ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 1523
ตอบกลับ: 0
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ไทยยังเหลือความได้เปรียบทางธรรมชาติอยู่อีกหรือ ?

[คัดลอกลิงก์]

ไทยยังเหลือความได้เปรียบทางธรรมชาติอยู่อีกหรือ ?       
โมเดล “ประเทศไทย 4.0”  โดยหลักการแล้วดี  นักคิด “ทุนนิยมเสรีโลกาภิวัตน์” ทั่วโลกก็คิดอย่างนี้   วาดหวังอย่างนี้  ปรารถนาดีอย่างนี้ แต่ปฏิบัติจริงไดผลตามที่วาดหวังยาก ! สำหรับประเทศไทยนั้น   มีเสียงเรียกร้องให้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจอุตสาหกรรมมาตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง ปี 2540     หลังวิกฤตินั้นแล้ว  ก็ยิ่งเรียกร้องกันมากขึ้น    แต่มาถึงวันนี้ยังเห็นผลเกิดเป็นจริงไม่มาก โมเดล “ประเทศไทย 4.0” ก็เน้นการเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจอุตสาหกรรมเช่นกัน  โดยระบุว่า
        “เปลี่ยนจากโครงสร้างเศรษฐกิจอุตสาหกรรม “เพิ่มมูลค่า” ไปสู่โครงสร้างเศรษฐกิจอุตสาหกรรม “สร้างมูลค่า” ซึ่งประกอบด้วย 5 กลุ่มหลักๆคือ 1. กลุ่มอุตสาหกรรมทางชีวภาพ  2. กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน 3. กลุ่มอุตสาหกรรมด้านวิศวกรรมและการออกแบบ 4. กลุ่มอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องกับคุณภาพชีวิต และ5. กลุ่มอุตสาหกรรมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทั้ง 5 กลุ่มอุตสาหกรรมนี้ตั้งอยู่บนฐานของความได้เปรียบเชิง “ธรรมชาติ” และความได้เปรียบเชิง “วัฒนธรรม” ที่ประเทศไทยมีอยู่เดิม และต่อยอดด้วยการบริหารจัดการ องค์ความรู้สมัยใหม่”
     เราขอชี้ปัญหาในทางปฏิบัติบางข้อดังนี้ อะไรคือ “ความได้เปรียบเชิงธรรมชาติ” ?   อะไรคือ “ความได้เปรียบเชิงวัฒนธรรม” ?   ต่างคนคงต่างมีคำตอบที่แตกต่างกัน   รัฐจำเป็นต้องแจงรายละเอียดเป็นรูปธรรมให้ชัดเจน   เพราะแผน “ประเทศไทย 4.0”  กำ ลังจะถูกใช้เป็นยุทธศาสตร์ชาติต่อไปอีกยี่สิบปี  ตามแผนปฏิรูปของ คสช.   จึงจำเป็นที่จะต้องสร้างเป็นอุดมการของคนทั้งชาติด้วย สำหรับการมองรายละเอียดรูปธรรม  เรายังไม่เข้าใจว่า “ความได้เปรียบเชิงธรรมชาติ”  ในวิสัยทัศน์ของผู้วางแผนโมเดลประเทศไทย 4.0 คืออย่างไร  ?
     ถ้าบอกว่า  ไทยมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์  มีความหลากหลายทางชีวภาพ  มีความเหมาะสมและมีศักยภาพสูงทางด้านการเกษตร   เหมาะสมที่จะสร้างอุตสาหกรรมทางชีวภาพ
เราก็จะแย้งว่า   ความอุดมสมบูรณ์แบบนั้นมันสิ้นสลายไปจากประเทศไทยแล้ว    ขณะนี้แม่น้ำหลักเกือบทุกสายไปแล้ว  ป่าไม้ต้นน้ำเกือบจะหมดสิ้นไปแล้ว  ภูเขาป่าสงวนที่ดินเพาะปลูกรัฐก็ขายสัมปทานไปให้ทำเหมืองแร่ทองคำ เหมืองแร่โปแตส  ซึ่งจะมีการถางป่าเหี้ยนหมด ขุดหินพังภูเขาหมด  พื้นที่เพาะปลูกและห้วยหนองก็จะเค็มเพราะกากเกลือที่เหมืองโปแตสทิ้ง    พระแม่ธรรมชาติไทยไทยกำลังจะตายในอีกไม่นาน     เรื่องที่โมเดลประเทศไทย ควรวางแผนคือจะสร้างอุตสาหกรรมอะไรจึงจะเหมาะสมกับทะเลทรายไทยต่างหาก
     สำหรับเรื่อง “ความได้เปรียบเชิงวัฒนธรรม” ก็ทำนองเดียวกัน   เราไม่เข้าใจว่าท่านจะช่วงใช้ “ทุนทางวัฒนธรรม” กันอย่างไร ?    ด้านหนึ่งท่านบอกว่าจะต้องปลูกจิตสำนึก “ความเป็นผู้ประกอบการ” ให้เกิดขึ้นกับคนไทยทั้งมวล    อีกด้านหนึ่งท่านบอกให้สร้างความเข้มแข็งของชุมชน   สองด้านนี้เมื่อมองจากมุมคนทำงานด้านวัฒนธรรมแล้ว  มันขัดแย้งกันมาก เราจึงอยากจะเห็นคำอธิบายของรัฐที่เป็นรูปธรรมมากกว่านี้




ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้