิ้นไป
เชื่อว่าผู้ใดที่ได้เคยประกอบความดีบนโลกมนุษย์ เมื่อสิ้นอายุขัยแล้ว ก็จะไปเกิดเป็นเทวดา และประทับอยู่บนสรวงสวรรค์อันเป็นวิมานของพระอินทร์

2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2016-7-3 13:25 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
มเหสีของพระอินทร์
(จากตำราเทพเจ้าและสิ่งน่ารู้ บทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว)มเหสีของพระอินทร์นั้น ตรวจดูตามหนังสือต่างๆว่า มีองค์เดียว และโดยมากเรียกว่า "อินทราณี" ฤา "ศจี"
......
หนังสือพจนานุกรมภาษาสันสกฤตได้กล่าวไว้ว่า "มเหสี" ของ พระอินทร์ มีนามเรียกว่า ศจี อินทราณี มโฆนี อินทรศักติ
ปุโลมชา
และ เปาโลมี ดังนี้ ในคัมภีร์ฤคเวทกล่าวว่า ตามบรรดาสตรีทั้งหลาย อินทราณีมีโชคดียิ่งกว่าหญิงทั้งสิ้น
เพราะว่าภัสดาของนางจะมิได้สิ้นชีพลงด้วยชราภาพเลยในเบื้องหน้า........
เพราะพระอินทร์จะเปลี่ยนไปกี่องค์ๆ นางอินทราณีก็จะยังคงเป็นอัตรมเหสีของพระอินทร์ต่อๆไป
ในสวรรค์จะต้องมีผู้ใดผู้หนึ่งเป็นใหญ่ปกครองโลกสวรรค์ และนางอินทราณีจะเป็นอัตรมเหสีของจอมสวรรค์เสมอ
เพราะฉะนั้น จึงนับว่าไม่มีเลยที่ภัสดาของนางอินทราณี จะต้องสิ้นชีพลงเพราะชราภาพ
...พระผู้เป็นเจ้าพระองค์ใด...ในคราแรกเริ่มเดิมทีอุบัติขึ้น เป็นสิ่งแรกที่มีเจตภูต
พระผู้เป็นเจ้าองค์ซึ่งพิทักษ์เทพเจ้าทั้งหลายด้วยอานุภาพแห่งพระองค์
พระผู้เป็นเจ้าองค์ซึ่งสองโลกต้องตระหนักด้วยเดชานุภาพ และศักดานุภาพของพระองค์
พระผู้เป็นเจ้าองค์นั้นแล มนุษย์ทั้งหลายเอ๋ย...คือ พระอินทร์!!!...พระผู้เป็นเจ้าองค์ใดบังคับโลกที่สั่นสะท้านให้นิ่งได้
ทำความมั่งคงให้แก่ขุนเขาที่หวั่นไหว พระผู้เป็นเจ้าองค์ใดสร้างสวรรค์ขึ้น
พระผู้เป็นเจ้าองค์นั้นแล มนุษย์ทั้งหลายเอ๋ย...คือ พระอินทร์!!!
ข้อความจาก "หนังสือปรีชาญาณของสิทธัตถะ" โดย สมัคร บุราวาส

ภาพพระอินทร์ จาก illumininati-news.com


ภาพพระอินทร์ จาก sahavicha.com


wikipedia


wikipedia


wikipedia


รูปภาพพระอินทร์ลายไทย wikipedia


ภาพพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ภาพลายไทย wikipedia

3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2016-7-3 13:36 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ทำไมพระอินทร์ จึงมีสีเขียว (ประวัติความเป็นมาของพระอินทร์)

