ประสบการณเครื่องรางของขลังโดยKOMSANVPRตอน " ว่านโพรง "

oustayutt

ช่วงนี้ผมแอดมิน KOMSANVPR เห็นมีกระทู้ เครื่องราง ที่มีส่วนผสมของ "ว่านโพง" ....มาปล่อยกันหลายกระทู้ จึงขอเขียนบทความนี้ เผื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจ จะได้ บูชาอย่างถูกวิธี และระวังถึงข้อห้ามได้อย่างถูกต้อง
" ว่านโพง " หรือ" ว่านผีโพง " หรือบางที่เรียก " ว่านกระสือ " จัดเป็นว่านอาถรรพ์ชนิดหนึ่ง ขึ้นอยุ่ในป่าลึก.....ป่าอาถรรพ์ ที่เจ้าป่า เจ้าเขาแรง ....ใข้ป่าบางส่วนเกิดจากพิษของว่าน หรือดอกว่าน เช่น ว่านกระสือ ว่านผีโพง ว่านกระดูกผีเป็นต้น ว่านกระสือนั้นถือเป็นสุดยอดของความเร้นลับในป่าดงดิบ เมื่อหัวว่านแก่จัดจะเกิดแสงเรืองรองรอบๆ กอว่าน ทำให้เกิดตำนานผีกระสือ ที่อยู่ใกล้ๆว่านนั้น....ส่วนใหญ่ผู้มีวิชานิยมเสาะหามาทำเป็นมวลสาร เด่นด้าน คงกระพัน เหนียวอย่างชัดเจน มีเรื่องที่ผมเคยอ่านผ่านๆมาเกี่ยวกับ " ว่านโพง " ดังนี้ครับ
มีคุณลุงผู้ร่ำเรียนด้านไสยเวทย์ ท่านหนึ่ง มีวิชาติดตัวพอสมควร ได้ไปช่วยพระชื่อดังทางเหนือรุปหนึ่ง...สร้างพระเครื่ิอง เครื่องรางของขลัง ที่นี้ ทางพระได้ติดต่อขอ ซื้อว่านโพงมาได้ประมาณ8หัว จากพรานป่าที่รับหาของอาถรรพ์ต่างๆ...ปรากกว่าตอนทำพิธี หุงว่านโพง โดยนำว่านโพงที่ได้ส่วนหนึ่ง ใส่ลงในหม้อต้ม ปรากฎว่า มีเงาดำๆ...เดินออกมาจากบริเวณหม้อต้ม เดินในปะรำพิธีแล้วหายไป ....โดยคนในพิธีเห็นกับตากันหมด...ปรากกว่า....ภายใน2-3วัน คนที่อยู่ในพิธีนั้น ทะยอยกันตายไปทีละคน-2คน โดยพระทางเหนือ บอกกับลุงว่า วิชาของท่านไม่พอที่จะสะกด ข่ม..อาถรรพ์ของว่านโพงนี้ได้ จึงให้ ลุงเอาว่านโพงที่เหลือ ไปทิ้งใน โถส้วม เพื่อเป็นการทำลายว่านโพงดังกล่าวเสีย เพราะถ้าขืน ปล่อยเอาไว้ อาถรรพ์จากว่านโพง จะเอาชีวิตผู้ร่วมพิธีทั้งหมด ไปด้วย ....ลุงแกได้ดำเนินการตามที่พระทางเหนือบอก
แต่ด้วยความเสียดาย ...ลุงแก่จึงได้แอบเก็บว่านโพงไว้2หัว โดยนำใส่ผ้ายันต์ และม้วนห่อด้วยสายสิญ และนำไปวางไว้บน หิ้งบูชาพระ โดยนำพระบูชา ตั้งล้อม ห่อว่านโพงไว้ทั้ง4ทิศ...แล้วลุงแกก็ เฝ้าเพียรหา อาจารย์ผู้มีวิชา ที่จะสามารถสะกด..เพื่อนำว่านโพงไปใช้ประโยชน์ได้
ต่อมาลุงแกได้ยินกิติศักดิ์...ว่า ท่านอ.ฤาษีคัมภีย์ แสนวัง เป็นผู้มีวิชาเข้มขลัง เรียกว่าถึงขั้นเป็นผู้ " เรืองพระเวทย์ "ผู้หนึ่ง จึงได้เดินทางมาขอพบ แล้วเล่าเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดจากว่านโพงให้ ท่านอ.ฤาษี คัมภีย์ฟัง พอฟังจบ ท่านอาจารย์ปรารภว่า เท่าที่ฟัง น่าจะเป็น ว่านโพงของแท้ แล้วบอกให้ลุงแกเอาออกมาให้ดูหน่อย โดยลุงแกบอกว่า....ไม่ได้นำติดตัวมาด้วย เอาผ้ายันต์ห่อแล้วเอาสายสิญมัดไว้แล้วเอาพระบูชาล้อมเอาไว้ .......ท่านอ.ฤาาษีคัมภีย์บอกให้ไปเเอามา ตัวท่าน พอจะแก้อาถรรพ์ได้ .....ลุงแกจึงเดินทางไปเอามาจากบ้านนำมาให้ ท่านอ.ฤาษีคัมภีย์ พอเอามาถึง ท่านอาจารย์ได้พิจารณาดูสักพัก แล้วบอกว่าเป็นว่านโพงของแท้ ....ให้นำว่านโพง2หัวนั้น ไปปักดินไว้ในบริเวณลานดินใกล้อาศรม โดยเอาไม้ปักไว้4มุม แล้ว นำสายสิญขึงล้อมเอาไว้ ...ปรากฎว่า....พอปักทิ้งไว้1คืน ....ตอนกลางวัน ท่านฤาษีได้ใช้ให้ลูกศิษย์ไปขุดว่านโพงมาให้ดู สักพักลูกศิษย์เดินมาบอกว่า......ว่านโพงเหี่ยวเฉา ตายเสียแล้ว เพราะโดนบรรดาไก่ ที่ท่านฤาษีเลี้ยงไว้ พากันมาขี่ใส่ .....เหล่าลูกศิษย์เลยพูดกัน ขำๆว่า ยังไม่ถึงท่านฤาษีเลย โดนไก่ของฤาษี จัดการก่อน สะแล้ว ( เครดิตเรื่องเล่าโดยกลุ่มลูกศิษย์ฤาษีคัมภีย์ แสนวัง เรื่องนี้อ่านมานานแล้ว เขียนจากความทรงจำ..ถ้าผิดพลาดประการใด ผมขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วยครับ )
