“ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร
ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน
แม้อยู่ในใต้หล้าสุธาธาร
ขอพบพานพิสวาทมิคลาดคลา...”
เนื้อหาข้างต้น เป็นกลอนตอนหนึ่งจากกวีเอกของโลก "สุนทรภู่" จากเรื่อง "พระอภัยมณี" ที่ได้มีการดัดแปลงมาใส่ในเพลง "คำมั่นสัญญา" และในตอนนี้ “อาสาม ไทม์แมชชีน” แห่งทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ขอย้อนข่าวเล่าเรื่องเศร้า เคล้าไออุ่นรัก รับ วาเลนไทน์ กับ 4 คดีเหลือเชื่อ ที่พิสูจน์ว่า “รักแท้” มีอยู่จริง จนต้องทำทุกสิ่งเพื่อให้รู้ว่าเขาหรือเธออยู่นิรันดร์ สุดซึ้ง ‘พยาบาล’ วิวาห์กับ ‘วิญญาณตำรวจ’ชีวิตรัก และ การวิวาห์กับวิญญาณนี้ เป็นที่ฮือฮาเมื่อเดือนสิงหาคม 2557 หลังจากโลกสังคมออนไลน์แชร์ภาพจากเฟซบุ๊ก “ชรัณรัตน์ ค่ะ” ซึ่งเป็นรูปงานแต่งงานกับรูปเจ้าบ่าวพร้อมบรรยายภาพว่า “สวยมั้ย เจ้าสาวของพี่หนุ่ม ทำทุกอย่างเพื่อเธอที่รักของหนู” น.ส.ชรัณรัตน์ สมบัติทิพย์ หรือ ฝน อายุ 40 ปี เปิดเผยความรู้สึกถึงงานแต่งงานกับภาพสามี ว่า เธอมีอาชีพรับราชการ เป็นนางพยาบาลชำนาญการอยู่ที่ รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบลร่อนทอง ต.ร่อนทอง อ.สตึก ส่วนสามีคือ ด.ต.เปล่งศักดิ์ คำสานกอง อายุ 41 ปี สังกัดฝ่ายสืบสวน สภ.โนนดินแดง หลังจากคบหาดูใจกัน 4 เดือน ก็ตกลงกันว่า จะมาสู่ขอในเดือน 21 กรกฎาคม 2557 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของเธอ แต่ปรากฏว่าก่อนหน้านั้น 2 วัน ว่าที่สามีกลับต้องจากโลกไปก่อนวัยอันควร กับ อุบัติเหตุเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ “จากงานมงคลกลับต้องมาจัดงานศพแทน...ในวันพระราชทานเพลิงศพ ได้เด็ดใบไม้มาทำเป็นแหวนให้กับแฟนก่อนเผาเพื่อการแสดงความอาลัยรัก จากนั้นก็เหมือนวิญญาณแฟนหนุ่มก็วนเวียนอยู่ใกล้ๆ เหมือนกับว่า ยังไม่ได้ไปสู่ขอตามสัญญา ฝนเองก็รีกแฟนสุดหัวใจ จึงได้ตกลงกับผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ว่าจะเข้าพิธีแต่งงานกัน เพื่อให้แฟนไปสู่สุคติ” ....นี่คิดพลังแห่งความรัก ที่ทำให้คนเราสามารถทำได้ทุกสิ่งทุกอย่าง