"พระอินทร์" เป็นเทพที่รู้จักกันดีในบ้านเรา เพราะทรงโปรดที่จะมาช่วยเหลือและเกี่ยวข้องกับมนุษยโลกอยู่เนืองๆ เป็นที่ทราบกันว่าทรงประทับอยู่บนสวรรค์ชั้นที่สองของ "ฉกามาพจร (สวรรค์ 6 ชั้น)" ชื่อ "ดาวดึงส์" หรือ "ไตรตรึงษ์" แปลว่า สามสิบสาม หมายถึง หมู่เทพที่ชาติก่อนเป็นเพื่อนร่วมทำบุญด้วยกันมา 33 องค์ ประทับนั่งอยู่บนเศียรช้างเอราวัณ 33 เศียร มีพระอินทร์เป็นประธาน

เรารู้จักพระอินทร์ในหลายชื่อ เช่น สักกะเทวราช โกสีย์ พระมัฆวาน เป็นต้น และบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นี้จะมีสิ่งมหัศจรรย์มากมาย เช่น แท่นบัณฑุกัมพลซึ่งปกติจะอ่อนนุ่ม แต่หากมีคนดีเดือดร้อนก็จะ "แข็งดั่งศิลา" ทำให้พระอินทร์ต้องลงมาช่วย หรือต้นปาริชาตที่ใครได้กลิ่นก็จะระลึกชาติได้ เป็นต้น

สาเหตุที่เขียนเรื่อง "ทำไมพระอินทร์มีร่างกายผิวพรรณเป็นสีเขียว" นั้น เนื่องจากมีผู้อยากรู้ถามเข้ามามาก และยังไม่ได้ลองตั้งใจตอบจริงๆ จังๆ สักที อาจเป็นเพราะว่าตัวเองก็ยังงงๆ อยู่ว่า เวลานึกถึงเทพองค์อื่นก็จะไม่มีสีสันวรรณะพิเศษอย่างพระอินทร์

เกริ่นกันเรื่อง "พระอินทร์" ก่อน การที่จะเกิดเป็นพระอินทร์ได้นั้นจะต้องกระทำกุศลที่เรียกว่า "วัตตบท 7 ประการ" อันได้แก่ 1.เลี้ยงมารดาบิดาตลอดชีวิต 2.ประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ในตระกูลตลอดชีวิต 3.มีวาจานุ่มนวลสุภาพตลอดชีวิต 4.มีวาจาไม่ส่อเสียดตลอดชีวิต 5.มีใจปราศจากความตระหนี่ ยินดีในการแจกทาน ครองเรือนตลอดชีวิต 6.มีวาจาสัตย์จริงตลอดชีวิต และ 7.ไม่โกรธ แม้ว่าถ้าโกรธก็ระงับได้ทันทีตลอดชีวิต

ในยุคแรกๆ ก็ไม่ได้กำหนดชัดเจนว่า "พระอินทร์" จะมีสีอะไร เข้าใจว่าคงจะเริ่มกำหนดเมื่อมีการวาดภาพจิตรกรรมฝาผนัง โดยเฉพาะจิตรกรรมประเภทแบบแผนประเพณี ซึ่งจะกำหนดสีสันวรรณะต่างๆ ของพระพุทธเจ้า เทวดา กษัตริย์ อสูร (ตัวกาก) ให้ชัดเจน และอิทธิพลดังกล่าวก็เผยแพร่เข้ามาในการทำหัวโขน หรือหุ่นกระบอกที่ให้สีสันด้วย

ความเป็นจริงแล้ว พระอินทร์ เป็นเทพชั้นสูงมากมาตั้งแต่ก่อนยุคพระเวทในอินเดีย หรืออาจกล่าวได้ว่าช่วงอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุของชาว Dravidian หรือพวกมิลักขะที่พ่ายแพ้ให้กับ อารยัน (Aryan) ก็มีการนับถือพระอินทร์กันมาแล้ว ยิ่งยุคพระเวทต้นๆ พวกพราหมณ์นับถือว่าพระองค์เป็นเทพสูงสุด ก่อนจะหันมานับถือ เทพตรีมูรติ ได้แก่ พระพรหม พระวิษณุ และพระอิศวร เสียอีก