มีคำเล่าลือมาว่า ขุนแผนท่านอ.เปล่ง บุญยืน รุ่นหนึ่ง ท่านอ.เปล่งได้ผสมว่านโพงลงไปเป็นมวลสารด้วย จึงทำให้ขุนแผนดังกล่าวของท่านแรงเป็นอย่างมาก
***มีข้อสำคัญอีก1ข้อ ที่จะต้องเตือน ผู้พกพา พระเครื่อง เครื่องราง ที่มีส่วนผสมของว่านโพงไว้ประการหนึ่ง คือ พระเครื่อง หรือเครื่องรางชิ้น นั้นๆ ห้ามโดนเลือดโดยเด็ดขาด...เพราะจะทำให้ ว่านโพง ที่ถูกสะกดไว้ ฟื้นตัว วิธีแก้ ก็ดั่งที่กล่าวในบทความข้างต้น
****
-----------------------
(ข้อมูลทางอินเตอร์เน็ท)
***" ว่านโพง " ว่านโพงนี้ชาวบ้านแถบอีสานว่านผีปอบ" ซึ่งขึ้นตามป่า
แถวภาคอีสาน โดยเฉพาะชายแดนที่ติดกับเขมร
ว่านนี้คนสมัยก่อนเชื่อกันว่ามีวิญญาณร้ายสิงอยู่ ว่านชนิดนี้ชอบกินเลือดสดๆ
หมอธรรมที่เป็นฆราวาสชอบนำว่านชนิดนี้มาเลี้ยงไว้เพื่อใช้ให้ทำงานต่างๆให้โดยเฉพาะการสั่งให้ไปทำร้ายคู่อริหรือฝ่ายตรงข้าม( เดรัจฉานวิชา)
ผู้ที่จะเลี้ยงว่านชนิดนี้ได้ต้องเป็นผู้ที่มีวิชาอาคมแกกล้าเข้าขั้นทีเดียว
จึงจะสามารถสะกดเหล่าดวงวิญญาณร้ายที่สิงอยู่ในว่านให้อยู่ภายใต้คำสั่งได้
หากมิฉะนั้นดวงวิญญารณเหล่านั้นที่อยู่ในว่านโพงจะก็จะทำร้ายและกินผู้เลี้ยงเป็นอาหารแทน ถ้าบ่สามารถสะกดดวงวิญญาณได้ ( เวรกรรม ) (ข้อมูลทางอินเตอร์เน็ท)
----------------------------------
(รูปประกอบและข้อมูลทางอินเตอร์เน็ท)*****ว่านโพง รูปนี้ผมถ่ายไว้ตอนอยู่ม.4คัฟ
ตอนทำโครงงานวิทยาศาสตร์ เป็นโครงงานสำราจสมุนไพร
ตอนแรกก็เคยได้ยินคำเล่าลือของคนแก่
ว่าว่านโพงนี้มีอยู่ที่วัดสวนป่า อ.ขุนหาญ
แต่ไม่เชื่อ ด้วยคึกคะนองของผมและเพื่อนๆตอนนั้น
เลยเข้าไปหาหลวงตา แล้วบอกว่าขอดูว่านโพงได้รึป่าวขอรับ
ตอนแรกหลวงตาบอกว่าอันตรายหลวงตาไม่ให้ดู หรอก
ผมและเพื่อนๆเลยเดินไปหาสมุนไพรหลังวัด พอได้สมุนไพรและย้อนกลับมาที่กุฏิ อีกครั้ง
เลยลองตื้อ หสวงตาอีก เพราะผมอยากรู้อยากเห็นมาก
หลวงตาเลยพาผมเพื่อนๆ เดินไปที่ป่าต้นหมาก หลังกุฏิ
ปรากกฏว่ามีสายสิญ รอบๆต้นหมาก แต่ไม่เห็นอะไร หลวงตาก็รอดเข้าไปในวง
ล้อมสายสิญ แล้วบอกว่าห้ามตามมา แล้วหลวงตาก็นั้งคุกเข่ากับพื่น ว่ามนต์
แล้วเอามือดึงหัวว่านอยู่ใต่ดินขึ้นมา แล้วเดินนำหน้าพวกผมออกมายืนตรงลานหน้า
กุฏิ แล้วให้ผมยื้นมือออกไป แล้วเอาหัวว่านมาวางใส่มือผม ผมถึงกับตกจัยคัฟ
เหมือนโดนไฟซ็อตเลยคัฟฟ เจ็บมาก ผมเลยโยนไปให้เพื่อนอีกคนหนึ่งเป็นผู้หญิง
มันก็รับเอา แล้วมันก็แป็บหนึ่งมันก็ตกจัย แล้วโยนลงลงพื่นดินต่อนหน้าหลวงตา
แล้วหลวงตาบอกว่า ขนาดมันยังไม่ออกใบ(ตอนนั้นช่วงน่าแล้ง)แล้วหลวงตาก็ใช้
มนต์ ผูกไว้ มันยังมีฤทธิ์ขนาดนี้ แต่ถ้าช่วงน่าฝน ว่านโพงออกใบ ถ้าใครเดินเข้าใกล้
มันจำทำร้ายถึงขาหัก ไม่ก็พิการไปเลย ไม่มีทางแก้ และตอนกล้าคืน ว่านชนิดนี้ก็
ออกหากินกบ เขียด เป็นแสงสีแดงกล่ำปนแสงสีเขียว ด้วยเหตุนี้หลวงตาจึงเอา
สายสิญมาล้อมเอาไว้ ถ้าใช้เป็นยาจะรักษาได้ดีมาก ถ้าใช้ในทางไสยศาสตร์ก็จะมี
ตาทิพย์ แต่จะกลายเป็นปอบคัฟฟ ตั้งแต่นั้นมาผมเชื่อสนิทใจว่า ไสยศาสตร์มีจริง
เป็นประสบการจริงผมเจอมากับตัวคัฟฟ (ข้อมูลทางอินเตอร์เน็ท)