 ตั้งใจมาส่งให้เขาขึ้นสวรรค์ หญิงวัย 23 แต่งชุด ‘เจ้าสาว’ เผาศพ ว่าที่เจ้าบ่าว ถูกรถชนดับก่อนแต่ง 13 วันอีกเรื่องที่คล้ายกัน คือ เหตุการณ์ ที่เพิ่งเกิดล่าสุดในเดือนแห่งความรักปีนี้ คือ ชีวิตรักของ สาวอาภัพ วัย 23 ปี น.ส.ณัฐธิดา มามูล ชาวเมืองโคราช ที่ต้องแต่งชุดเจ้าสาวในงานศพแฟนหนุ่มวัยเดียวกัน นายณัฐพล หรือ ต้อม อินทร์สำฤทธิ์ ในวันที่ 4 ก.พ.59 เนื่องจากฝ่ายชายประสบอุบัติเหตุขี่รถจักรยานยนต์ โดยถูกปิกอัพตามหลังมาทับร่างเสียชีวิต ว่าที่เจ้าสาวเล่าว่า ได้คบกับแฟน มา 4 ปี และมีกำหนดแต่งงานกันในวันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ ได้มีการวางแผน เชิญแขกร่วมงานไว้แล้ว แฟนตั้งใจมากที่จะสร้างครอบครัวให้อบอุ่น ไม่คิดว่าแฟนจะจากไปเร็วแบบนี้ จึงตั้งใจตอบแทนความรักด้วยการใส่ชุดไทยที่เตรียมไว้ในงานแต่งงาน และ ถือเป็นการแต่งงานและส่งแฟนขึ้นสวรรค์ “อยากเรียกร้องให้คนขับรถปิกอัพที่ขับชนเขาเสียชีวิตออกมารับผิดชอบ หรือ พูดคุยกับญาติผู้สูญเสียบ้าง เพราะพร้อมจะให้อภัย”
 ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับแฟนเธอด้วย
 สุดอาลัย...ใส่ชุดเจ้าสาว แต่งงานที่งานศพแฟน รักอมตะ อากง วัย 76 อยู่กับศพ อาม่า นาน 10 เดือน รักยืนยง 44 ปีแม้สังคมไทยในปัจจุบันจะมีความเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน แต่คนที่มี “รักแท้” ที่ใช้ชีวิต “เคียงคู่กันจนวันตาย” นั้น มีอยู่จริง เช่นคู่ของ “อากงเตี้ย” และ “อาม่าซกกี” 1 เมษายน 2558 เรื่องราวอากง อาม่า ที่รักกันจนวันตายถูกเปิดเผยต่อชาวโลก หลังเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าที่บ้านหลังหนึ่ง ใน ต.ท่ากระชับ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม มีกลิ่นเหม็นคลุ้งบ้าน เมื่อไปตรวจสอบก็พบศพ น.ส.ซกกี จู๋ยืนยง หรือ อาม่าซกกี วัย 82 ปี นอนอยู่ในมุ้งภายในบ้านพื้นยกสูง สภาพเน่าเปื่อย โดนมี นายยม จู๋ยืนยง หรือ อากงเตี้ย วัย 76 ปี ผู้เป็นสามีนั่งดูศพอยู่ไม่ห่าง พร้อมนำอาหารและเครื่องดื่มมาเซ่นไหว้ศพด้วย
 อากง อยู่กับศพ อาม่า นาน 10 เดือน นำอาหาร มาให้ทุกวัน ในทีแรก อากง ไม่ยอมบอก ว่า อาม่าซกกี เสียชีวิต อ้างว่าไปอยู่กับลูกชาย ที่ จ.ชัยภูมิ แต่เมื่อสอบถาม ลูกชายก็ได้รับคำตอบว่า ไม่ได้มาอยู่นานแล้ว เมื่อสอบถามหนักเข้า อีกทั้งบริเวณบ้านมีกลิ่นคลุ้งคล้ายศพ และมีคราบน้ำเหลืองไหลบริเวณขื่อบ้าน จึงไปสอบถามอากงเตี้ย อีกครั้ง จนยอมรับว่า อาม่าซกกี เสียชีวิต ด้วยโรคชรา เมื่อประมาณ 10 เดือนที่แล้ว “อยู่กินกับอาม่าซกกี มานาน 44 ปี มีลูกชาย 1 คน เมื่อลูกชายมีครอบครัวก็ย้ายไปอยู่ จ.ชัยภูมิ อากง อาม่า มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มีบ้าง ขาดบ้าง ก็ไม่เคยทอดทิ้งกัน วันไหนอาม่าอยากกินของแพง เช่นกุ้ง ก็จะเก็บเงินหาซื้อมาให้ ยิ่งตอนอาม่ามีอาการหลงลืม ก็ยิ่งไม่ทอดทิ้ง คอยดูแลปรนนิบัติหาข้าว น้ำ ขนม มาให้กินทุกวัน รวมทั้งเช็ดล้างสิ่งขับถ่าย”