อนึ่ง อาจเป็นเพราะว่าท่านเป็นเทพเจ้าประจำธรรมชาติ บรรดาผู้คนสมัยโบราณเขาจะเริ่มต้นนับถืออำนาจของธรรมชาติ หรืออำนาจที่เกี่ยวกับธรรมชาติก่อนอย่างอื่น เช่น ฝนตก ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า อะไรทำนองนั้น ดังนั้น เทพในระยะแรกๆ ก็จะผูกพันอยู่กับธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น นับถือพระวรุณ หรือพระพิรุณได้แก่เทพแห่งสายฝน นับถือพระอัคนี ได้แก่เพลิงหรือไฟ นับถือพระพายหรือวายุเทพซึ่งก็คือลม นับถือสุริยเทพหรือพระอาทิตย์ เป็นต้น

ส่วนพระอินทร์นั้นได้รับการยกย่องเป็นเทพอันดับหนึ่งเนื่องจากพระองค์มีอาวุธเป็น "วชิระ" (แผลงเป็น พชร หรือเพชร) ใน "ตำรานพรัตน์โบราณ" กล่าวว่าเป็นแก้ววิเชียรมีน้ำใสงดงามทอประกายสะท้อนแสงเราเลยเรียกวัตถุที่สะท้อนแสงใสงดงามว่าเพชรด้วย ซึ่ง วชิราวุธ ขององค์อินทร์นั้นมีอิทธิปาฏิหาริย์มาก ขว้างไปเมื่อใดก็จะก่อให้เกิดฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ขยับในหัตถ์ก็เกิดฟ้าแลบ และจะทำให้ฝนฟ้าตก เมื่อฝนตกพืชพันธุ์ธัญญาหารก็อุบัติเจริญงอกงามมีสีเขียวชอุ่มปกคลุมผืนโลกไปทั่ว

บางคนอาจสงสัยว่า อ้าวแล้วทำไมไม่ให้พระพิรุณซึ่งเป็นฝนโดยตรงมีสีเขียว อันนี้ก็เพราะว่าพระอินทร์ท่านเป็นเทพสูงสุด จึงนำท่านมาเป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญงอกงามของต้นไม้ใบหญ้า และท่านก็มักมาปรากฏตัวช่วยคนนั้นคนนี้บ่อยๆ เลยใส่สีเขียวให้เป็นจุดสังเกตแห่งความเป็นเทพประจำธรรมชาติ แล้วก็วาดเป็นสีเขียวสืบต่อกันมาโดยออกจะเลือนๆ ที่มาที่ไปกัน เพราะความจริงสีเขียวของวรกายท่านนั้นไม่ใช่เขียวสดใสแต่เป็นเขียวที่เราเรียกว่า "อินทนิล" คือบวกดำเข้าไปจนออกจะเขียวอื๋อ เหตุก็เพราะท่านไม่ใช่เทพของพราหมณ์เท่านั้น แต่พวกดราวิเดียนที่มีร่างสีดำนับถือมาก่อน

ต่อมาภายหลังพระอินทร์จึงลดบทบาทลงมา แต่ก็นับได้ว่าท่านเป็นเทพประจำพระพุทธศาสนา ซึ่งมักจะมาปรากฏกายในพุทธประวัติอยู่เสมอ นอกจากนั้นในงานวรรณคดี รวมทั้งตำนานบ้านเราก็นิยมให้ท่านมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือคนดี และสร้างบ้านแปงเมืองอยู่เสมอ

และท่านก็จะพัวพันกับสีเขียวมาเรื่อยๆ อย่างเช่น เป็นผู้ให้ท้าววิษณุกรรมสร้างพระแก้วมรกต จนเรียกกันว่า "รัตนโกสินทร์" ซึ่ง "รัตน" แปลว่าแก้ว โกสินทร์ คือ โกสีย์ หมายถึงพระอินทร์ ครับผม
พันธุ์แท้พระเครื่อง
ราม วัชรประดิษฐ์

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้