oustayutt

****บทความนี้...เขียนขึ้นมา เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ ศึกษา สะสม พกพา และใช้เครื่องราง สายเสน่ห์ เพื่อเป็นความรู้และข้อควรระวัง (***กระบี่มี2คม..ระหว่างที่คมหนึ่งหันออกหาเป้าหมาย แต่อีกคมหนึ่งหันเข้าหาตัวเอง....การศึกษา ข้อดีและข้อเสีย รู้วิธีใช้และรุ้วิธีแก้ จึงเปรียบเหมือน ฝักกระบี่...จึงจะใช้กระบี่ได้อย่างเป็นประโยชน์สูงสุดและ ปลอดภัย KOMSANVPR )
++++( เพิ่มเติมบทความเพื่อความสมบูรณ์ โดยฉันคือชาย ผู้ขายโลก )คนที่เลี้ยงว่านโพงจะต้องเลี้ยงให้อิ่ม โดยใช้ของสดๆที่ยังมีชีวิตถ้าเลี้ยงไม่อิ่มว่านโพงจะออกไปหากินในรูปแบบลูกไฟสีเขียวที่มีในหน้าเป็นคนเลี้ยงเมื่อคนจับได้ก็จะบอกชื่อคนที่เลี้ยงคนที่เลี้ยงก็มักโดนขับไล่ออกจากหมู่บ้านด้วยข้อกล่าวหาว่าเป็นปอบ จิตวิญญาณในว่านโพงฆ่าไม่ตายไม่ว่าจะด้วยวิธีใดๆว่านโพงถ้าพลีดีๆจะใช้ดีมากๆแต่ถ้าพลีไม่ดีใช้อาคมสะกดพอถึงเวลาจิตวิญญาณทีอยู่ในเครื่องรางต่อให้บดเป็นผงเผาไฟไม่เกิน 20 ปีก็จะเกิดเป็นปอบออกมาจากเครื่องราง เกจิที่ใช้ว่านโพงทำเครื่องรางมีอยู่ไม่มากนักที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับกันคือ พ่อคำมา หงษ์ทอง จอมขมังเวทย์แห่งแดนอีสานใต้ว่านโพงของพ่อคำมารับรู้กันในหมู่เกจิคนมีวิชาว่าพลีดีไม่มีโทษแน่นอน อีกท่านก็คือ อ.เปล่ง บุญยืน สมเด็จจอมสุรินทร์เป็นหนึ่งเครื่องรางของท่านที่มีส่วนผสมของว่านโพง

Sornpraram

กระบี่มี2คม..

ระหว่างที่คมหนึ่งหันออกหาเป้าหมาย
แต่อีกคมหนึ่งหันเข้าหาตัวเอง


เตือนพี่อู๊ดหรือป่าวครับ ฮิฮิ

Sornpraram