 อากงเตี้ย อยู่กินกับ อาม่า นาน 44 ปี...แม้อาม่าซกกี สิ้นใจ ก็ยังห่วงใย นอนอยู่ด้วย ทุกเช้าก็จะนำข้าว ขนม นมมาให้ จากนั้นก็กินต่อ ความตั้งใจคืออยากเก็บศพไว้ เพื่อจะนอนข้างโลงศพ เพื่อให้ข้าว น้ำ เช่นเดิม จนกว่าตัวเองจะสิ้นลม จากนั้นใครจะทำอะไรกับศพ ก็แล้วแต่เห็นสมควร” อากงเตี้ย กล่าวถึงอาม่า ซกกี ด้วยความรักอย่างไม่เสื่อมคลาย... เมียเฝ้าศพ 2 เดือน “รักจนวันตาย”อีกคู่ที่สร้างตำนานรักอมตะ ถูกเปิดเผยในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2558 น.ส.สุนภา นามกร อายุ 50 ปี นอนเฝ้าศพ นายวิเชียร สุขเจริญ อายุ 47 ปี สามีที่เสียชีวิตจากโรควัณโรคเมื่อ 2 เดือนก่อน ภายในบ้านเลขที่ 37 หมู่ 6 ต.ท่าข้าม อ.สามพราน จ.นครปฐม เรื่องของเรื่อง คือ นายชนะ สุขเจริญ อายุ 52 ปี พี่ชายผู้ตาย ได้เดินทางจาก จ.เพชรบุรี มาเยี่ยมถามหาน้องชาย แต่ไม่ได้รับคำตอบจาก น้องสะใภ้ จึงขอความช่วยเหลือจากตำรวจให้เข้าตรวจสอบภายในบ้าน กระทั่งพบศพนายวิเชียรถูกเก็บอยู่ในห้องนอน ในสภาพแห้งกรัง ศพถูกเช็ดทำความสะอาด แถมมีแป้งฝุ่นหอมติดตามตัว หลังจนด้วยพยานหลักฐาน ในที่สุด น.ส.สุนภา ภรรยา ยอมรับว่าสาเหตุที่ไม่แจ้งให้ใครทราบและเก็บศพไว้ดูแลทำความสะอาดนั้น เป็นเพราะมีความรักและผูกพันกันมาก ไม่อยากแยกจากกัน
 รักจนวันตาย...ภรรยาเฝ้าศพสามี นานถึง 2 เดือน ใจจริงแล้วยังอยากอยู่กับสามีที่ตายไปแล้วอย่างนี้ตลอดไปจนกว่าจะตายตามกันไป แต่เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้แล้วก็ต้องทำใจให้นำศพไปดำเนินการตามประเพณี ส่วนเรื่องเถ้ากระดูกของสามีนั้นคิดว่าจะเก็บเอาไว้ก่อน และจะยังอยู่ที่บ้านหลังนี้ไปก่อน จะทำอย่างไรยังไม่รู้อยากแสดงออกให้รู้ว่าเธอรักสามีมาก “แม้จะมีเวลาอยู่ด้วยกันไม่ถึง 10 ปี แต่ความผูกพันมีให้กัน และกันมาก จะพยายามทำใจ ตอนนี้เขาแยกพี่จากไปแล้ว แต่เราจะรักกันจนวันตาย” น.ส.สุนภา กล่าวทั้งน้ำตานองหน้า ก่อนไปทำพิธีศพตามประเพณี ที่ วัดเทียนดัด ต.บ้านใหม่ อ.สามพราน ทั้ง 4 คดี คือเรื่องราวความรักอมตะ ที่ "อาสาม ไทม์แมชชีน" อยากจะร้อยเรียงให้ได้รับชม ซึ่งในตอนหน้า ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จะนำเรื่องที่เป็นตำนานมาฝากกันอีก ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้น โปรดติดตาม!!
 ใจจริงอยากอยู่แบบนี้ไปตลอด...ความในใจจากเธอ http://www.thairath.co.th/content/577368
| 
โพสต์ 2016-2-15 09:15
บุ๊คมาร์ก
